อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 149 คู่ต่อสู้อ่อนเกินไป
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
บางทีมันก็เหมือนเป็นโชคชะตา เพราะสถานีชิงหัวได้มอบหมายให้เฟิงหมิงเฉวียนเป็นคนดูแลการถ่ายทอดสดการแข่งขันสตาร์รี่คัพในโรงเรียนเหยี่ยวดำ
การแข่งขันสตาร์รี่คัพรอบนี้เป็นรอบระดับโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนทหารแต่ละโรงเรียนจะจัดการแข่งขันขึ้นมาพร้อมๆกัน โดยมีบริษัทสตาร์รี่เป็นสปอนเซอร์
เนื่องจากรายการศูนย์กลางการแข่งขันเป็นเพียงรายการชั่วคราวที่จะมีเฉพาะตอนที่มีงานประลอง ทำให้เฟิงหมิงเฉวียนถูกเลือกให้มาเป็นคนดูแลการถ่ายทอดสดการแข่งขันสตาร์รี่คัพของโรงเรียนเหยี่ยวดำ
บางทีเฟิงหมิงเฉวียนกับหานเซิ่นอาจจะมีชะตาต้องกัน แต่เฟิงหมิงเฉวียนนั้นยังไม่รู้ว่าดอลลาร์เองก็เป็นนักเรียนของเหยี่ยวดำ
ในตอนนี้เฟิงหมิงเฉวียนกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมการ เขายังไม่รู้ว่าควรจะต้องเน้นไปที่การแข่งรายการไหนดี เพราะสตาร์รี่คัพมีการแข่งขันหลายรายการและหลายประเภทมาก ทำให้การแข่งหลายประเภทต้องแข่งในเวลาเดียวกัน ซึ่งทีมงานของเขามีจำกัด เขาจึงต้องเลือกสัก 1 รายการมาเป็นหลักก่อน
“ลิ่ว ปรกติแล้วเหยี่ยวดำถนัดการแข่งขันไหนมากที่สุด?”
เฟิงหมิงเฉวียนถามผู้ช่วย ขณะที่เขากำลังไล่ดูข้อมูล
ลิ่วทำการค้นหาข้อมูล และตอบอย่างรวดเร็ว
“การแข่งขันที่เหยี่ยวดำทำได้ดีที่สุดคือ การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ ประเภทบุคคลเดี่ยว เมื่อปีก่อนพวกเขาได้อันดับ 3 ของกาแล็กซี่ ซึ่งนักเรียนที่ลงแข่งก็ยังเรียนอยู่ที่นี่ด้วย เขาชื่อโอวหยางเสียวซาน และปีนี้เขาก็ลงสมัคร”
“มีอย่างอื่นอีกไหมที่เหยี่ยวดำถนัด?” เฟิงหมิงเฉวียนถามต่อ
“ดูเหมือนจะมีแค่วอเฟรมกับหัตถ์พระเจ้าที่ทำผลงานได้ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นเท่าไรเมื่อเทียบกับศิลปะการต่อสู้ ในปีก่อน วอเฟรมของเหยี่ยวดำติด 1 ใน 20 ส่วนหัตถ์พระเจ้า ติด 1 ใน 10 ของกาแล็กซี่”
ลิ่วดูข้อมูลแล้วยิ้ม “แต่ก็มีสิ่งที่น่าสนใจเหมือนกัน เนื่องจากผลงานการแข่งขันด้านธนูของเหยี่ยวดำนั้นแย่มาก ทำให้ปีนี้พวกเขาเปิดรับนักเรียนที่มีความสามารถด้านธนูเข้ามา ผมว่าปีนี้พวกเขาอาจจะทำผลงานได้ดี”
