อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 538 ชี่กง
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
จีเหยียนหรันเริ่มอธิบายเกี่ยวกับงานแลกเปลี่ยนที่จะจัดขึ้นให้หานเซิ่นฟังอย่างช้าๆ หลังจากฟังไปได้ไม่นานหานเซิ่นก็เข้าใจ ซึ่งมันทำให้หัวใจของเขาต้องเต้นรัว
ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เป็นเลิศที่เขาได้จากเน็ตมันค่อนข้างจำกัด ประชากรทั้งสหพันธ์ดวงดาวมีมากกว่าล้านล้านคน แต่จำนวนของคนที่เป็นผู้เป็นเลิศนั้นมีไม่ถึง 1 ล้าน ซึ่งสัดส่วนมันน้อยกว่า 1 ในล้าน
คนทั่วไปรู้ดีว่าก็อตแซงชัวรี่เขต 3 เป็นสถานที่ที่อันตรายมาก และผู้เป็นเลิศก็มีพลังที่เหนือมนุษย์มาก พวกเขาจะมีพลังที่มนุษย์ปรกติไม่สามารถมีได้ ก็อตแซงชัวรี่เขต 3 เป็นยังไง เขาธรรมดาๆไม่มีทางรู้ได้
คนส่วนมากรู้แค่ว่ามอนสเตอร์ในก็อตแซงชัวรี่เขต 3 แข็งแกร่งมากๆ และนั่นก็คือทั้งหมดที่พวกเขารู้
ส่วนข้อมูลของสหพันธ์ที่พูดถึงก็อตแซงชัวรี่เขต 3 ก็ไม่ได้เป็นข้อมูลที่ละเอียดอะไร พวกเขาให้ข้อมูลว่ามอนสเตอร์สามัญของก็อตแซงชัวรี่เขต 3 มีระดับความแข็งแกร่งอย่างน้อยๆ 300
แค่ได้รู้แค่นี้ก็ทำให้ทุกคนกลัวแล้ว มนุษย์ที่พึ่งวิวัฒนาการอย่างมากก็มีระดับความแข็งแกร่ง 30 และถ้าพวกเขาได้รับจีโนพ้อยจากก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาก็จะขึ้นไปสูงสุดได้ประมาณ 130-150
ระดับความแข็งแกร่ง 150 หาได้ยากมากๆในหมู่ผู้วิวัฒนาการ และมันก็คือขีดจำกัดของมนุษย์ยุคนี้ มีแค่คนที่มีระดับความแข็งแกร่งแถวๆ 150 เท่านั้น ถึงจะกล้าเข้าไปแช่ในบ่อแห่งการวิวัฒนาการและวิวัฒนาการเป็นผู้เป็นเลิศ แต่กระนั้นหลังจากที่วิวัฒนาการระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาก็จะพอๆกับมอนสเตอร์ที่อ่อนที่สุดในก็อตแซงชัวรี่เขต 3 เท่านั้น
มันยากมากที่มนุษย์จะไปถึงขั้นนั้นได้ ดังนั้นคงไม่มีใครหวังว่าจะอยู่รอดในก็อตเเซงชัวรี่เขต 3 ได้ ยิ่งถ้าเป็นเจอกับมอนสเตอร์ที่อยู่รวมกันเป็นฝูง ยิ่งยากขึ้นไปอีก
แม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่อวิวัฒนาการก็ยังอ่อนแอกว่ามอนสเตอร์ที่อ่อนที่สุดในก็อตแซงชัวรี่เขต 3 เพราะเหตุนี้ทำให้คนส่วนมากไม่กล้าวิวัฒนาการเป็นผู้เป็นเลิศ
จีเหยียนหรันบอกว่าการที่จะไปให้ได้ถึงขนาดนั้น มีทางเดียวมนุษย์จะต้องพึ่งวิชาไฮเปอร์จีโน มนุษย์ที่สามารถขึ้นไปถึงระดับความแข็งแกร่ง 300 จะถูกเรียกว่าสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ มีระดับเทียบเท่ากับสิ่งมีชีวิตบนสวรรค์หรือเทียบได้กับคำว่า ‘เซียน’ ในสมัยโบราณ คนที่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิจะได้รับพลังที่เหนือธรรมชาติมา พวกเขาจะสามารถสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนท้องฟ้าได้
พวกเขาสามารถดูดซับพลังจากจักรวาล พวกเขาไม่จำเป็นต้องกินอาหารอีกต่อไป
มนุษย์คนใดไปถึงระดับที่สามารถควบคุมพลังของจักรวาลได้ อย่างเช่นแอนนี่ที่สามารถสั่งหรือบังคับสายฟ้าได้ ส่วนคนอื่นๆก็อาจจะมีความสามารถในการควบคุมน้ำ ไฟหรือแม้แต่เวลาและมิติ
