ตอนนี้มีบทความเกี่ยวกับดอลลาร์อยู่ทั่วเน็ต แต่มันสายเกินไปที่จะพูดเกี่ยวกับเขาตอนนี้ เพราะรายการศูนย์กลางการแข่งขันได้พูดไปหมดแล้ว ทำให้คู่แข่งของพวกเขาได้รับความนิยมน้อยกว่า

 

ภาคธุรกิจมากมายพยายามหาตัวดอลลาร์ และต้องการจะจ้างเขา บางคนต้องการสืบประวัติของเขา และมีการคาดเดากันมากมาย แต่ก็ไม่มีใครรู้ความจริงที่แน่นอน

 

ตอนนี้หานเซิ่นกำลังอ่านข้อมูลเกี่ยวกับวิชาไฮเปอร์จีโนของสถาบันเซนท์ เขากำลังหาวิชาไฮเปอร์จีโนที่เกี่ยวกับฟุตเวิร์ค

 

หลังจากที่เขาอ่านคำบรรยายทั้งหมดแล้ว เขาก็เลือกวิชาไฮเปอร์จีโนที่มีชื่อว่า ‘สปาทติเคิล’

 

หลังจากที่ซื้อสปาทติเคิลมา หานเซิ่นนั่งดูวิธีการฝึก และเริ่มฝึกมันทันที ไม่นานเขาก็พบว่าสปาทติเคิลนั้นแตกต่างจากฟุตเวิร์คที่เขาคิดไว้

 

หานเซิ่นหวังว่าฟุตเวิร์คจะช่วยเพิ่มความเร็ว และทำให้เขาเข้าใกล้คู่ต่อสู้ได้ง่ายขึ้น แต่สปาทติเคิลเน้นในเรื่องการระเบิดพลัง ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ในชั่วพริบตา แต่ความเร็วนั้นจะอยู่เพียงแค่ 1 ถึง 2 ก้าว

 

ฟุตเวิร์คลักษณะนี้จะแข็งแกร่งมากในการต่อสู้ระยะประชิด และยิ่งเหมาะกับสไตล์การลอบโจมตีของหานเซิ่น แต่ปัญหาเดิมของหานเซิ่นก็ยังไม่ถูกแก้ คือถ้าคู่ต่อสู่อยู่ห่างออกไป…

 

“มันเยี่ยมจริงๆ ความสามารถในการต่อสู้ระประชิดของผมจะพัฒนาขึ้นมาก และถ้าคู่ต่อสู้ไม่อยู่ไกลเกินไป มันจะได้ผลมาก”

หานเซิ่นไม่ได้ผิดหวัง สปาทติเคิลสามารถช่วยเขาได้มาก ถึงแม้มันจะแตกต่างจากที่เขาคิดไว้

 

จริงๆแล้วเขาอยากเรียนฟุตเวิร์คแบบเดียวกับที่อีตงมู่ใช้ ซึ่งมันทำให้การเคลื่อนไหวว่องไวขึ้น แต่วิชาที่เขาเลือกมาก็ดีเช่นกัน แค่คนละสไตล์

 

หานเซิ่นดื่มยาปรับปรุงพันธุกรรมสำหรับฝึกสปาทติเคิล และเริ่มฝึกทันที เพื่อที่มันจะได้ทันการแข่งรอบต่อไปที่จะเริ่มในอีก 10 วัน

 

ในตอนบ่ายเฟิงจินซีส่งข้อความมาบอกว่าให้เขาไปพบ เพราะมีเรื่องสำคัญบางอย่าง หานเซิ่นไปที่บ้านของเฟิงจินซี และพบว่าเฟิงจินซีนั้นต้องการให้เขาเข้าร่วมทีมกับเฉวียนเกอ เพื่อล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ

 

“เฉวียนเกอต้องการคนมีฝีมือไปช่วยเขาล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ แต่เขาไม่อยากร่วมมือกับเซินเทียนจื่อหรือซินเสวียน เขาพบว่ามอนสเตอร์ตัวนี้มีจุดอ่อน ซึ่งต้องใช้แผนลอบโจมตี แต่เขาไม่ค่อยรู้จักคนที่เป็นสไตล์พวกนักฆ่าเก่งๆ ฉันรู้ว่านายก็อยู่สตีลอาเมอร์ด้วย ฉันเลยจะแนะนำนายให้กับเฉวียนเกอ ถ้านายร่วมกับเขา นายจะไม่ได้รับส่วนแบ่งเนื้อของมัน แต่จะได้วิญญาณอสูรที่เป็นประเภทสัตว์ขี่เป็นรางวัลแทน ในขณะที่วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธินั้นก็เป็นไปตามกฎ ใครโจมตีปิดฉากมันแล้วดวงดีได้คนนั้นก็ได้ไป”

เฟิงจินซีหยุดชั่วครู่และพูดต่อ

“ผลตอบแทนดีขนาดนี้ ฉันหวังว่านายจะไม่ปฏิเสธ”

