อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 557 ตะวันหยก
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
เมื่อหานเซิ่นกลับมาที่ห้อง เขาก็เริ่มศึกษาวิชาตะวันหยกทันที ด้วยความรู้ภาษาโบราณของเขา ทำให้เขาไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการตีความหมายเท่าไหร่
ตัวอักษรเป็นแบบโบราณและเนื้อหาของวิชาก็ยอดเยี่ยมเหมือนกับที่จูถิงบอกจริงๆ เหมือนว่ามันจะเป็นวิชาที่ดีในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับไต
ขณะที่เขาจ้องมองข้อความอย่างต่อเนื่อง เขาก็รู้สึกได้ถึงออร่าจากมัน ขณะที่หานเซิ่นศึกษาพวกมัน เขาก็รู้สึกว่าความเข้าใจของเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าประหลาด
“วิชาตะวันหยกนี้ไม่ธรรมดาเหมือนกับที่จูถิงพูดจริงๆ มันไม่ได้ต่างจากวิชามนตรานอกรีตที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหัวใจเลย แต่วิชานี้มันเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับไตแทน” หลังจากที่หานเซิ่นอ่านจบ ผลของมันทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ
หานเซิ่นยิ่งประหลาดใจขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาเข้าใจถึงข้อดีของวิชานี้ มันไม่ใช่วิชาที่หาได้ง่ายๆจริงๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยทำไมจูถิงถึงได้กล้าขอแลกกับวิญญาณอสูรกลายพันธ์เบอร์เซิร์ก 10 ดวง
จากที่หานเซิ่นลองประเมินดูวิชาตะวันหยกนี้ดู มันมีระดับเทียบเท่ากับวิชามนตรานอกรีตเลย ถ้าความแข็งแกร่งของหัวใจหมายถึงการเพิ่มพละกำลังแล้ว ความแข็งแกร่งของไตก็หมายถึงการเพิ่มความอึดและความทนทาน
ถ้าไตของคนเราไม่ได้รับการอัพเกรดจากการฝึกตะวันหยก มันก็เหมือนกับการใช้ถ่านหินมาผลิตไฟเพื่อสร้างความอบอุ่น ถึงมันจะได้ผลแต่ก็ไม่มีประสิทธิภาพ มันไม่ใช่การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ เช่นเดียวกันถ้าคนเราเพิ่มความแข็งแกร่งของไต มันก็จะทำให้การเผาผลาญพลังงานสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และพลังกายของคนคนนั้นก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ตอนนี้ความแข็งแกร่งและความอึดของเขาไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เขาสงสัยมากว่าถ้าฝึกมันสำเร็จ มันจะทำให้เขาไปถึงขึ้นไหน ถ้าการเผาผลาญพลังงานของเขามีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งความอึดและความแข็งแกร่งของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ถ้าสิ่งที่หานเซิ่นคาดการณ์ถูกต้อง เขาจะสามารถต่อสู้ได้เป็นระยะเวลายาวนานโดยไม่เหนื่อย ที่ผ่านมาถึงเขาจะอึดมากก็จริง แต่เขาก็ไม่สามารถต่อสู้ด้วยพลังสูงสุดได้ต่อเนื่องนานเกิน 2 ชั่วโมง แต่ถ้าฝึกวิชาตะวันหยกจนไตแข็งแกร่งแล้ว เขาจะสามารถสู้ด้วยพลังสูงสุดติดต่อกัน 24 ชั่งโมง
