อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 601 สายตาแห่งเทพ
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
หลังจากเห็นหานเซิ่นเดินเข้าไปในห้องทดสอบ แอนนี่ก็เฝ้าจับตามองเขาตลอด ตอนนี้แอนนี่มาอยู่ห้องสังเกตการณ์ เพื่อดูว่าหานซิ่นมีความสามารถถึงระดับไหนแล้ว แอนนี่คือคนที่มีสิทธิพิเศษ เธอสามารถใช้ห้องฝึกซ้อมหรือห้องสังเกตการณ์ได้ตามใจชอบ
การทดสอบที่หานเซิ่นเลือกทดสอบนั้นเป็นการทดสอบด้านความแม่นยำและความคล่องแคล่ว ซึ่งหานเซิ่นยังไม่ทดสอบแบบนี้มาก่อน ดังนั้นแอนนี่จึงยังไม่รู้ว่าหานเซิ่นอยู่ในระดับไหน
แต่เมื่อเห็นระดับความยากที่หานเซิ่นเลือก มันก็ช่วยไม่ได้ที่แอนนี่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
หานเซิ่นเลือกระดับความยากแค่ 100 ซึ่งหมายความว่าคนที่มีระดับมากกว่า 100 ถึงจะผ่านมันได้ แอนนี่รู้ดีว่าระดับความแข็งแกร่งของหานเซิ่นเกิน 100 ไปตั้งนานแล้ว
แม้จะผิดหวังแต่ไหนๆก็มาดูแล้วแอนนี่จึงยังไม่ออกไหน เธอเลือกที่จะดูฟอร์มของเขาก่อน
ที่หานเซิ่นไม่ได้เลือกระดับที่ยากกว่านี้ก็เพราะเขารู้ดีว่าแอนนี่สามารถเฝ้าดูเขาได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่เปิดเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริง
เป้าหมายของหานเซิ่นก็คือการทดสอบขอบเขตของความสามารถใหม่ หลังจากที่ปลดล็อคยีนได้ ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องเลือกระดับที่ยากเลย
หานเซิ่นทำลายหุ่นยนต์ทดสอบอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตาหุ่นยนตร์ก็รวมตัวกันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่ตอนนี้มันเพิ่มเป็น 2 ตัว
หลังจากที่หานเซิ่นทำลายหุ่นยนต์ทั้ง 2 ตัวไปอีกครั้ง พวกมันก็เพิ่มจำนวนขึ้นอีกเป็น 2 เท่า เมื่อหุ่นยนตร์ทั้ง 4 ปรากฏตัวขึ้นมา หานเซิ่นก็ทำลายพวกมันทันที จากนั้นมันก็เกิดขึ้นมาใหม่อีก 8 ตัว และหานเซิ่นก็ทำลายมันในพริบตา เขาทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
หลังจากดูไปสักพัก สีหน้าของแอนนี่ก็เริ่มเปลี่ยนไป แม้ระดับที่หานเซิ่นเลือกจะไม่ได้สูง แต่ฟอร์มของเขาไม่ธรรมดาเลย ในตอนแรกเธอก็ไม่ได้สังเกตเห็นมัน หลังจากดูไปสักพัก หน้าของเธอก็ต้องบิดเบี้ยว
หุ่นยนตร์พวกนั้นถูกตั้งโปรแกรมมาให้ยากที่จะถูกทำลายได้ นั่นหมายความว่ายิ่งหานเซิ่นทำลายมันมากเท่าไหร่ จำนวนของมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหานเซิ่นจะต้องใช้การโจมตีที่มากขึ้น
หุ่นยนตร์พวกนี้คือหุ่นยนตร์ต่อสู้ มันมีความเที่ยงตรงสูงมาก ยากที่จะผิดพลาด แม้การโจมตีของพวกมันจะไม่ได้ส่งผลที่รุนแรงกับหานเซิ่น แต่วิธีการที่หานเซิ่นใช้ในการทำลายพวกมัน ทำให้แอนนี่ประหลาดใจ
