อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 562 อสรพิษเนตรเงิน
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
ตอนนี้จิ้งจอกสีเงินกำลังใช้หางอันสง่างามของมันลูบขาของหานเซิ่น แต่หานเซิ่นก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าจิ้งจอกตัวนี้ไม่ได้ต้องการจะทำร้ายเขาจริงๆ ดังนั้นเขาจึงลองอุ้มมันขึ้นมา จิ้งจอกสีเงินไม่ได้ขัดขืนเลย มันยอมไปอยู่ในอ้อมแขนของหานเซิ่น หลังจากที่เขากอดมัน จิ้งจอกก็กวัดแกว่งหางอย่างมีความสุข
“จิ้งจอกสีเงินตัวนี้แปลกมาก สงสัยจริงๆว่ามันมาจากที่ไหนกันแน่?” หานเซิ่นอุ้มจิ้งจอกสีเงินด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
แม้ในก็อตแซงชัวรี่จะมีมนุษย์ที่พยายามจะเอามอนสเตอร์มาเลี้ยงจริงๆ แต่โดยปรกติแล้ว พวกเขามักจะเอามันใส่กรงมากกว่า เนื่องจากมันเป็นการฝืนมอนสเตอร์ บางครั้งคนเลี้ยงอาจจะมีจุดจบด้วยการตกเป็นอาหารของมัน
มอนสเตอร์เองก็มีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันไป ซึ่งมอนสเตอร์ส่วนมากมักจะต้องการเข้ามาฆ่ามนุษย์ ถ้าพวกมันเห็น แต่ก็มีมอนสเตอร์บางตัวที่ไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับมนุษย์ ส่วนมอนสเตอร์ที่เป็นมิตรนั้นยังเคยไม่มีเลย
จิ้งจอกตัวนี้ตรงกันข้ามกับทุกอย่างที่หานเซิ่นเรียนรู้มา มันไม่ได้ดูป่าเถื่อนหรือดุร้ายเหมือนกับมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ ถ้าเขาไม่ได้เห็นมันเกือบจะฆ่าอีตงมู่กับตา เขาก็ไม่อยากที่จะเชื่อว่ามอนสเตอร์ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาคือมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด
แต่ตอนนี้มันก็เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับหานเซิ่นแล้ว แม้ตอนนี้มันจะดูสงบและเชื่องมาก แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป ถ้าเขาเอามันกลับไปด้วยแล้วอยู่ๆมันดุร้ายขึ้นมา มันก็คือหายนะของเขา
ในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ตอนนี้คงไม่มีใครสามารถต้านทานพลังของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดตอนโกรธได้ หานเซิ่นเคยเห็นพลังของม้าน้ำมากับตาตัวเองแล้ว มันเผาเมืองใต้ทะเลจนเหลือเพียงเถ้าถ่าน ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกกลัว
“เราจะเอามันกลับไปไม่ได้ ยังไงเราก็จะไม่เอามันกลับไป” หานเซิ่นกำลังจ้องมองจิ้งจอกสีเงินที่กำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขา แต่เขาต้องหักห้ามใจไว้ แม้เขาจะรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องทำแบบนี้ แต่เขาก็ตัดสินใจวางมันลงบนพื้น
“จิ้งจอกน้อย ไม่ใช่ว่าฉันไม่ต้องการพานายกลับไปด้วยหรอกนะ จริงๆใจฉันก็อยากจะพานายกลับไป.. แต่มันเสี่ยงเกินไป ถ้าฉันพานายไปด้วยจริงๆ ถ้าคนอื่นๆเห็นนายเข้ามันจะเกิดปัญหาเอาได้ นายกลับบ้านของนายไปดีกว่า” หานเซิ่นพูดกับจิ้งจอกสีเงิน จากนั้นเขาก็หันหลังและเดินจากไป
