อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 174 ใครคือตัวเอก
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
ตอนนี้กลุ่มดีกังกำลังพยายามโปรโมทวอเฟรมตัวใหม่ที่เป็นซุปเปอร์ไบโอนิเคิลวอเฟรม แต่พวกเขายังไม่เปิดเผยถึงรูปลักษณ์ของมัน
กลุ่มดีกังกำลังรอเวลาเหมาะๆเพื่อจะเปิดตัววอเฟรมตัวใหม่ของพวกเขา ซึ่งก็คือSKTS สู่สายตาของสาธารณชน พวกเขาได้แจ้งไปทางเหยี่ยวดำเพื่อขออนุญาตให้หานเซิ่นสามารถออกจากเหยี่ยวดำ เพื่อไปเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัววอเฟรม
เนื่องจากข้อตกลงนี้เป็นความลับ หานเซิ่นจึงไม่ได้บอกใคร เขาบอกจีเหยียนหรันเพียงแค่ เขาต้องไปทำธุระสำคัญให้กลุ่มดีกัง
ที่มุมห้องทำงานของดีกัง ผู้หญิงอายุประมาน 18 ปี สวมชุดยูนิฟอร์มสีขาวกำลังโต้เถียงอยู่กับลิ่วจางหมิง
“ผู้จัดการลิ่ว ฉันเชื่อว่าฉันมีความสามารถพอที่จะเป็นพรีเซนเตอร์ของวอเฟรมตัวใหม่ ทำไมคุณถึงให้ฉันทำหน้าที่แค่ยืนปั้นหน้าตาสวยๆ และให้นักเรียนทหารธรรมดามาทำหน้าที่ขับวอเฟรมเเทน? ฉันขอฟังคำอธิบายที่สมเหตุสมผลหน่อย” อวี้เฉียนซุนกำลังเดือดปุดๆ
แม้ว่ากฎข้อแรกของทหารคือต้องเชื่อฟังคำสั่ง แต่อวี้เฉียนซุนไม่ยอมรับความจริง เธอคิดว่าเธอมีคุณสมบัติดีพอทุกอย่าง แต่กับต้องมาถูกเด็กจากโรงเรียนทหารแย่งหน้าที่สำคัญไป
เมื่อปีก่อนอวี้เฉียนซุนถูกตั้งให้เป็นโฆษกของดีกัง และเป็นพรีเซนเตอร์โปรโมทสินค้าของดีกังหลายอย่าง ซึ่งยอดขายของสินค้าทุกชิ้นก็สูงมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอไม่อยากยอมรับคำสั่งที่ให้ทำหน้าที่ค่อยสนับสนุน ขณะที่ฟรีเซนเตอร์หลักกับตกไปอยู่ในมือนักเรียนจากเหยี่ยวดำ
แม้ว่าโรงเรียนเหยี่ยวดำจะถือว่าเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในกาแล็กซี่ แต่เธอเป็นคนที่มาจากโรงเรียนส่วนกลางของกาแล็กซี่ ซึ่งเหยี่ยวดำเทียบไม่ติด
“เฉียนซุน เธอไม่ได้เป็นแค่ตัวสนับสนุน แต่เธอเป็นนางเอกของงานเลยก็ว่าได้ ส่วนเด็กที่เราติดต่อมา เขาจะเป็นฮีโร่ งานนี้พวกเราต้องการพวกเธอทั้ง 2 คน งานถึงจะไปได้สวย” ลิ่วจางหมิงพูดพร้อมกับยิ้ม
“ยิ่งกว่านั้น ด้วยความสวยของเธอ ถ้าทำงานร่วมกัน เธออาจจะดูโดดเด่นยิ่งกว่าเขาด้วยซ้ำ”
“ผู้จัดการ ฉันไม่ใช่เด็ก 3 ขวบนะ นี่มันเป็นการเปิดตัวสินค้าวอเฟรม คุณเคยเห็นนางเอกคนไหนเป็นนางเอกได้โดยไม่ต้องขับวอเฟรมรึเปล่า?” อวี้เฉียนซุนถาม ขณะกัดริมฝีปากของตัวเอง
เธอได้เห็นบทของเธอแล้ว แม้เธอจะเป็นนางเอก แต่ก็ไม่มีฉากที่เธอได้ขับวอเฟรมSKTSเลย เธอมีหน้าที่แค่ทำให้คนขับดูโดนเด่นขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งเธอคิดว่าคนที่ไม่ได้ขับวอเฟรมจะไม่สามารถเรียกว่าสตาร์ได้
“เฉียนซุน เธอไม่ใช่แค่ทหาร แต่ยังเป็นสตาร์ด้วย เชื่อในความสามารถของตังเอง และฉันก็เชื่อว่าเธอจะทำให้ตัวเองขึ้นมาเป็นตัวเอกของงานได้” ลิ่วจางหมิงทำตาแคบลง
“แต่…” อวี้เฉียนซุนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกลิ่วจางหมิงขัดจังหวะก่อน
“ไม่มีแต่ นี่เป็นคำสั่ง ถ้าเธออยากจะพูดอีกให้ไปพูดกับหัวหน้าของเธอ” ลิ่วจางหมิงทำหน้าตาหน้ากลัว
อวี้เฉียนซุนกัดริมฝีปากของตัวเอก และเดินออกจากห้องไป แม้จะเป็นสตาร์ แต่เธอก็เป็นทหาร ซึ่งไม่สามารถขัดคำสั่งได้