“ธนูงั้นหรอ?” เฟิงหมิงเฉวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เนื่องจากมันเป็นการแข่งขันที่คนไม่ค่อยให้ความสนใจ การแข่งขันที่เป็นที่นิยมจะเป็นพวกการแข่งขันยานเหาะ วอเฟรมและศิลปะการต่อสู้ ส่วนการแข่งขันธนูจะมีคนดูค่อยข้างน้อย เพราะพวกคนดูชอบการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นมากกว่า
“หัวหน้า ไฮไลท์หลักของเหยี่ยวดำคงเป็นการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ไม่ผิดแน่ พวกเราควรจะโฟกัสไปที่โอวหยางเสี่ยวซาน และเอาพวกการแข่งวอเฟรมกับหัตถ์พระเจ้าไว้เป็นตัวเสริม ตอนที่ศิลปะการต่อสู้ไม่มีการแข่ง” ลิ่วแนะนำ
“ยังมีเวลาเหลืออีก 2 วัน กว่าการแข่งขันจะเริ่ม เดี๋ยวพวกเราค่อยมาตัดสินใจกันอีกที ตอนนี้ลองพยายามหาข้อมูลไปเรื่อยๆก่อน”
เฟิงหมิงเฉวียนมองไปที่นาฬิกาและพูด “แต่มันก็ดึกมากแล้ว พวกเราไปหาของว่างทานกันหน่อยดีกว่า และเดี๋ยวค่อยกลับมาลุยกันต่ออีกทีในตอนเช้า”
เฟิงหมิงเฉวียนออกจากห้องทำงานที่ทางโรงเรียนเตรียมไว้ให้เขา และไปที่ร้านอาหาร เพื่อหาของว่างทาน
มันเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ร้านอาหารเกือบทุกร้านว่างเปล่า แต่ก็มีเครื่องขายอาหารอัตโนมัติที่ยังขายอาหารอยู่
เฟิงหมิงเฉวียนมองเข้ามาในร้านอาหาร และเห็นว่ามีนักเรียนคนหนึ่งกำลังนั่งกำลังทานอาหารอยู่ที่มุมร้าน เฟิงหมิงเฉวียนซื้ออาหาร และเดินไปนั่งตรงข้ามกับนักเรียนคนนั้น
“สวัสดีน้องชาย ทำไมมากินอาหารดึกจัง” เมื่อเดินไปนั่งตรงข้ามกับนักเรียน เฟิงหมิงเฉวียนก็ยิ้มและเอ่ยคำทักทาย
เฟิงหมิงเฉวียนคิดว่านักเรียนคนนี้น่าจะจำเขาได้ เพราะถ้าดูจากอายุแล้ว เขาน่าจะอยู่ในก็อตแซงขัวรี่เขต 1 และน่าจะได้ดูรายการศูนย์กลางการแข่งขัน
หานเซิ่นมองเฟิงหมิงเฉวียน และเขาดูเหมือนว่าจะจำเฟิงหมิงเฉวียนไม่ได้ ถึงเขาจะเคยได้อ่านบทความ ‘ราชาขับเคลื่อนด้วยความโดดเดี่ยว’ ที่เฟิงหมิงเฉวียนเป็นคนเขียน ทำให้เขาเคยได้ยินชื่อเฟิงหมิงเฉวียนมาบ้าง แต่เนื่องจากเขาไม่เคยดูรายการศูนย์กลางการแข่งขัน ทำให้เขาไม่เคยเห็นหน้าของเฟิงหมิงเฉวียนมาก่อน
“ผมพึ่งฝึกซ้อมเสร็จเลยหิวมาก” หานเซิ่นมองไปที่เฟิงหมิงเฉวียนกับลิ่วด้วยสายตาที่สงสัยว่าพวกเขาเป็นใคร พวกเขาดูแก่เกินกว่าที่จะเป็นนักเรียน
เฟิงหมิงเฉวียนผิดหวังเล็กน้อยที่นักเรียนคนนี้จำเขาไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาถามอย่างสบายๆขณะกินอาหาร
“น้องชายชื่ออะไร? และอยู่หน่วยไหน?”
