หานเซิ่นหวังจะเจอควีนของสถาบันเอเรสอีกครั้ง แม้หานเซิ่นจะรู้ดีว่าในตอนนี้ระดับของเขายังห่างชั้นกับหล่อนมาก แต่เขาก็อยากจะเจอกับคู่ต่อสู้ที่เป็นระดับแนวหน้าของผู้วิวัฒนาการสักครั้ง

 

ยังไงซะพวกเขาก็ต่อสู้กันด้วยเครื่องจำลองอยู่แล้ว เขาจะเห็นทักษะอันสุดยอดของหล่อนแบบใกล้ชิด

 

หานเซิ่นเคยเห็นผู้วิวัฒนาการเก่งๆในกลอดิเอเอตร์มามากมาย และบางคนสามารถเอาชนะหานเซิ่นได้ด้วยการโจมตีเพียง 2 ถึง 3 ครั้งเท่านั้น แต่ถึงพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ไม่ทำให้รู้สึกตัวสั่นหรือกดดันเท่ากับควีน

 

ในระหว่างนับถอยหลัง หานเซิ่นมองคู่ต่อสู้ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม

 

“นั่นหล่อนจริงๆ!” เมื่อเห็นผู้หญิงรูปร่างสูง หานเซิ่นก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที แม้ใบหน้าของหล่อนจะเบลอๆ เนื่องจากระบบของแพลตฟอร์ม แต่หานเซิ่นก็จำหล่อนได้ในทันที

 

แค่ยืนต่อหน้าหล่อนเขาก็รู้สึกกดดันแล้ว ต่อให้ไม่เห็นหน้าเขาก็ยังจำความรู้สึกนี้ได้

 

ควีนเป็นคนที่ค่อนข้างพิเศษ หล่อนเยือกเย็น มีความภูมิใจและสันโดด เธอแตกต่างจากทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกราวกับเป็นราชินีจริงๆ

 

ซึ่งมันไม่ได้มาจากการแสร้งทำหรือการฝึกซ้อม แต่เหมือนมันมาจากจิตใจและบุคลิกของหล่อนจริงๆ

 

แม้หานเซิ่นจะไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆควีนถึงได้ท้าเขาประลอง แต่คำท้าของเธอก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมาก ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ก็ไม่ใช้เรื่องสำคัญ หานเซิ่นอยากลองสู้กับคนที่เก่งจริงๆดูสักครั้ง

 

เหตุผลที่ควีนท้าหานเซิ่นประลองไม่ใช่เพราะว่าหล่อนเห็นอะไรในตัวหานเซิ่น จริงๆแล้วควีนไม่ได้รู้จักหานเซิ่นเลยด้วยซ้ำ

 

ไม่มีใครสั่งให้ควีนทำอะไรที่เธอไม่ต้องการทำได้ ยกเว้นเพียงแค่คนเดียวก็คือประธานของสถาบันเอเรส หวงฟูสงเฉิง เพราะสวี่จูได้แนะนำ ทหารคนหนึ่งบนยานรบให้กับเชียนเหอเจิ้น ทำให้เชียนเหอเจิ้นรู้สึกสนใจอยากลองสู้กับคนคนนี้ดูสักครั้ง

 

แต่กระนั้นหวงฟูสงเฉิงก็มีกฎที่เข้มงวดสำหรับการฝึกซ้อมของเชียนเหอเจิ้น ถ้าเชียนเหอเจิ้นต้องการจะประลองกับใคร เขาสามารถท้าประลองกับใครก็ได้ในสถาบันเอเรส แต่ถ้าต้องการประลองกับคนนอกจะต้องได้รับอนุญาตจากหวงฟูสงเฉิงก่อน

 

หลังจากได้ฟังคำขอของเชียนเหอเจิ้น หวงฟูสงเฉิงก็ไม่ได้ห้ามเชียนเหอเจิ้น แต่เขาได้ขอให้ควีนไปตัดสินว่าหานเซิ่นมีคุณสมบัติพอจะเป็นคู่ต่อสู้ของเชียนเหอเจิ้นได้หรือเปล่า

 

หวงฟูสงเฉิงตั้งความหวังกับเชียนเหอเจิ้นไว้สูงมาก และไม่ต้องการให้มีอะไรมารบกวนการฝึกซ้อมของเชียนเหอเจิ้น หวงฟูสงเฉิงไม่ต้องการให้คู่ต่อสู้ของเชียนเหอเจิ้นแข็งแกร่งหรืออ่อนจนเกินไป ถ้าคู่ต่อสู้ของเขาไม่มีคุณสมบัติที่ดี ก็อาจจะส่งผลต่อการพัฒนาของเชียนเหอเจิ้น หวงฟูสงเฉิงจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ซึ่งเขาก็ไว้ใจให้ควีนตัดสินใจว่าหานเซิ่นมีคุณสมบัติที่จะได้สู้กับเชียนเหอเจิ้นหรือไม่

 

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมควีนถึงได้ส่งคำท้าประลองให้หานเซิ่น ควีนมั้งจะเข้ามาดูการต่อสู้ในกลาดิเอเตอร์บ่อยๆ วันนี้เมื่อเธอเห็นว่าหานเซิ่นออนไลน์เลยส่งคำท้าดวลไป

 