ในขณะที่หานเซิ่นกำลังหลบหลีกการโจมตีที่เข้ามา เขาไม่แม้แต่จะต้องหันกลับไปมองหุ่นยนตร์ที่อยู่ข้างหลัง เขาสามารถทำลายพวกมันได้อย่างแม่นยำ ราวกับมีตาหลัง ถึงหุ่นยนตร์จะโจมตีเขาจากรอบทิศทาง แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องหันไปมองเลย เขาสามารถหลบพวกมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แอนนี่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น ตอนนี้หานเซิ่นเหมืองกันมีตาหลัง
แม้ความแข็งแกร่งและความเร็วคือสิ่งที่สามารถพัฒนาได้จากการฝึกซ้อม แต่นี่มันน่าเหลือเชื่อมากสำหรับแอนนี่ เธอไม่รู้ว่าหานเซิ่นไปฝึกมายังไง ความเร็วและความแข็งแกร่งของเขาถึงได้เพิ่มมาขนาดนี้
จากที่เธอดู เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าหานเซิ่นจะรวดเร็วและแม่นยำได้ขนาดนี้
หานเซิ่นยังไม่พลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาสมบูรณ์แบบ เหมือนกับว่าเขารู้ทุกการเคลื่อนไหวของหุ่นยนตร์ เขารู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งแม้แต่ตัวแอนนี่เองก็ทำแบบหานเซิ่นไม่ได้
ยิ่งเวลาผ่านไป หานเซิ่นก็ทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเขามีสายตาแห่งเทพ เขาสามารถมองเห็นอนาคต เขารู้หมดว่าหุ่นยนตร์จะโจมตีหรือเคลื่อนไหวยังไง
เมื่อใช้โหมดปลดล็อคยีนร่วมกับศาสตร์ตงเสวียน คำบรรยายที่ดีที่สุดของมันก็คือ ‘โหมดพระเจ้า’ ตอนนี้หานเซิ่นสามารถโจมตีหุ่นยนตร์ด้วยความเร็วแสง เขาไม่ต้องคิดไม่ต้องมอง เขาสามารถทำลายมันทันทีที่มันปรากฏตัวขึ้นมา
แม้จำนวนหุ่นยนตร์ที่มากที่สุดระบบจำกัดไว้แค่ 32 ตัว แต่กระนั้นจำนวนนี้ก็ถือว่ามากแล้ว แต่ก็ไม่มีตัวไหนเลยที่สามารถแตะต้องร่ายกายของหานเซิ่นได้ เขาทำลายพวกมันได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว หมัดของเขาสามารถฉีกร่างของมันได้อย่างง่ายดาย
แอนนี่ขมวดคิ้ว เธอคิดว่าหานเซิ่นดูเปลี่ยนไปจากเดิม แต่เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
แอนนี่ต้องการจะรายงานจียัวเจินซะเดี๋ยวนี่เลย แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะบรรยายสิ่งที่เธอเห็นยังไงให้เจ้านายของเธอเข้าใจดี
หลังจากที่จบการทดสอบ หานเซิ่นก็ออกจากห้องทดสอบอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าแอนนี่ยังคงอยู่ในห้องสังเกตการณ์ เธอนั่งดูวิดีโอของหานเซิ่นซ้ำไปซ้ำมา
หานเซิ่นประทับใจกับความสามารถใหม่มาก ถึงเขาจะไม่ได้รับความสามารถที่เกี่ยวกับพลังธาตุ แต่ตอนนี้เขาก็ได้รับความสามารถอย่างอื่นมาแทน ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก
ที่สำคัญนี่ยังเป็นความสามารถที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ เพราะถ้ามองเผินๆจะไม่มีใครรู้เลยว่าเขาปลดล็อคยีนได้แล้ว ซึ่งนี่เป็นข้อที่ทำให้เขาได้เปรียบกว่าคนอื่นๆ
หลังจากกลับมาที่เมืองเทพธิดา เขาก็พบว่าจูถิงมารอพบเขาอยู่แล้ว
“ลูกพี่ ผมไปเจอมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ ไปช่วยผมฆ่ามันหน่อย!”