แต่จิ้งจอกสีเงินไม่ได้ฟังเขา มันยังคงเดินตามหานเซิ่น ถ้าหานเซิ่นเดิน 1 ก้าว มันก็จะเดิน 1 ก้าว ถ้าเขาหยุดมันก็จะหยุดด้วย หานเซิ่นต้องการที่จะไล่มันกลับไป แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่น่ารักของมัน มันก็ทำให้เขาใจละลาย
หานเซิ่นไม่กล้าที่จะใช้กำลัง ยังไงจิ้งจอกสีเงินตัวนี้ก็แข็งแกร่งกว่าเขามาก เขากลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา ถ้าเขาทำรุนแรงกับมัน มีโอกาสสูงมากที่หานเซิ่นจะถูกมันฆ่า ที่สำคัญจิ้งจอกตัวนี้ดูน่ารักมากเกินกว่าที่หานเซิ่นจะตัดใจทิ้งมันได้
หลังจากที่หานเซิ่นเห็นว่ายังไงมันก็จะไม่ยอมเลิกตามเขาแน่ๆ หานเซิ่นเลยตัดสินใจอุ้มมันขึ้นมาอีกครั้ง มันคล้ายๆกับลูกแมวน้อย มันพยายามใช้มือของมันลูบหน้าอกของหานเซิ่น มันดูน่ารักจริงๆ
“ก็ได้ ฉันจะพานายไปที่ปราสาทคริสตัล ถ้ามีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น อย่างน้อยนายก็จะได้ไม่ไปทำร้ายคนอื่น”
หานเซิ่นเรียกปีกของเขาออกมา จากนั้นเขาก็บินขึ้นไป พร้อมกับจิ้งจอกสีเงินในอ้อมแขนของเขา
หานเซิ่นต้องการจะซ่อนจิ้งจอกตัวนี้ก่อนที่คนอื่นๆจะมาเห็นมัน เพราะถ้าพวกเขาเห็นมันเข้าก็อาจจะมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีก
“เราอาจจะต้องทิ้งพวกเขาไว้ที่นั้นก่อน ยังไงจุดนั้นก็ไม่มีอันตราย ถึงจะต้องรอนานหน่อยก็คงไม่เป็นไร” หานเซิ่นกอดจิ้งจอกไว้แน่น ตอนนี้เขากำลังบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
หานเซิ่นเตรียมที่จะบินไปยังทะเลทรายน้ำแข็ง แต่อยู่ๆเขาก็เห็นงูหลายตัวกระโดดขึ้นมาจากหิมะภายในหุบเขา มันแปลกมาก เพราะพื้นที่ตรงนั้นก่อนหน้านี้ยังดูว่างเปล่าไม่มีอะไรอยู่เลย ในบรรดางูพวกนั้นมีงูที่ตัวใหญ่เป็นพิเศษอยู่ ทั้งตัวของมันเต็มไปด้วยเกล็ดสีเงินที่เปล่งประกายท่ามกลางหิมะ มันมีความยาวกว่า 100 เมตร ซึ่งดูน่ากลัวมาก
“อสรพิษเนตรเงินเลือดศักดิ์สิทธิ?” หานเซิ่นช็อค ตอนที่เขาเข้ามาในหุบเขา เขายังไม่เห็นมันเลย แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่ามันโผล่มาจากไหน
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขากลับไปในหุบเขาหิมะ แต่เมื่อเขากลับไปถึงข้างล่าง เขาก็เห็นว่าพวกอสรพิษเนตรเงินกลับเข้าในใต้หิมะอีกครั้ง
“มันต้องเป็นเพราะนายแน่ๆเลย” หานเซิ่นมองจิ้งจอกสีเงิน ตอนนี้พวกงูมุดหายไปใต้หิมะหมดแล้ว แม้แต่ตัวที่เป็นระดับเลือดศักดิ์สิทธิก็ไม่ยอมโผล่ขึ้นมา
ตอนนี้จิ้งจอกสีเงินยังนอนอยู่ในแขนของหานเซิ่น มันแกล้งทำเป็นหลับ หานเซิ่นไม่แน่ใจว่ามันเข้าใจสิ่งที่เขาพูดรึเปล่า หรือมันแค่ไม่สนใจ
หานเซิ่นตัดสินใจบินขึ้นมาอีกครั้ง และวางจิ้งจอกสีเงินลงบนยอดเขาหิมะ จากนั้นเขาก็เห็นว่าพวกงูมันโผล่ขึ้นมาบนพื้นอีกครั้ง
“นานรอฉันอยู่ตรงนี้นะ โอเคไหม?” หานเซิ่นบอกจิ้งจอกสีเงิน จากนั้นเขาก็บินกลับไปที่หุบเขา
ครั้งนี้จิ้งจอกสีเงินไม่ได้ตามหานเซิ่นไป มันยืนอยู่บนยอดเขาหิมะและจ้องมองหานเซิ่นที่ลงไปในหุบเขา