การจะปลดปล่อยพลังแบบนั้นออกมาได้จะต้องพึ่งพาวิชาไฮเปอร์จีโน แต่มันไม่ใช่วิชาไฮเปอร์จีโนแบบทั่วๆไป
จีเหยียนหรันพูดคำที่หานเซิ่นคุ้นเคยขึ้นมา ‘ชี่กง’ มีเพียงแค่วิชาไฮเปอร์จีโนที่ดัดแปลงหรือพัฒนามาจากวิชาชี่กงเท่านั้น ที่จะสามารถใช้พลังจากจักรวาลได้
จีเหยียนหรันยังบอกอีกว่าวิชาชี่กงบางวิชา ผู้ฝึกไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้เป็นเลิศก็ได้ แม้แต่คนที่อายุน้อยๆก็สามารถใช้หรือดึงพลังจากจักรวาลได้
แต่ก่อนที่จะไปถึงระดับสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ พลังที่พวกเขาดูดซับจากจักรวาลได้นั้นจะน้อยมาก ดังนั้นวิชาที่พวกเขาฝึกจะยังใช้ได้ไม่มีประสิทธิภาพ แต่ถ้าฝึกไปหลายๆปี ประสิทธิภาพในการดูดซับพลังก็จะสูงขึ้น และถ้าคนคนนั้นได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ คนคนนั้นก็จะแข็งแกร่งกว่าคนปรกติมาก
แต่มีน้อยคนมากที่จะทำได้ แม้แต่คนที่มีพรสวรรค์สูงมากก็ยังใช้พลังงานจากธรรมชาติหรือจักรวาลไม่ได้ พวกเขาจะต้องรอจนกว่าจะวิวัฒนาการเป็นผู้เป็นเลิศก่อน
ตระกูลจีเป็นตระกูลที่สืบทอดวิชาชี่กง แต่อย่างไรก็ตามตระกูลที่สืบทอดวิชาชี่กงมาตั้งแต่โบราณยังมีอีก 3 ตระกูล ซึ่งแต่ละตระกูลจะสืบทอดวิชาชี่กงมาจากต้นกำเนิดเดียวกัน แต่ภายหลังก็ได้พัฒนาไปกันคนละทาง ทำให้วิชาที่ได้มีความแตกต่างกัน
“จี หลิน หวัง เสวีย” จีเหยียนหรันพูดชื่อตระกูลทั้ง 4 ให้หานเซิ่นฟัง ซึ่งมันทำให้หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว
การฆ่าเสวียหลงเหยียน ทำให้เขาได้วิชากายหยกมา เมื่อเขาได้รับมันมา เขาก็จับตามองตระกูลเสวียมาโดยตลอด แต่เขาก็ไม่พบข้อมูลของตระกูลนี้เลย
แต่ตอนนี้อยู่ๆคำว่าเสวียก็ออกมาจากปากของจีเหยียนหรัน ทำให้สีหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไปทันที
“ถ้าเป็นไปได้ นายควรหาทางทำให้ระดับความแข็งแกร่งขึ้นไปถึง 150 ก่อนแล้วค่อยวิวัฒนาการเป็นผู้เป็นเลิศ จำไว้ว่ายิ่งเยอะก็ยิ่งดี” จีเหยียนหรันบอกกับหานเซิ่น
“ทำไม? หลังจากที่กลายเป็นผู้เป็นเลิศแล้วจะต้องทำให้ระดับความแข็งแกร่งเกิน 300?” หานเซิ่นถาม
“300 คือระดับที่จะเป็นสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ แต่ตัวเลขนี้ก็จะแตกต่างกันออกไปตามพรสวรรค์ของแต่ละคน ถ้านายมีพรสวรรค์สูง นายก็อาจจะไม่ต้องถึง 300 ก็ได้ แต่ยังไงนายก็ควรจะสร้างฐานให้มันเยอะๆไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะหลังจากที่วิวัฒนาการเป็นผู้เป็นเลิศแล้ว นายจะไม่สามารถกลับมาเก็บจีโนพ้อยของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ได้อีก ซึ่งถ้าถึงตอนนั้นแล้วระดับความแข็งแกร่งของนายไม่พอจะเป็นสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ นายก็จะเอาชีวิตรอดได้ยากมาก ทำให้ระดับความแข็งแกร่งของตัวเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากกลายเป็นผู้เป็นเลิศแล้วทุกอย่างก็จะสมบูรณ์แบบ” จีเหยียนหรันแนะนำหานเซิ่นอย่างจริงจัง
ที่จีเหยียนหรันต้องไปเข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนก็เพราะว่ามันคืองานที่จัดขึ้นเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับวิชาชี่กงของทั้ง 4 ตระกูล