หานเซิ่นรู้สึกถูกใจมันมาก แต่เขาก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมจูถิงถึงได้ยอมมอบของล้ำค่าขนาดนี้ให้กับเขา ถ้าเขารู้ว่ามันดีขนาดนี้เขาคงจะให้วิญญาณอสูรกลายพันธ์กับจูถิงเพิ่มอีกแน่ๆ
หานเซิ่นคิดว่าจูถิงคงจะฝึกวิชานี้ไปแล้วเหมือนกัน เหมือนว่าคนอื่นๆอีกหลายคนก็คงได้เรียนมันด้วยเช่นกัน ซึ่งหลังจากที่พวกเขาเรียนมันแล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์กับพวกเขาอีก ถึงจะเก็บมันไว้แล้วอ่านไปเรื่อยๆก็คงจะเพิ่มความเข้าใจได้อีกแค่เล็กน้อย
ด้วยพรสวรรค์ของหานเซิ่น ทำให้เขาเข้าใจหลักการของวิชานี้ครบถ้วนตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่านจบ สาเหตุอีกอย่างก็น่าจะมาจากการที่เขาได้ดูดซับคริสตัลสีแดงเข้าไป ทำให้สมองของเขาดีกว่าคนปรกติ ส่วนอีกสาเหตุก็คือการที่เขาฝึกศาสตร์ตงเสวียน ทำให้ความสามารถในการรับรู้ของเขาเพิ่มขึ้น หานเซิ่นสามารถเข้าใจทั้งหมดได้ทันทีตั้งแต่อ่านครั้งแรก
หลังจากที่หานเซิ่นฝึกตะวันหยกไป 3-4 ครั้ง เขาก็รู้สึกเลยว่าไตของเขากำลังสั่น เขารู้สึกเหมือนกับว่าในร่างกายของเขามีเตาผลิตพลังงานอยู่ 2 เตา ที่ทำหน้าที่ส่งพลังงานให้กับเขา เขารู้สึกว่าไม่ต้องพักเลยถึงจะต้องวิ่ง 3 วัน 3 คืนก็ตาม
“นี่เป็นวิชาที่สุดยอดมาก ถ้าเราเชี่ยวชาญมันล่ะก็ ต่อให้ต้องสู้กับมอนสเตอร์ 10 ตัวในเวลาเดียวกันก็ไม่มีปัญหา” หานเซิ่นอารมณ์ดีมาก
แต่การจะฝึกวิชาตะวันหยกต้องใช้ระยะเวลานาน ซึ่งหานเซิ่นก็ไม่ได้คิดจะเร่งรีบอะไร เขายังคงคิดหาวิธีที่จะฆ่าอสรพิษเนตรเงินเลือดศักดิ์สิทธิ เพราะถ้าเขาได้ดาบเลือดศักดิ์สิทธิมา 2 เล่มเมื่อไหร่ บวกกับพลังกายอันไร้ขีดจำกัด เขาไม่คิดว่าการต่อสู้กับสปิริต 2 พี่น้องจะเป็นปัญหาอีกต่อไป
โชคดีที่หานเซิ่นได้เข้ามาควบคุมเมืองแบล็คก็อตแล้ว ถึงพวกนักสู้ที่เป็นลูกน้องเก่าของเเบล็คก็อตหลายคนจะยังไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาโดยสมบูรณ์ แต่พวกเขายังคงฟังคำสั่งจากคนที่อยู่เบื้อหลังของแบล็คก็อตอย่างลับๆ ถ้าจะให้ไปฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ ยังไงพวกเขาก็ต้องมากับหานเซิ่นแน่
หานเซิ่นดูลิสต์รายชื่อนักสู้ฝีมือดีในเมืองอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็เลือกมา 10 คน
“หัวหน้า พวกเขาเคยพยายามล่ามันหลายครั้งแล้ว แต่พวกเราก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ ไม่เพียงแค่พวกเราจะต้องเดินทางไกลเท่านั้น แต่มันเป็นมอนสเตอร์ที่มีพลังกำลังมหาศาล แถมยังมีลูกน้องคอยคุ้มกันอีกเป็นจำนวนมาก นี่เป็นงานที่เสี่ยงมาก”
นักสู้ฝีมือดีบางคนเคยติดตามแบล็คก็อตไปล่ามันมาแล้ว ทำให้พวกเขารู้สึกกลัวเมื่อได้ยินว่าหานเซิ่นต้องการจะไปล่ามอนสเตอร์ตัวนั้น