 

หานเซิ่นพยักหน้า คำพูดของเฟินจินซีน่าจูงใจ ส่วนแบ่งเนื้อมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธินั้นไม่ได้มีค่ามากไปกว่าวิญญาณอสูรกลายพันธ์ แถมยังเป็นประเภทขี่ได้ที่หานเซิ่นกำลังหาอยู่พอดี

 

“ที่ไหนเมื่อไหร่?” หานเซิ่นต้องคำนวณเวลาให้ดี เขามีเวลาแค่ 10 วันก่อนจะถึงการประลองรอบต่อไป

 

“เรื่องสถานที่คงบอกให้นายรู้ไม่ได้ แต่การเดินทางไปกลับรอบนี้น่าจะกินเวลาประมาน 6-7 วัน” เฟิงจินซีพูด

 

หานเซิ่นเข้าใจว่าเขาคงไม่มีอยากให้ข้อมูลรั่วไหลออกไป แต่จากที่เฟิงจินซีประมานระยะเวลาการเดินไว้ มันยังพอเหลือเวลาอีกหลายวัน เขาคิดว่าน่าจะกลับมาทัน

 

ความจริงหานเซิ่นไม่ได้สนใจเรื่องลำดับของผู้ถูกเลือก เพราะไม่ว่าจะได้อันดับไหนก็ได้วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิเป็นรางวัลเหมือนกัน แต่ที่เขาต้องการคือการต่อสู้กับหลินเฟิง เขาจะอยากเห็นฝีมือที่แท้จริงของหลินเฟิง

 

หานเซิ่นให้สัญญาว่าเขาจะเข้าร่วมการล่าครั้งนี้ ซึ่งเขาจะได้รับวิญญาณอสูรกลายพันธ์ แถมยังมีลุ้นได้วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิอีก เขาคงไม่ปล่อยให้โอกาสแบบนี้หลุดลอยไปแน่

 

เฟิงจินซีให้เหรียญกับหานเซิ่น และพูดพร้อมกับยิ้ม

“ฉันบอกกับเฉวียนเกอไปว่าฉันจะแนะนำคนรู้จักเก่งๆให้เขา แต่ฉันไม่ได้บอกชื่อเขาไป นายเอานี่ไปยังสถานที่นัดพบ แล้วเขาจะเข้าใจเอง”

 

หานเซิ่นพยักหน้า และเก็บเหรียญใส่กระเป๋า เฟิงจินซีให้เขาอยู่กินอาหารเย็นก่อนที่จะให้เขากลับไป

 

วันต่อมา หานเซิ่นเข้าไปในสตีลอาเมอร์ เขาได้ยินเกือบทุกคนพูดถึงการต่อสู้ระหว่างดอลลาร์กับอีตงมู่ และพูดถึงเรื่องบทความที่เฟิงหมิงเฉวียนเขียน

 

เนื่องจากดอลลาร์อยู่ที่เมืองสตีลอาเมอร์ ทำให้ทุกคนในเมืองนี้รู้สึกเป็นเกียรติ ยกเว้นกลุ่มของเซินเทียนจื่อ

 

‘ตอนนี้ผมเป็นคนมีชื่อเสียง แต่โชคร้ายที่ไม่สามารถแสดงตัวได้’ หานเซิ่นคิด

 

หลังจากที่เข้ามาในสตีลอาเมอร์ สิ่งแรกที่เขาทำคือไปพบหยางม่านลี่ เพื่อขอออกไปล่าคนเดียว เขาอธิบายไปว่าเขาต้องล่ามอนสเตอร์ตัวสำคัญ เขาปกปิดความจริงที่เขาจะไปล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิกับกลุ่มของเฉวียนเกอ

 

การล่ามอนสเตอร์ระดับสูงจะทำให้ทักษะของหานเซิ่นนั้นพัฒนาขึ้น หยางม่านลี่จึงไม่ได้ห้ามอะไรที่เขาขอออกไปล่า

 

หานเซิ่นเดินทางมาถึงที่นัดพบ และเห็นเฉวียนเกอกับคนของเขาที่อยู่ใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังรอใครบางคน

 

“โรคจิต นายมาทำอะไรที่นี่ นายเป็นคนของซินเสวียนไม่ใช่หรอ?”

คนหนึ่งในกลุ่มของเฉวียนเกอพูดขึ้น

 

หานเซิ่นไม่พูดอะไร แต่เอาเหรียญออกมาจากกระเป๋า และดีดมันเข้าไปในฝ่ามือของเฉวียนเกอ

 

หลังจากที่เห็นเหรียญแล้ว เขารู้สึกประหลาดใจ และถามหานเซิ่น

“นายเป็นคนที่เฟิงจินซีพูดถึงงั้นหรอ?”

 

 

 

---

Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/

ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 374 แล้วครับ