อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 254 ผู้เชี่ยวชาญด้านธนู
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
“ฉันก็สงสัยอยู่ว่าทำไมพวกเขาทั้ง 2 คนถึงเลือกลงแข่งธนู ระหว่างพวกเขาต้องมีอะไรบางอย่างแน่!”
“แทบจะรอให้ถึงการแข่งขันระหว่างพวกเขาไม่ไหวแล้ว!”
“ปีศาจกับจักรพรรดิ น่าสนใจมาก ฉันเชื่อมั่นในจักรพรรดิหมัดดำ”
“ฉันเคยเห็นฝีมือของหานเซิ่นในการแข่งมวยขาวและดำแล้ว เขาเอาชนะนาลานเฉิงนั่วได้ 3 ต่อ 0 แต่จิงจี้อู่เอาชนะนาลานเฉิงนั่วได้แค่ 3 ต่อ 2”
“นี่จะต้องเป็นการแข่งที่สุดยอดแน่”
“น่าตื่นเต้นจริงๆ!”
…
โรงเรียนทหารส่วนกลางเอาชนะการแข่งรอบแรกได้อย่างสบายๆ
แต่กระนั้นสมาชิกทีมของพวกเขาก็ยังไม่ได้ออกจากสนามแข่ง พวกเขาเปลี่ยนชุด และไปหาที่นั่งบนสแตนด์ เพื่อดูการแข่งของทีมอื่นๆ ทำให้คนที่เชื่อว่าหานเซิ่นและจิงจี้อู่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา ยิ่งมั่นใจมากขึ้น
เหวินซิ่วซิ่วรู้สึกตื่นเต้นมาก เธอกล้องจับภาพไปที่จิงจี้อู่และหานเซิ่นตลอดเวลา โดยแทบไม่ได้จับภาพไปที่การแข่งขันเท่าไหร่
พวกผู้ชมก็เริ่มแสดงความเห็นกันอย่างไม่ขาดสาย ในที่สุดก็ถึงรอบของเหยี่ยวดำ คู่แข่งของพวกเขาคือโรงเรียนสมิธ
ทุกคนต่างก็สงสัยอยู่ว่าซื่อถูเซียงจะเลือกนักเรียนคนไหนเป็นตัวแทนของเหยี่ยวดำบ้าง และทุกคนก็ต่างประหลาดใจกับรายชื่อนักกีฬาที่ลงแข่ง นอกจากกัปตันทีมที่เป็นนักเรียนปี 4 แล้ว คนอื่นๆที่เหลืออีก 4 คนคือเด็กนักเรียนปี 1 จากห้อง 304 ทั้งสิ้น
ซื่อจื้อคังประหลาดใจมาก เขาอ้าปากค้าง เขาไม่ได้หวังว่าจะได้รับเลือกให้ลงแข่งเป็นตัวแทนของโรงเรียน ระดับฝีมือของเขาก็แค่กลางๆ และยังด้อยกว่าพวกนักเรียนคนอื่นๆที่เดินทางมาด้วยหลายคน
สำหรับลู่เหมินและจางหยางมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมและเป็นระดับท็อปของโรงเรียน ที่โค้ชจะเลือกพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลก
“ทำให้ดีที่สุด ฉันเชื่อในตัวพวกเธอ” ซื่อถูเซียงยิ้มและจับไปที่ไหล่ของซื่อจื้อคัง
เหมือนที่ลู่เหมินคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด ซื่อถูเซียงให้ความสำคัญกับคนที่มีใจแข่งมากกว่าคนมีฝีมือ เธอเลยเลือกซื่อจื้อคังที่มีความเชื่อมั่นแทนคนอื่นๆที่มีฝีมือแต่ขาดใจที่จะสู้
ถ้ากัปตันทีมถอดใจเหมือนกัน เธอก็จะไม่ลังเลที่จะถอดเขาออกจากทีมเช่นเดียวกัน
“ไม่ต้องกังวลพวกเราจะอยู่กับนายเอง” จางหยางลูบไหล่ของซื่อจื้อคัง
ซื่อจื้อคังพูดออกมาทันที “กังวลอะไร? รอบนี้พวกเรายังไม่ได้เจอกับปีศาจ เซิ่นก็ยังอยู่กับพวกเรา ใครบอกว่าฉันกังวล?”