เธอเป็นสมาชิกของหน่วยพิเศษและถูกจ้างโดยดีกัง แม้เธอจะเคยเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้ามาหลายอย่าง แต่เธอยังไม่เคยเป็นพรีเซนเตอร์วอเฟรมเลย นั่นทำให้เธอรู้สึกอับอาย
“ฉันอยากจะเห็นชัดๆว่าใครที่มาแย่งหน้าที่ของฉันไป” อวี้เฉียนซุนกัดฟัน
ถ้ามันเป็นสินค้าตัวอื่นเธอจะไม่โกรธขนาดนี้ แต่นี่เป็นซุปเปอร์ไบโอนิเคิลวอเฟรม ซึ่งเป็นสินค้าที่กลุ่มดีกังทุ่มเททุกอย่างลงไป SKTS เป็นสุดยอดวอเฟรมในสายตาของเธอ มันเป็นความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมวอเฟรม และมันก็เป็นความหวังสูงสุดของเธอที่จะได้ขับ SKTS ในงานเปิดตัว
เมื่อหานเซิ่นเดินทางมาถึง ลิ่วจางหมิงก็เดินลงไปรับหานเซิ่นด้วยตัวเอง ขณะที่หานเซิ่นเกรงใจลิ่วจางหมิงมาก เพราะเขาเป็นถึงผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มดีกัง
โชคดีที่ลิ่วจางหมิงไม่ใช่คนจู้จี้จุกจิก เขาตอนรับหานเซิ่นอย่างเป็นกันเองมาก เขาจัดอาหารค่ำต้อนรับหานเซิ่น และเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเกือบทุกคนมาร่วมงานด้วย
ลิ่วจางหมิงแนะนำผู้จัดการ ผู้กำกับและพนักงานคนอื่นๆให้หานเซิ่นรู้จัก คนเดียวที่ไม่ยอมมาร่วมงานก็คือนางเอกของงานเปิดตัว ซึ่งหานเซิ่นเองก็ไม่รู้ว่างานนี้มีนางเอกด้วย เขาจึงสนุกกับมื้ออาหารมาก
วันรุ่งขึ้น ทีมงานพาหานเซิ่นไปดูสนามฝึกซ้อมวอเฟรม เพื่อให้หานเซิ่นคุ้นเคยกับSKTS เมื่อดูจากภายนอก แม้แต่หานเซิ่นเองก็ยังแยกความแตกต่างระหว่างSKTSกับSilver Killerได้ลำบาก
ความแตกต่างอย่างเดียวที่เห็นได้ชัดก็คือ SKTSมีขนาดใหญ่กว่าSilver Killerนิดหน่อย ขนาดของSilver Killerสามารถใส่ในกระเป๋าพวกนักธุรกิจได้ แต่SKTS ขนาดกระเป๋าของมันจะเท่ากับพวกกระเป๋าสัมภาระ
ในสนามฝึกซ้อมมีSTKSจอดเรียงรายอยู่จำนวนมาก หานเซิ่นเลือกหนึ่งเครื่องและขึ้นไปที่ห้องคนขับ
แม้ว่าลักษณะภายนอกจะเหมือนกัน แต่เมื่อเริ่มลองขับดู หานเซิ่นก็รู้สึกถึงความแตกต่าง SKTSจะขับง่ายและนุ่มนวลกว่า แต่ประสิทธิภาพของเครื่องจะลดลงไปเล็กน้อย
แต่SKTSก็ยังดีกว่าKing Series ซึ่งเป็นวอเฟรมรุ่นล่าสุดของกลุ่มสตาร์รี่ ทั้งความนุ่นนวลและประสิทธิภาพ
เนื่องจากหานเซิ่นคุ้นเคยกับวอเฟรมประสิทธิภาพสูง ทำให้เวลาขับSKTS ด้วยสไตล์เดิมๆจะมีการติดขัดอยู่บ้าง การเคลื่อนไหวบางอย่างที่เขาคิดว่าถ้าเป็นSKTSจะทำได้ง่ายกว่ากลับทำไม่ได้ เนื่องจากกำลังขับเคลื่อนของมันไม่สูงพอ
เมื่อเห็นหานเซิ่นกำลังฝึกขับSKTS อวี้เฉียนซุนก็รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม เธอรู้สึกเหมือนเป็นแค่ลูกสมุนของหนุ่มคนนี้เท่านั้น
‘ถึงฉันจะไม่ได้บทบาทหลักกลับคืนมา แต่อย่างน้อยฉันจะแสดงให้นายดูว่าการขับวอเฟรมจริงๆเขาทำกันยังไง’ หลังจากคิด อวี้เฉียนซุนก็ขึ้นไปบนวอเฟรม เธอชักดาบเลเซอร์ออกมา และพุ่งตรงเข้าไปหาหานเซิ่นทันที
ขณะฝึกซ้อม หานเซิ่นเห็นอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงในจอเรดาร์ของเขา หานเซิ่นรีบหันไปดู และเห็นSKTSอีกเครื่องกำลังพุ่งเข้ามาพร้อมกับถือดาบในมือ
หานเซิ่นคิดว่าเป็นคู่ซ่อมที่ส่งทีมงานส่งมา เพื่อให้เขาคุ้นเคยกับSKTSไวๆ หานเซิ่นเลยไม่แปลกใจ เขาชักดาบออกมาเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้
คอมเม้นต์