“ฉันตัดสินใจแล้ว เลิกพูดกันได้แล้ว แค่ทำตามคำสั่งของฉันก็พอ” หานเซิ่นตอบอย่างเยือกเย็น
หลังจากที่ได้ยิน พวกเขาก็รู้สึกสิ้นหวัง พวกเขาจำใจต้องติดตามหานเซิ่นไปโดยไม่มีทางเลือกอื่น
หานเซิ่นพา 10 คนเดินทางมุ่งหน้าไปที่หุบเขาน้ำแข็ง พวกเขาเอาแผนที่มาด้วย ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบลื่น
มันถูกเรียกว่าหุบเขาน้ำแข็งก็จริง แต่พอมาดูจริงๆมันคล้ายกับแกรนด์แคนยอนที่เป็นน้ำแข็ง มีหุบเขาจำนวนมากเรียงตัวกันอย่างสลับซับซ้อน ส่วนพื้นที่เป็นน้ำแข็งบางจุดก็จะมีหลุมขนาดใหญ่ ซึ่งมีหิมะทับถมเป็นจำนวนมาก ถ้าเดินพลาดตกลงไปก็น่าจะอาการสาหัส เพราะอาจจะถูกหิมะฝังทับร่าง
บนพื้นน้ำแข็งที่พวกเขากำลังเดิน พวกเขาสังเกตเห็นงูตัวสีขาวกำลังขุดเจาะอุโมงค์เหมือนกับหนอนที่บ้าคลั่ง
งูพวงนี้มีตัวสีขาว ตาสีเงิน เมื่อพวกมันเข้าไปในกองหิมะก็จะดูกลมกลืนกันมาก ถ้าไม่สังเกตดีๆ พวกเขาก็แทบจะมองไม่เห็นมันเลย ถ้าพวกเขาเดินเข้าไปใกล้โดยไม่ระวัง มันก็อาจจะสายเกินไปที่จะหลบ
พวกเขาไม่รู้ว่าที่หุบเขาที่ซับซ้อนแห่งนี้มีงูแบบนี้อยู่มากมายแค่ไหน ถ้าถูกพวกมันกัดเข้าสักครั้ง คนคนนั้นก็จะเป็นอัมพาตทันที แต่ถ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งก็พอจะต้านพิษของมันได้บ้าง แต่ถ้าไปถูกตัวที่เป็นระดับกลายพันธ์กัด ถึงจะเป็นคนที่มีระดับความแข็งแกร่งเกิน 100 พวกเขาก็จะเป็นอัมพาตเช่นเดียวกัน
พวกคนที่หานเซิ่นพามามีระดับความแข็งแกร่งเกิน 100 ทั้งหมด พวกเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ พวกเขาตื่นตัวกันอยู่ตลอดเวลา เพราะพวกเขารู้ว่าทุกวินาทีหมายถึงชีวิต
เมื่อหานเซิ่นเห็นท่าทีของทุกคน เขาก็ยิ้มออกมาและพูด
“เอ่อ เอาอย่างงี้ดีไหม? พวกนายทุกคนไม่ต้องเสี่ยงชีวิตเข้าไปในหุบเขา ฉันจะเข้าไปคนเดียว และล่ออสรพิษเนตรเงินเลือดศักดิ์สิทธิออกมา พวกเราจะได้ช่วยกันสู้โดยไม่ต้องเจอกับกองทัพงูตัวอื่นๆ”
“ดี ดี ดี!” พวกเขาพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน พวกเขาต่างก็ไม่อยากจะมาเป็นอาหารให้กับงู ซึ่งถ้าหานเซิ่นเข้าไปคนเดียวแล้วตาย มันก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา
“แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันจะต้องบอกพวกนายไว้ก่อน ถ้าฉันล่ออสรพิษเนตรเงินเลือดศักดิ์สิทธิออกมาแล้วมีใครที่ตัดสินใจหนี อย่าหาว่าฉันโหดร้ายเลยนะ ถึงตอนนั้นแม้แต่คนที่อยู่เบื้อหลังพวกนายก็ช่วยอะไรไม่ได้” หานเซิ่นมองตาพวกเขาแต่ละคน
หนึ่งในพวกเขาพูดขึ้นมา “ไม่ต้องกังวลหรอกหัวหน้า พวกเราไม่ทำแบบนั้นหรอก พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยคุณฆ่ามันให้ได้”
แม้ปากของเขาจะพูดแบบนั้น แต่ใจของเขาคิดอีกอย่าง เช่นเดียวกับคนอื่นๆ พวกเขาต่างก็เชื่อว่าถ้าหานเซิ่นเข้าไปข้างในคนเดียว เขาคงจะไม่มีชีวิตรอดกลับมา
คอมเม้นต์