อสรพิษเนตรเงินจ้องมองหานเซิ่นด้วยตาสีเงินของมัน จากนั้นมันก็กางปีกออก และพุ่งเข้าไปใส่หานเซิ่น
“ไม่ผิดแน่ พวกมันคงจะหลบซ่อนตัวจากจิ้งจอกสีเงิน” หานเซิ่นเก็บปีกวิญญาณอสูรของเขา จากนั้นเขาก็ใช้เหยียบเมฆาวิ่งไปตามพื้นหิมะ ตอนนี้หานเซิ่นตัดสินใจทำตามแผนเดิม เขาพยายามล่อมันออกไปที่ทางเข้าหุบเขา
การเจอกับมอนสเตอร์ตัวใหญ่ขนาดนี้ หานเซิ่นยังไม่มั่นใจนักถ้าต้องสู้คนเดียว ยังไม่ต้องพูดถึงถ้ามีงูตัวอื่นๆปรากฏตัวออกมาอีก เขาคงรับมือไม่ไหวแน่ ดังนั้นเขาจึงต้องทำตามแผนเดิม
ไม่ว่าพวกที่หานเซิ่นพามาจะมีฝีมือระดับไหน แต่ยังไงพวกเขาก็คงจะสามารถช่วยรับมือพวกงูระดับอื่นๆได้อย่างแน่นอน ถึงมันจะดูเป็นการต่อสู้ที่เสี่ยงมาก แต่ถ้าเขาล่อมันออกไปหน้าหุบเขาได้ พวกงูจะซ่อนตัวได้ยากขึ้น เนื่องจากบริเวณนั้นไม่ค่อยมีหิมะหนาเหมือนกับในหุบเขา
อสรพิษเนตรเงินเลือดศักดิ์สิทธิไล่ตามหานเซิ่นมาอย่างรวดเร็ว มันแข็งแกร่งกว่าที่หานเซิ่นคาดไว้ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามอนสเตอร์ที่ตัวใหญ่และทรงพลังแบบนี้จะกลัวจิ้งจอกสีเงินตัวเล็กๆแค่นั้น
หานเซิ่นวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดตลอดเวลา เพื่อที่หลบการกัดของอสรพิษเนตรเงิน เขาต้องวิ่งซิกแซกไปตลอดทาง ไม่นานนักหานเซิ่นก็มาถึงทางเข้าหุบเขาจนได้
พวกคนที่หานเซิ่นพามาด้วยกำลังรออย่างวิตกกังวล
“เขาเข้าไปข้างในนานมากแล้วนะ ฉันพนันได้เลยว่าเขาถูกงูตัวหัวหน้าฆ่าไปแล้ว”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ทำไมพวกเราถึงไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย นี่มันเงียบสนิทเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น?”
“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไม่ได้ยินงูเลือดศักดิ์สิทธิด้วยซ้ำ เท่าที่ดูเขาน่าจะทำได้แค่วิ่งอย่างเดียว การวิ่งเข้าไปแบบนั้นคงจะต้องถูกงูตัวอื่นๆตามติดเป็นพันๆแน่ เขาอาจจะตายโดยที่ยังไม่ได้เห็นงูเลือดศักดิ์สิทธิด้วยซ้ำ”
“แล้วพวกเราควรทำยังไงต่อไปดี? พวกเราควรจะรอเขาต่อไปไหม?”
“พวกเรารอต่อไปอีกหน่อยน่าจะดีกว่า ถ้าพวกเราไปตอนนี้แล้วถ้าเขากลับมาได้จริงๆ พวกเราจะอธิบายยังไง”
“แต่เขาเข้าไปนานมากแล้วนะ ไม่มีทางที่เขาจะกลับมาอยู่แล้ว”
“รอต่อไปอีกนิดเหอะน่า ยังไงพวกเราก็รอมาตั้งนานแล้ว แค่รออีกนิดจะเป็นอะไรไป? ยังไงนี่มันก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เช้าเขายังไม่กลับมา พวกเราก็ไปกันได้เลย”
ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน อยู่ๆก็มีสีดังมาจากในหุบเขา เมื่อพวกเขาหันมองไปทางหุบเขา พวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
พวกเขาเห็นหานซิ่นกำลังวิ่งออกมาจากหุบเขา ซึ่งด้านหลังเขามีฝูงงูจำนวนมากกำลังบินตามเขามาเหมือนกับคลื่นทะเล และในบรรดาพวกมันมีงูตัวใหญ่ที่ดูเหมือนกับมังกรกำลังไล่ตามหานเซิ่นมาอย่างบ้าคลั่ง
คอมเม้นต์