จีเหยียนหรันยังบอกอีกว่าที่งานแลกเปลี่ยน เขาอาจจะได้เจอกับคนที่คุ้นเคยก็ได้
“ใคร?” หานเซิ่นถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“หวังเหมียนเหมียนจากตระกูลหวัง ฉันได้ยินว่านายสนิทกับเธอมาก” จีเหยียนหรันพูดพร้อมกับยิ้ม เธอมองหานเซิ่นด้วยสายตาแปลกๆ
“เหมียนเหมียนปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นพี่ ส่วนฉันก็ปฏิบัติกับเธอเหมือนเธอเป็นน้องคนหนึ่งมันก็แค่นั้น เรื่องนี้เธอไม่รู้หรอ?” หานเซิ่นประหลาดใจเล็กน้อย เขารู้ว่าหวังเหมียนเหมียนจะต้องไม่ใช่คนปรกติธรรมดา แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะเป็นทาญาติของตระกูลที่สืบทอดวิชาชี่กง
หานเซิ่นต้องการถามจีเหยียนหรันเกี่ยวกับตระกูลเสวียและวิชากายหยก แต่เขาก็ตัดสินใจเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ
“ฉันไม่คิดว่าฉันควรไปร่วมด้วยนะ งานแบบนี้เธอจะให้ฉันไปด้วยจริงๆหรอ?” หานเซิ่นพยายามลองเชิงจีเหยียนหรันว่าอยากให้เขาไปมากแค่ไหน
ถ้าเสวียนหลงเหยียนเป็นคนของตระกูลเสวียจริงๆ มันจะต้องเป็นเรื่องแน่ ถ้าคนของตระกูลเสวียรู้เรื่องที่เขาฝึกกายหยก
จีเหยียนหรันมองตาของหานเซิ่น พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงขู่บังคับ “นายต้องไป!”
หลังจากนั้นเธอก็หน้าแดง เธอลดเสียงลงและพูด “แม้นายจะสามารถซื้อวิชาไฮเปอร์จีโนที่ดัดแปลงมาจากวิชาชี่กงจากสถาบันเซนท์ได้ แต่นั่นก็เป็นแค่วิชาชี่กงระดับต่ำ ทั้งนายและฉันควรจะไปที่งานแลกเปลี่ยนเพื่อเรียนรู้ให้มากที่สุด ในอนาคตเมื่อพวกเราแต่งงานกัน นายจะสามารถเรียนวิชาชี่กงที่สืบทอดในตระกูลฉันได้”
เมื่อพูดคำว่าแต่งงานหน้าของจีเหยียนหรันก็แดง หลังพูดจบเธอก็เงียบไปเลย
“ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็คงต้องไป” หานเซิ่นรู้ว่ายังไงสักวันเขาก็ต้องเจอกับคนตระกูลเสวีย เขาจะเลี่ยงไปตลอดไม่ได้
คนที่ไปงานแลกเปลี่ยนมีหลายคน มันยากที่พวกเขาจะสังเกตและรู้ว่าหานเซิ่นฝึกกายหยก และอย่างน้อยๆถ้าไปหานเซิ่นก็จะได้ไปดูให้รู้ว่าเสวียหลงเหยียนเป็นคนของตระกูลเสวียจริงรึเปล่า
ส่วนเรื่องวิชาชี่กงของตระกูลจี หานเซิ่นไม่ได้สนใจ เขาต้องการแค่ฝึกวิชาในคัมภีร์ตงเสวียนให้หมดก็พอ ไม่ว่าชี่กงของตระกูลจีจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นคนจากตระกูลไหนเดินทางข้ามมิติได้มาก่อน ดังนั้นศาสตร์ตงเสวียนจะต้องเป็นวิชาชี่กงที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน
จีเหยียนหรันพาหานเซิ่นไปที่งานแลกเปลี่ยน แอนนี่เองก็ตามไปด้วย แต่หลังจากที่พวกเขาไปถึงสถานที่จัดงาน แอนนี่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องรออยู่ข้างนอก
เหตุผลที่จีเหยีนหรันพาหานเซิ่นมาด้วยก็เพราะเธออยากจะพาเขามาเปิดตัวให้คนอื่นๆได้เห็น ตอนนี้ทุกคนในตระกูลต่างก็รู้หมดแล้วว่าเขาเป็นแฟนของเธอ และพวกเขาก็หมั่นกันแล้วด้วย
“หลินเฟิง” หานเซิ่นยังเห็นหวังเหมียนเหมียนในงานนี้ แต่เขาเจออีกคนที่รู้จัก
คอมเม้นต์