เมื่อเหวินซิ่วซิ่วคิดว่าการสัมภาษณ์คงจะทำต่อไปได้ยาก และเธอก็เห็นว่าการแข่งเริ่มขึ้นแล้ว เธอเลยตัดสินใจตัดภาพเข้าสู่การแข่งขันทันที

 

ไม่นานรายชื่อนักกีฬาของทั้ง 2 ทีมก็ปรากฏขึ้น ทางฝ่ายเซนท์แชร์กแมงเป็นฝ่ายปรากฏก่อน

 

“ว้าว พวกเขาใช้นักกีฬาชุดที่ดีที่สุด พวกเขากะจะไม่ให้เหยี่ยวดำมีโอกาสได้โต้ตอบเลย”

“ใช่ ไม่คิดว่าพวกเขาจะใช้ชุดนี้เจอกับเหยี่ยวดำด้วยซ้ำ แค่นาลานเฉิงนั่วคนเดียวก็จัดการพวกเขาได้หมดแล้ว”

“ใครคือ ‘นักสู้สายลม’ ทำไมเขาถึงได้เป็นคนแรก?”

“นักสู้สายลมคือ หลี่ยู่ เด็กใหม่ที่มีพรสวรรค์ของเซนท์แชร์กแมง ฉันได้ยินมาว่าหวังหยางจินเอาชนะเขาได้แค่ 5 ครั้งจาก 10 เกมในตอนที่ฝึกซ้อม หลี่ยู่เป็นเด็กใหม่ที่มีศักยภาพมาก”

“โห ถ้าเขาแข็งแกร่งขนาดนั้น ปีนี้คงเป็นปีทองของเซนท์แชร์กแมงจริงๆ พวกเขาอาจจะแชมป์ก็ได้”

“แน่นอน”

“ฉันล่ะอยากจะรู้จริงๆว่าพวกเหยี่ยวดำจะพูดว่ายังไงตอนที่พวกเขาแพ้”

“ถ้าพวกเขาได้สักคะแนนก็ถือว่าโชคดีแล้ว”

…

 

ขณะที่ทุกคนกำลังแสดงความคิดเห็น รายชื่อนักกีฬาของเหยี่ยวดำก็ปรากฏขึ้น เพียงแค่มองครั้งแรกผู้ชมรมก็ถูกดึงดูดด้วยชื่อ ‘จักรพรรดิหมัดดำ’ ทันที

“จักรพรรดิหมัดดำ ใครกันที่มันกล้าตั้งชื่อแบบนี้?”

“แปลก ฉันไม่เคยเห็นชื่อนี้ในการแข่งมาก่อนเลย”

“เหยี่ยวดำจะกวนประสาทเกินไปแล้ว นอกจากบทสัมภาษณ์แล้วยังจะชื่อไอดีอีก”

“จักรพรรดิหมัดดำ ฮาฮา ฉันคิดว่าเขาต้องโดนอีกฝั่งจัดหนักแน่”

“ฮาฮา เขาต้องลงแข่งเป็นครั้งแรกแน่ มาดูกันว่าจักรพรรดิจะเป็นยังไง”

 

เมื่อฝ่ายเซนท์แชร์กแมงเห็นชื่อไอดีก็หัวร้อนทันที เป็นชื่อที่อวดดีเกินไป

“หลี่ยู่ทำให้ดีที่สุด อย่าให้พวกมันมีโอกาสโต้กลับ !” หวังหยางจินจับไหล่หลี่ยู่และพูด

 

“ไว้ใจผมได้เลยรุ่นพี่” หลี่ยู่เองก็คิดว่าชื่อไอดีนี้อวดดีเกินไปเช่นเดียวกัน

 

เหวินซิ่วซิ่วเองก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน เธอไม่คิดว่าพวกเหยี่ยวดำจะกล้าตั้งชื่อแบบนี้ และเธอก็ไม่เคยเห็นชื่อไอดีนี้ในการแข่งขันมาก่อน

 

‘ใครกัน? นักกีฬาหน้าใหม่งั้นหรอ?’ เหวินซิ่วซิ่วคิด เมื่อเธอดูข้อมูลก็เพราะว่าเขาไม่ใช่ผู้เล่นหลักของเหยี่ยวดำ เขาต้องเป็นตัวสำรองแน่นอน แต่การแข่งขันแบบนี้ปรกติผู้เล่นตัวสำรองแทบจะไม่มีโอกาสได้ลงเลย

 

‘ด้วยชื่อไอดีแบบนั้น เขาคงมั่นใจในตัวเองมากเกินเหมือนกับพวกเหยี่ยวดำคนอื่นๆ’

เหวินซิ่วซิ่วกำลังสงสัยว่าทำไมทีมเหยี่ยวดำถึงได้มั่นอกมั่นใจขนาดนั้น ทั้งๆที่คู่ต่อสู้คือเซนท์แชร์กแมงที่เป็นตัวเต็งในรายการ

 

“จักรพรรดิหมัดดำ คือตัวสำรองของเหยี่ยวดำ ชื่อจริงของเขาก็คือ หานเซิ่น อายุ 17 ปี เป็นเด็กใหม่ของเหยี่ยวดำ และยังไม่เคยลงแข่งมวยขาวและดำมาก่อน ดูเหมือนว่านี่เป็นการแข่งครั้งแรกของเขา…” เหวินซิ่วซิ่วอ่านข้อมูลให้ผู้ชมฟัง

 

“เป็นแค่เด็กใหม่ ทำไมถึงกล้าอวดดีแบบนี้?”