ลู่เหมินและจางหยางมองไปที่ซื่อจื้อคังพร้อมกับยิ้ม หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินไปวอร์ม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่ง
การแข่งแบบทีมเป็นการแข่งที่ลงสนามพร้อมกันทุกคน แต่ละทีมจะมีสมาชิก 5 คน ในสนามจะมีสิ่งกีดขวางไว้สำหรับซุ่มและหลบ ฝ่ายไหนสามารถยิงสมาชิกทีมอีกฝั่งได้ครบก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ มันเหมือนกับการจำลองการสู้รบของทหารในสนามรบ เพียงแค่ใช้ธนูแทนปืนเท่านั้น ลูกธนูที่ใช้ในเกมก็จะเป็นลูกธนูหัวแบนและมีแม่เหล็กติดไว้ เมื่อยิงถูกอีกฝ่ายนักกีฬาคนนั้นจะต้องออกจากเกมทันที
ในรายการสดของเหวินซิ่วซิ่วได้เชิญนักธนูที่มีชื่อเสียง เฟิงจิ้วหลุนมาช่วยในการวิเคราะห์เกมด้วย
“คุณเฟิงจิ้วหลุน คุณพอจะวิเคราะห์สถานการณ์ของทั้ง 2 ทีมตอนนี้ได้ไหมคะ?” เหวินซิ่วซิ่วถามเฟิงจิ้วหลุน
แม้เหวินซิ่วซิ่วจะไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับธนู แต่ก่อนที่เธอจะมาทำรายการ เธอได้ทำการบ้านมาพอสมควร ซึ่งตอนนี้เธอก็รู้เกี่ยวกับกฎและทีมของแต่ละโรงเรียนดี
โรงเรียนทหารสมิธอยู่ในระดับเดียวกับโรงเรียนเหยี่ยวดำ เมื่อปีก่อนโรงเรียนสมิธก็ทำผลงานได้ไม่ค่อยที่ดีนัก อันดับของพวกเขาดีกว่าเหยี่ยวดำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในปีนี้โรงเรียนสมิธเองก็รับนักเรียนที่มีความสามารถธนูเข้ามาเช่นกัน ซึ่งในบรรดานักเรียนที่รับเข้ามา ฟางเหวินติ้งคือคนที่มีฝีมือสูงที่สุด
เฟิงจิ้วหลุนเริ่มพูด “เหยี่ยวดำและสมิธอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน และผมคิดว่ามีโอกาส 60% ที่จะชนะ”
“คุณคิดว่าเหยี่ยวดำมีโอกาสที่จะชนะเพียงแค่ 60 % เองหรอคะ?” เหวินซิ่วซิ่วรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ไม่ ผมเชื่อว่าสมิธมีโอกาสชนะ 60%” เฟิงจิ้วหลุนพูด
เหวินซิ่วซิ่วถึงกับอึ้ง ทุกคนต่างก็รู้ว่าหานเซิ่นเป็นนักกีฬาที่จิงจี้อู่ให้ความสำคัญ เธอเลยไม่คิดว่าเฟิงจิ้วหลุนจะแสดงความเห็นแบบนี้ออกมา
เฟิงจิ้วหลุนไม่รอคำถามต่อไป เขาชิงพูดต่อ “ผมรู้ว่าตอนนี้ในโลกโซเชี่ยลกำลังให้ความสนใจนักเรียนที่ชื่อหานเซิ่นมาก แต่กระนั้นด้วยการวิเคราะห์ระดับมืออาชีพแบบผม ผมสามารถบอกคุณได้เลยว่ามันเป็นแค่การสร้างกระแสเท่านั้น หานเซิ่นและเหยี่ยวดำไม่มีทางเทียบชั้นกับโรงเรียนทหารส่วนกลางได้เลย และผมจะบอกคุณด้วยว่า ยังยากเลยที่พวกเขาจะเอาชนะโรงเรียนสมิธ”
ความเห็นของเฟิงจิ้วหลุน ทำให้ผู้ชมต่างก็เดือดขึ้นมา
“ไอ้หมอนี้เป็นนักวิเคราะห์ได้ไง? เขาแสดงความเห็นที่โง่มาก?”
“จักรพรรดิของฉันได้รับเลือกจากจิงจี้อู่แล้ว สมิธไม่มีค่าพอที่จะแข่งกับเขาด้วยซ้ำ”
“ใครไปเชิญไอ้บ้านี่มาวิเคราะห์เนี่ย?!”
“สร้างกระแสอะไรของเอ็งวะ”
….
ทั้งเเฟนคลับของจิงจี้อู่และแฟนคลับของหานเซิ่นต่างก็ไม่พอใจความเห็นของเฟิงจิ้วหลุน
แม้เหวินซิ่วซิ่วจะรู้สึกขายหน้าไปด้วย แต่เธอก็ไม่สามารถแย้งความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่เชิญมาได้ เธอจำเป็นต้องพูด “มีเหตุผลอะไรไหมคะที่ทำไมคุณคิดว่าสมิธมีโอกาสชนะมากกว่า?”
เฟิงจิ้วหลุนยิ้มและพูด “ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมจะไม่ตกอยู่ภายใต้กระแสของโลกโซเชี่ยล ตรงกันข้ามผมมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือกว่า นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมกล้าพูดว่าสมิธมีโอกาสชนะมากกว่า เหยี่ยวดำไม่แม้แต่จะใกล้เคียงกับสมิธ ครั้งนี้พวกเขาจะต้องแพ้ ผมไม่ต้องคาดการณ์อะไรมาก เพียงแค่ใช้สถิติที่ผ่านมา ถึงโลกโซเชี่ยลจะมีข่าวลืออะไรหลายอย่าง แต่พวกนั้นล้วนเป็นข่าวปลอมทั้งสิ้น มันไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าเหยี่ยวดำเป็นทีมที่อ่อนแอ”
ตอนนี้เหวินซิ่วซิ่วพลาดที่เชิญผู้เชี่ยวชาญคนนี้มาออกรายการ ข่าวปลอมที่เขาพึ่งพูดถึงคงจะเป็นบทความที่เธอเขียน
แต่จริงๆแล้วเฟิงจิ้วหลุนไม่ได้รู้ว่าเหวินซิ่วซิ่วเป็นคนเขียนบทความนั้น เหตุผลที่เขาวิเคราะห์แบบนี้เพราะฟางเหวินติ้ง นักกีฬาของสมิธเป็นหลานของเขาเอง เฟิงจิ้วหลุนรู้ว่าพ่อแม่ของฟางเหวินติ้งเป็นนักธนูมืออาชีพ และได้รับการฝึกมาตั้งแต่เล็กๆ ดังนั้นครั้งนี้เป็นโอกาสที่เขาจะได้โชว์ความสามารถในการวิเคราะห์อันสุดยอด และยังได้สร้างชื่อเสียงให้กับหลานของเขาด้วย
คอมเม้นต์