อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 631 เถาวัลย์
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
อีกายังคงจับตาดูพวกเขาต่อไป เหมือนกับว่ามันไม่มีแรงจูงใจที่จะเคลื่อนไหว ลาขี่เมฆสีแดงวิ่งตรงมายังฝั่งที่มีหานเซิ่นอยู่ ซึ่งเป็นฝั่งที่มีจำนวนคนมากกว่า
เมื่อเห็นลาขี่เมฆแดงสี่เข้ามาใกล้ เขาผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง ถ้าเป็นอีกาที่เลือกตามพวกเขามา มันจะอันตรายยิ่งกว่า
แม้ทุกคนจะรู้สึกผิดที่ต้องให้เฉินรันมาเสียสละตัวเอง แต่ไม่ว่าใครต่างก็ต้องการมีชีวิตรอดทั้งนั้น พวกเขารู้สึกขอบคุณเฉินรันจากใจจริง
เมื่อทุกคนอยู่ตรงหัวกะโหลกของโครงกระดูกแล้ว เฉินรันก็จะโกน “วิ่ง!”
เฮินรันพุ่งออกจากโครงกระดูกตรงส่วนหางด้วยความเร็วสูงราวกับสายฟ้า
เมื่อเห็นเฉินรันวิ่ง สวี่ตงจินและคนอื่นๆก็เริ่มวิ่งออกจากกะโหลกด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้
ในตอนที่ควีนกำลังจะวิ่งตามพวกเขาออกไป หานเซิ่นก็ดึงเธอกลับมา เธอหันไปมามองหานเซิ่นด้วยสีหน้าสับสน เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมวิ่งออกไป
แต่ไม่นานควีนก็ตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น อีกาเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว แต่เป้าหมายของมันไม่ใช่เฉินรัน แต่เป็นกลุ่มคนที่วิ่งออกจากบริเวณหัวกะโหลก
สวี่ตงจินและคนอื่นๆวิ่งออกกันไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่พวกเขาออกไปลาขี่เมฆสีแดงก็เริ่มไล่ตามพวกเขาทันที ทำให้พวกเขาไม่สามารถหนีกลับเข้ามาในกระดูกได้อีกแล้ว เนื่องจากไม่สามารถหันหลังกลับได้แล้ว พวกเขาจึงได้แต่วิ่งต่อไปตามแผนเดิม
ควีนหันกลับไปมองทางเฉินรัน ซึ่งเขาวิ่งหนีไปได้หลายร้อยเมตรแล้ว
“ดูเหมือนอีกาจะเลือกตามคนกลุ่มใหญ่” ควีนขมวดคิ้ว
“ไอ้เฒ่าสารพัดพิษ!” หานเซิ่นพูด
“ไอ้แก่เฉินรันนั่นมันคิดจะเล่นลูกไม้กับเรา! ส่วนหางดูเหมือนว่าจะอันตรายกว่าในตอนแรก แต่ถ้าดูดีๆทางออกตรงหัวกะโหลกนั้นกว้าง ทำให้ถูกมอนสเตอร์สังเกตเห็นได้ง่ายกว่าส่วนหางมาก นั่นเป็นเหตุผลที่เฉินรันเลือกไปทิศทางนั้น มันคงรู้อยู่แล้วว่ามอนสเตอร์มีโอกาสตามคนกลุ่มใหญ่มากกว่า”
ควีนรู้สึกเสียใจ “เขาส่งลูกน้องตัวเองไปตายอย่างงั้นหรอ?”
ตอนนี้ควีนเริ่มเข้าใจสถานการณ์ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบเฉินรันมากขึ้น เฉินรันคิดจะให้ลูกน้องสละชีวิตเพื่อซื้อเวลาให้ตัวเองสามารถหนีได้
“สารเลวจริงๆ” ควีนสบถออกมาอย่างอดไม่ได้ มันยังโอเคถ้าเฉินรันใช้ลูกไม้นี่หลอกเธอกับหานเซิ่นเท่านั้น แต่นี่เขาถึงกับใช้กับลูกน้องตัวเองที่อยู่ด้วยกันมานาน เห็นได้ชัดว่าคนคนนี้ยอมทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอด
“ไม่ต้องห่วง การที่เขาทำแบบนี้ก็ทำให้เรามีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น” หานเซิ่นพูดอย่างใจเย็น ขณะมองดูเฉินรันวิ่งหนีไป
ควีนพอจะเข้าใจความคิดของหานเซิ่น ตอนนี้พวกเขายืนอยู่ในกระดูกซีโครงของมอนสเตอร์ พวกเขายังไม่สามารถออกไปไหนได้ ไม่นานพวกเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของสวี่ตงจินและคนอื่นๆ ดูเหมือนพวกเขาชะตาขาดแล้ว
หลังจาก 10 นาทีผ่านไปเสียงร้องก็เงียบลงไป พวกเขาทุกคนคงจะถูกฆ่าไปแล้ว
หลังจากที่อีกาและลาจัดการพวกเขาเสร็จ มันก็กลับมา พวกมันมองหานเซิ่นและควีนด้วยแววตากระหายเลือด แต่เมื่อพวกมันเห็นพวกเขายังอยู่ในกระดูกและยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมาเลย พวกมันจึงเลือกที่จะวิ่งไปทิศทางที่เฉินรันวิ่งหนีไปแทน
“ผมจะนับ 1 ถึง 100 ถ้าผมนับ 100 เมื่อไหร่ พวกเราต้องรีบวิ่งออกไปจากส่วนกะโหลกทันที นี่เป็นโอกาสเดียวที่พวกเราจะรอด”