แม้หานเซิ่นจะไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เขาก็กระตือรือร้นอยากจะสู้กับควีนมาก

 

หลังจากการนับถอยหลังสิ้นสุดลง หานเซิ่นเข้าไปในสนามประลองโดยไม่มีความลังเล หานเซิ่นใช้มนตรานอกรีต เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหัวใจ เลือดและพลังภายในของเขา ระดับความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นในชั่วพริบตา

 

หานเซิ่นบุกเข้าจู่โจม และออกหมัดใส่ควีนโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขากลัวว่าถ้าไม่รีบใช้พลังทั้งหมดออกมาละก็ เขาอาจจะไม่มีโอกาสอีก ควีนคือคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยสู้มา เธอแข็งแกร่งกว่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดของก็อตแซงชัวรี่ 1 มาก ดังนั้นหานเซิ่นเลยใส่พลังทั้งหมดไปในหมัด

 

ตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าควีนจะโต้กลับมาอย่างรุนแรง ซึ่งมันเป็นสไตล์การต่อสู้ของเธอ

 

แต่ทว่าควีนเพียงแค่หลบหมัดของหานเซิ่นอย่างง่ายๆ และไม่ได้โจมตีโต้ตอบ

 

หานเซิ่นอึ้ง แต่เขาไม่มีเวลาคิดอะไรแล้ว เขาพยายามออกหมัดต่อไป เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ระดับนี้ มันจะเป็นอะไรที่วิเศษมาก ถ้าเขาสามารถสู้ได้นานๆโดยไม่แพ้ไปเสียก่อน

 

หมัดที่เขาใช้พลังทั้งหมดชกออกไป แต่ควีนกับหลบมันง่ายๆด้วยการก้าวเพียงก้าวเดียว การโจมตีของเขาไร้ผลโดยสิ้นเชิง

 

หานเซิ่นตัดสินใจใช้การโจมตีที่ไร้รูปแบบของโครงกระดูกในทันที เขาพยายามคาดเดาการเคลื่อนไหวของควีน และโจมตีไปในตอนที่การป้องกันของเธอตกลง แต่ทว่าหล่อนก็เปลี่ยนจังหวะการต่อสู้ทันที ทำให้การโจมตีของเขาต้องสูญเปล่า

 

หานเซิ่นยังไม่เคยเจอคู่ต่อสู้คนไหนที่จะสามารถเปลี่ยนจังหวะการต่อสู้ได้อย่างฉับพลันแบบนี้มาก่อน ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจมาก

 

ไม่ว่าความสามารถในการอ่านการเคลื่อนไหวและเดาใจของหานเซิ่นจะดีแค่ไหน เขาก็ต้องอาศัยจังหวะของคู่ต่อสู้ในการคาดเดา แต่ควีนกับสามารถเปลี่ยนจังหวะได้อย่างที่ใจต้องการ ทำให้หานเซิ่นไม่สามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของเธอได้ ทักษะการคาดเดาที่เป็นไม้เด็ดของหานเซิ่นตอนนี้กับไร้ประโยชน์

 

ถึงหานเซิ่นจะช็อค แต่เขาก็ยังไม่สูญเสียความสุขุมเยือกเย็นไป เขาพยายามใช้ทุกวิธีที่เขารู้ในการโจมตีควีน

 

แม้หานเซิ่นจะไม่รู้ว่าทำไมควีนถึงไม่ตอบโต้กลับมาบ้าง แต่เขาก็รู้สึกดีที่ได้ต่อสู้กับคนที่เก่งขนาดนี้

 

โดยทั่วไปแล้วผู้วิวัฒนาการระดับแนวหน้าอย่างหล่อนจะไม่รับคำท้าจากคนอื่นง่ายๆ แต่ครั้งนี้ควีนถึงขนาดส่งคำท้ามาเอง หานเซิ่นไม่สนว่าทำไมหล่อนถึงไม่โต้ตอบ ตราบใดที่เขามีโอกาสได้ฝึกซ้อมกับหล่อน

 

แต่กระนั้นไม่ว่าหานเซิ่นจะใช้เทคนิคการโจมตีแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเทคนิคการลอบโจมตี เทคนิคของโครงกระดูก 13 คมดาบ เพลงดาบวายุ ไม่มีอะไรใช้กับควีนได้ผลเลย เขาไม่สามารถสัมผัสถูกแม้แต่เสื้อของเธอเลย

 

แต่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ เพียงแค่หลบการโจมตีของหานเซิ่นอย่างเดียว แต่ควีนกับสามารถไล่ต้อนให้หานเซิ่นเข้ามุมได้ และตัวหานเซิ่นเองก็ไม่รู้เลยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง

 

หานเซิ่นช็อค เขาเป็นคนเดียวที่ทำการกระหน่ำโจมตีอย่างหนัก แต่ควีนกับเป็นฝ่ายไล่ต้อนเขาจนเข้ามุมได้ เขาแทบจินตนากรไม่ออกเลยว่าเขาห่างชั้นกับหล่อนขนาดไหน

 

ในที่สุดเมื่อหานเซิ่นถูกต้อนจนมุมแล้ว ควีนก็ทำการโจมตีครั้งแรก ด้วยการกระโดดขึ้นไปในอากาศ และเตะไปที่หน้าอกของหานเซิ่น