“หานเซิ่น หน่วยธนู” หานเซิ่นตอบแบบสบายๆ
“หน่วยธนู!” เฟิงหมิงเฉวียนกับลิ่วประหลาดใจ พวกเขาเพิ่งจะได้พบกับนักเรียนที่เข้ามาด้วยโควต้าพิเศษคนแรก
เฟิงหมิงเฉวียนมองหานเซิ่นอย่างละเอียด “ถ้ามาจากหน่วยธนู น้องชายได้เข้าร่วมการแข่งขันสตาร์รี่คัพรึป่าว?”
“ผมลง แต่ไม่ใช่แข่งธนู” หานเซิ่นยิ้ม
“แล้วสมัครอะไร?” ลิ่วถามด้วยความสงสัย
“วอเฟรม” หานเซิ่นตอบ
“งั้นน้องชายก็ต้องอยู่ชมรมวอเฟรมใช่ไหม” ลิ่วถาม
“เปล่า ผมอยู่ชมรมวอเฟรมหนัก” หานเซิ่นหัวเราะ
ลิ่วรู้ว่าชมรมวอเฟรมหนักหมายถึงอะไร เขาเองก็จบจากโรงเรียนทหารเช่นกัน มันเป็นชมรมที่สมาชิกมักจะมานั่งเล่นฆ่าเวลากันซะส่วนมาก
เฟิงหมิงเฉวียนยิ้มและพูด “ชมรมวอเฟรมหนักก็เป็นชมรมวอเฟรมเหมือนกับ น้องชายคงจะมีฝีมือแน่ แล้วลงแข่งประเภทไหนหรอ?”
“ผมลงแข่งทุกประเภทในการแข่งขันวอเฟรม ยกเว้นบางประเภทที่เวลาชนกัน” หานเซิ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตอบออกไป
ลิ่วมั่นใจว่าหานเซิ่นแค่สมัครไปอย่างงั้นแหละ เพราะถึงวอเฟรมจะมีการแข่งหลายประเภท แต่การแข่งขันแต่ละประเภทนั้นแตกต่างกันค่อนข้างมาก คนส่วนมากจะเน้นฝึกเพื่อลงแข่งประเภทเดียวหรือ 2 ประเภท เพื่อที่จะได้หวังผลมากที่สุด
“งั้น ประเภทไหนที่น้องชายคิดว่าหวังผลได้มากที่สุด?” เฟิงหมิงเฉวียนถามพร้อมกับยิ้ม
“ผมจะพยายามให้ได้แชมป์ทุกประเภทที่ลงแข่ง” หานเซิ่นตอบแบบสบายๆ
ลิ่วเกือบจะสำลักน้ำออกมาเมื่อได้ยินคำตอบของหานเซื่น หลังจากไออยู่สักพัก ลิ่วก็มองหานเซิ่นด้วยสายตาแปลกๆ
“น้องชาย ฉันคิดว่าน้องชายน่าจะสมัครให้เยอะกว่านี้อีกหน่อย เช่นหัตถ์พระเจ้า เพื่อจะได้แชมป์มากขึ้นอีกไม่ดีหรอ?” ลิ่วพูดประชดหานเซิ่น
“หัตถ์พระเจ้าน่าเบื่อเกินไปสำหรับผม” หานเซิ่นตอบโดยไม่สนใจคำประชดประชัน
“ทำไมล่ะ” เฟิงหมิงเฉวียนถามด้วยความกระตือรือร้น
“เพราะว่าคู่ต่อสู้ฝีมืออ่อนเกินไป” หานเซิ่นตอบ
ลิ่วไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน เขารู้สึกว่านักเรียนสมัยนี้อวดดีมากเกินไป พวกเขาอยากจะพูดอะไรก็พูด
Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/
ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 508 แล้วครับ
คอมเม้นต์