“เด็กหนุ่มคนนี้คงโดนบดขยี้แน่”

“เหยี่ยวดำกล้าส่งคนที่ไม่มีประสบการณ์ลงแข่งเลยหรอเนี่ย”

ผู้ชมจำนวนมากที่ดูรายการอยู่กำลังขบขันเกี่ยวกับไอดีนี้ ด้วยชื่อไอดีของเขาดูเหมือนว่ามันจะกวนประสาทใครหลายๆคน

 

พวกเขาจำหานเซิ่นไม่ได้ ทั้งๆที่งานเปิดตัวSKTSเป็นข่าวใหญ่และดังมาก แต่ผู้คนกับไม่ยอมจำชื่อนักแสดงในตอนนั้น

 

ในการเปิดตัวครั้งนั้น คนที่ทุกคนจำได้ว่าเป็นนักแสดงก็มีแค่อวี้เฉียนซุนคนเดียว

 

แม้พวกเขาจะรู้สึกคุ้นๆชื่อบ้าง แต่ก็ไม่ใครเชื่อมโยงมันกับนักขับวอเฟรม เนื่องการแข่งมวยขาวและดำกับวอเฟรมแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน

 

“พวกคุณกำลังพูดอะไรกัน? จักรพรรดิหมัดดำคืออัจฉริยะของเรา และเขายังเอาชนะผู้ถูกเลือกอวี้ซื่อหมิงได้ในการแข่งมวยขาวและดำ”

“ฮาฮา ยังจะมีคนมาช่วยโม้อีก”

“ฮาฮา พวกนักเรียนเหยี่ยวดำมันก็ขี้โม้เหมือนๆกันหมด เอาชนะอวี้ซื่อหมิงได้งั้นหรอ สงสัยว่าจะในความฝัน ฮาฮา”

“อวี้ซื่อหมิงไม่ใช่นักกีฬามวยขาวและดำเลยด้วยซ้ำ ก่อนจะโกหกช่วยหาข้อมูลให้ดีก่อน”

“พวกเหยี่ยวดำมันก็เก่งแต่ปาก..”

…

 

แม้จะมีนักเรียนของเหยี่ยวดำพยายามช่วยแสดงความเห็น แต่ความเห็นของคนจำนวนมากมีแต่ด้านลบทั้งนั้น นี่ทำให้พวกนักเรียนเหยี่ยวดำโกรธมาก พวกเขาต่างก็รู้ถึงฝีมือของหานเซิ่นดี

 

จีเหยียนหรันเป็นหนึ่งในคนที่เดือดมากที่สุดในเหยี่ยวดำ เธอพยายามพิมพ์ตอบโต้ด้วยความเร็วสูงสุด แต่ก็ทำให้อะไรไม่ได้ เพราะนักเรียนเหยี่ยวดำมีเพียงแค่หยิบมือ ถ้าเทียบกันคน 10 ล้านคนที่กำลังดูรายการอยู่ เมื่อเห็นความคิดเห็นจำนวนมากดูถูกเหยี่ยวดำและหานเซิ่น เธอก็หน้าซีดทันที

 

ถ้าคนมาดูถูกเธอ เธออาจจะยอมรับได้ แต่ถ้ามาดูถูกแฟนและโรงเรียนของเธอ เธอไม่สามารถยอมรับได้

 

“นายเอาชนะได้ใช่ไหม?” จีเหยียนหรันส่งข้อความไปหาหานเซิ่น

 

“แน่นอน” หานเซิ่นตอบแบบสบายๆ

 

“ถ้านายทำให้พวกเซนท์แชร์กแมงแพ้แบบ 0 คะแนนได้ ฉันจะเลี้ยงอาหารเย็นเอง” จีเหยียนหรันส่งข้อความไป

 

“แค่อาหารเย็นเองหรอ?” หานเซิ่นตอบ

 

“และจูบด้วย” จีเหยียนหรันตอบกลับอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเล

 

“เยี่ยม” เมื่อหานเซิ่นเห็นข้อความของเธอ เขาก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที แม้พวกเขาจะเป็นคู่รักกันแล้ว แต่จีเหยียนหรันยังอายเวลาอยู่ในโรงเรียน มันยากมากที่จะได้จูบเธอในโรงเรียน

 

แต่หานเซิ่นรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปรกติ เพราะอยู่ๆจีเหยียนหรันก็ส่งข้อความมา เขาจึงส่งข้อความไปถามซื่อจื้อคังว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ซื่อจื้อคังบอกเขาเกี่ยวกับรายการสด และใบหน้าของหานเซิ่นก็มืดมนทันที หลังจากที่เขาดูข้อมูลคู่ต่อสู้อย่างละเอียดแล้ว เขาก็พูดด้วยเสียงเบาๆ

“เดี๋ยวพวกนายจะได้รู้ว่าผลของการทำให้แฟนของฉันโกรธว่ามันจะเป็นยังไง”

 

 

Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/

ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 660 แล้วครับ