หลังจากพูดจบหานเซิ่นก็เริ่มนับทันที เขาปลดล็อคยีนเพื่อสัมผัสอีกาและลาวิ่งกันไปถึงไหนแล้ว
เขาคิดจะใช้ประโยชน์จากความโหดเหี้่ยมของเฉินรัน เมื่อพวกมอนสเตอร์ไล่ตามเฉินรันไปได้ไกลมากพอแล้ว หานเซิ่นก็เตรียมที่จะหนีไปอีกด้านหนึ่ง
เมื่อเขานับ 100 เขาก็ไม่สามารถสัมผัสถึงตำแหน่งของลาและอีกาได้อีกต่อไป เขาคิดว่าพวกมันคงจะวิ่งไปไกลจนเขาสัมผัสไม่ได้แล้ว หานเซิ่นรู้ว่านี่คือเวลาที่เหมาะแล้ว
หานเซิ่นและควีนพุ่งออกจากกะโหลกราวกับลูกธนู แต่หลังจากออกมาได้แค่ชั่วอึดใจ หัวใจของหานเซิ่นก็แทบจะทะลักออกมา เขาดึงมือควีนและตะโกนบอกให้กลับไป
ควีนมองไปรอบๆ และไม่เห็นว่าจะมีอันตรายอะไร แต่เธอก็เชื่อใจประสาทสัมผัสของหานเซิ่นมาก เธอวิ่งกลับไปที่กะโหลกพร้อมกับหานเซิ่นโดยไม่ลังเล
ขณะที่หานเซิ่นกำลังวิ่งกลับ เขาก็มองดูไปรอบๆเพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าไม่มีอันตรายอะไร ซึ่งเขาก็มองไม่เห็นอะไรจริงๆ แต่กระนั้นเขาก็เชื่อในสัญชาตญาณตัวเอง สัญชาตญาณบอกเขาว่าต้องถอยเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเขาจะต้องถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน
ขณะที่เขากำลังวิ่งกลับไปที่กระดูกด้วยความเร็วสูงสุด เขาก็รู้สึกว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามา ตัวของเขาสั่นไปหมด มันเป็นแรงกดดันที่น่ากลัวมาก ถึงจะอยู่ในโหมดปลดล็อคยีนและเร่งประสาทมสัมผัสจนถึงขีดสุด แต่เขาก็ยังสัมผัสอะไรไม่ได้เลย
ในเสี้ยนวินาทีหลังจากนั้นก็มีแสงพุ่งผ่านคอของหานเซิ่นไป เขาไม่ได้ยินอะไรเลย แต่เขาก็กระโดดไปข้างหน้าเพื่อเลี่ยงจุดสำคัญ เขาเห็นเงาบางอย่างพุ่งตรงมาที่เขา จากนั้นเลือดของเขาก็ทะลักออกมาเหมือนกับน้ำพุ
หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าหลังของเขากำลังถูกไฟเผา เขาคิดว่ากระดูกหลังของเขาคงจะหักไปแล้ว แต่มันก็ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมากังวลเกี่ยวกับบาดแผลในตอนนี้ เขากลิ้งและรีบปีนขึ้นไปบนกระดูกซี่โครง
อีกาดูจะโมโหมากที่มันไม่สามารถปลิดชีวิตของหานเซิ่นได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว มันหายตัวไปอีกครั้ง จากนั้นมันก็ทำเหมือนเดิม เมื่อมันปรากฏตัวออกมาอีกที ปีกที่เหมือนกับใบมีดของมันก็เฉือนไปที่บริเวณคอด้านหลังของหานเซิ่น
ในใจของหานเซิ่นได้แต่คิดว่า ‘มันจบแล้ว’
อีกาตัวนี้ทรงพลังมาก ความเร็วของมันเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถหลบได้เลย
แต่ในตอนที่มันกำลังจะฟันคอของเขา พวกเถาวัลย์แห้งๆที่พันรูปกระดูก อยู่ๆก็เหมือนกับมีชีวิตขึ้นมา
พวกมันพุ่งเข้าใส่อีกาที่กล้าเข้ามาใกล้ๆกระดูกซี่โครงเหมือนกับงู พวกมันพันไปรอบๆตัวอีกาเพื่อกังขังมันเอาไว้ ถึงอีกาจะพยายามดิ้นร่นและกระพือปีกอย่างหนัก แต่มันก็ไม่สามารถหลุดเป็นอิสระได้
หานเซิ่นตะลึง เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าเถาวัลย์ที่ดูไร้ชีวิตจะมีพลังถึงขนาดนี้ มันสามารที่จะล็อคตัวของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดไม่ให้เคลื่อนไหวได้
ตอนนี้หานเซิ่นก็เข้าใจแล้วว่าที่มอนสเตอร์กลัว ไม่ใช่โครงกระดูก แต่มันกลัวเถาวัลย์ที่พันอยู่ต่างหาก
การที่หานเซิ่นไปดึงผลน้ำเต้าออกมาแล้วยังมีชีวิตอยู่ได้ หานเซิ่นคิดว่าเขาโชคดีมากจริงๆที่เถาวัลย์ไม่ได้คิดเล่นงานเขา
ตอนนี้ในกระเป๋าเสื้อของหานเซิ่น ผลน้ำเต้าเริ่มเต้นอีกครั้ง ครั้งนี้มันรุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านๆมา
หานเซิ่นรีบเอามันมาถือในมือทันที เขารู้สึกว่ามันเหมือนกับจังหวะการเต้นของหัวใจจริงๆ หานเซิ่นรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดไปเองอย่างแน่นอน มันเป็นชีพจรที่อ่อนเหมือนกับชีพจรเด็กทารก ถึงจะเลือนราง แต่มันก็เหมือนกับมีชีวิต
คอมเม้นต์