“แน่นอน” หานเซิ่นตอบตกลงทันที เขายังคงรู้สึกผิดเรื่องที่หลอกให้จูถิงกินเห็ดสีแดงเข้าไป เขาตอบตกลงโดยไม่ได้ยื่นข้อเสนออะไรเป็นการแลกเปลี่ยน
แม้การล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นเป้าหมายของหานเซิ่นตอนนี้ เพราะหลังจากที่เขาปลดล็อคยีนได้แล้ว การล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับเขา เขาสามารถลงไปใต้ทะเลด้วยปราสาทคริสตัล และไปล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ
หลังจากที่เห็นหานเซิ่นตอบตกลงอย่างรวดเร็ว จูถิงก็บอกหานเซิ่นว่า เขาจะไปล่ามอนสเตอร์ที่ภูเขาปีศาจ หานเซิ่นขมวดคิ้ว “นายเคยไปภูเขาปีศาจมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
อสูรอัสนีและลูกน้องของเขาเคยบอกเกี่ยวกับมอนสเตอร์ที่อยู่ในภูเขาปีศาจ พวกเขาบอกว่ามันมีความสามารถที่พิเศษ การไปล่าที่นั่นจะอันตรายมาก
“อย่าห่วงเลย ผมแค่ไปสำรวจแถวๆตีนเขาเท่านั้น ผมไม่กล้าเข้าไปในพื้นที่อันตรายแบบนั้นหรอก” จูถิงอธิบาย
หานเซิ่นหยักหน้า เขาไม่พูดอะไรมาก ถึงไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง แต่เขาก็มั่นใจในความสามารถใหม่มาก ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร เขาก็มั่นใจว่าสามารถหลีกเลี่ยงอันตายได้ แม้จะเจอมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดก็ตาม
ไม่ใช่ว่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดทุกตัวจะนิสัยดุร้ายป่าเถื่อน ไล่ฆ่ามนุษย์ทุกคนที่มันเห็นจนหมด บางตัวจะเลือกไปตามทางของพวกมันมากกว่า ถ้ามีโอกาสเจอมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด หานเซิ่นก็จะลองไปสังเกตการณ์มันดูหน่อย
ภูเขาลูกนี้ไม่ได้ปกคลุมด้วยหิมะเหมือนกับในเขตทุ่งน้ำแข็ง ภูเขาลูกนี้ปกคลุมด้วยป่าอันเขียวขจี
“ลูกพี่ นั่นไงมันอยู่ตรงนั้น!” เหมือนจูถิงจะไม่ได้โกหก ขณะที่พวกเขาเริ่มปีนขึ้นภูเขาปีศาจ จูถิงก็ชี้ไปที่เนินเขาแปลกๆ
เนินเขาที่จูถิงชี้นั้นเป็นเขตแดนของภูเขาปีศาจ หานเซิ่นตามจูถิงไป ไม่นานนักพวกเขาก็มาได้ครึ่งทางแล้ว ที่จุดนี้พวกเขามองเห็นมอนสเตอร์ที่ดูเหมือนกับตะกวดกำลังกินเถาวัลย์ที่อยู่แถวหน้าผา
หานเซิ่นสังเกตดูมอนสเตอร์ตัวนั้น ขนาดของมันถือว่าพอเหมาะจริงๆ มันมีความยาวแค่ 1 เมตร ผิวหนังของมันมีสีฟ้า
“แม้เนินเขาตรงที่มันอยู่จะไม่ได้สูงมาก แต่มันก็ยังยากที่พวกเราจะสู้กับมันตรงแถวหน้าผา” หานเซิ่นพูดหลังจากเฝ้าดูมันอยู่สักพัก
“ถ้ามันเป็นเรื่องง่าย ผมคงไม่ขอให้ลูกพี่มาช่วยหรอก คุณพอจะมีวิธีอะไรดีๆบ้างไหม?” จูถิงพูด
“ฉันจัดการเอง นายรออยู่ตรงนี้แหละ” หลังจากที่พูดจบ หานเซิ่นก็เรียกวิญญาณอสูรชุดเกราะเกล็ดโลหิตออกมา จากนั้นเขาก็วิ่งตรงไปหามอนสเตอร์ตัวนั้นทันที
คอมเม้นต์