อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 309 ขู่
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
หลังจากออกจากโรงฝึก หานเซิ่นก็รู้สึกเจ็บไปทั่วทั้งร่าง เส้นเลือดของเขาปูดขึ้นมาทั่วร่าง ซึ่งมันดูค่อนข้างน่ากลัว
หานเซิ่นเข้าใจมันดี เพราะเขาฝืนใช้มนตรานอกรีตเป็นเวลานานเกินไป ซึ่งมันทำให้ร่างกายของเขาได้รับภาระหนัก
ถ้าหัวใจและเส้นเลือดของเขาไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นจากการฝึกขั้นแรกสำเร็จละก็ ตอนนี้หัวใจและอวัยวะภายในของหานเซิ่นอาจจะระเบิดไปแล้วก็ได้
ถึงหัวใจจะได้รับการพัฒนาแล้วก็ตาม แต่ร่างกายของเขาก็ยังไม่สามารถแบกรับภาระได้ ในตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกอ่อนล้าอย่างมาก เขาแทบจะยืนต่อไปไม่ไว้ด้วยซ้ำ
จริงๆเขาต้องการจะฝึกดิเวอร์ชั่นต่ออีก แต่ตอนนี้เขาคงทำไม่ได้แล้ว เขานั่งอยู่คนเดียวในโรงฝึก หานเซิ่นตัดสินใจกลับไปที่หอพัก หลังจากที่ร่างกายของเขาฟื้นสภาพมาบ้างแล้ว
ภายในโรงฝึกที่หานเซิ่นนั่งอยู่มีข่าวเป็นตัวหนังสือวิ่งอยู่ ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องในก็อตแซงชัวรี่ เช่นคนบางคนไปถึงก็อตแซงชัวรี่ 4 แล้ว และมีใครได้เป็นผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิบ้าง
หลังจากดูไปสักพัก หานเซิ่นก็สนใจข้อความหนึ่ง มันคือเรื่องราวของเมืองหนึ่งในก็อตแซงชัวรี่เขต 1
หานเซิ่นรู้สึกตื่นเต้นมาก เขารีบเปิดคอม และเข้าไปหาข้อมูลในเน็ตทันที ไม่นานหานเซิ่นก็พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และตาของหานเซิ่นก็เป็นประกายในทันที
มันเป็นข่าวเกี่ยวกับเมืองกลอรี่ มีใครบางคนพบมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิในภูเขาใกล้ๆเมืองกลอรี่ และคนเกือบทั้งเมืองกลอรี่ก็จัดทีมกันไปล่ามอนสเตอร์ตัวนั้น แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้ และมีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
หานเซิ่นลองค้นหาความเห็นของผู้คนในเมืองกลอรี่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากมีคนจำนวนมากเห็นมอนสเตอร์ตัวนี้ ทำให้คำบรรยายค่อนข้างชัดเจน
มันเป็นมอนสเตอร์ที่มีรูปร่างเหมือนเต่าขนาดใหญ่ ตัวของมันแข็งมากแม้แต่อาวุธเลือดศักดิ์สิทธิก็ยังทำอะไรมันไม่ได้ คนจำนวนมากตายด้วยฟันของมัน
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเต่าตัวนี้เคลื่อนไหวได้ช้า คนคงจะตายกันมากกว่านี้
หลายคนเชื่อว่าเต่าสีดำตัวนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเต่ากระดองคริสตัลเลือดศักดิ์สิทธิ ซึ่งที่ควรจะเป็นมอนสเตอร์ประเภทเต่าที่แข็งแกร่งที่สุดที่มนุษย์รู้จักในก็อตแซงชัวรี่ 1
มีคนจำนวนมากบรรยายฉากการต่อสู้ ซึ่งทำให้หานเซิ่นมั่นใจมากว่ามันน่าจะเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด
ตามที่คนเมืองกลอรี่บอก เต่าตัวนี้แข็งแกร่งกว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิทุกตัวที่พวกเขาเคยเจอ ไม่มีอาวุธอะไรทำอันตรายมันได้ และจุดอ่อนเดียวของมันก็คือมันเคลื่อนที่ได้ค่อนข้างช้า ไม่งั้นคนจากเมืองกลอรี่คงจะบาดเจ็บล้มตายกันจำนวนมากแน่
ถ้าพวกเขาไม่เล่าเกินจริงกันไปเอง หานเซิ่นเชื่อว่าเต่าตัวนี้ต้องเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดแน่
ในครึ่งปีที่ผ่านมา หานเซิ่นพัฒนาความแข็งแกร่ง และก็หาข้อมูลเกี่ยวกับมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดอยู่ตลอด เพราะถ้าเกิดเขามีพลังพอที่จะล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้เมื่อไหร่ เขาก็ต้องรู้ที่อยู่ของมันด้วย เพื่อที่จะได้ไปล่า
แต่ทว่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดนั้นหายากยิ่งกว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาเต่าตัวนี้เป็นเพียงตัวเดียวที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด
หานเซิ่นลองอ่านความเห็นเกี่ยวกับเต่าตัวนี้อีกครั้ง และรู้ว่าเต่าสีดำตัวนี้ขึ้นมาจากทะเล คนพยายามล่ามันหลังจากรู้ที่อยู่ของมัน แต่พวกเขาก็ต้องล้มเหลวกลับมา
ตอนนี้เต่าสีดำได้ปีนขึ้นไปอยู่บนภูเขาทองแดง เนื่องจากคนจากเมืองกลอรี่หมดปัญญาจะฆ่ามันได้ ทำให้พวกเขาไม่สนใจที่จะล่อให้มันลงมา ในตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนสักแห่งภายในภูเขาทองแดง
หานเซิ่นลังเลว่าควรจะไปที่เมืองกลอรี่ดีไหม เขาเคยไปที่นั่นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเขารู้จักเส้นทางดี ถ้าเขาบินผ่านหนองน้ำแห่งความมืด เขาสามารถไปถึงที่นั่นได้โดยใช้เวลาไม่นาน
แต่ว่าในตอนนี้เขายังฝึกมนตรานอกรีตขั้นที่ 3 ไม่สำเร็จ หานเซิ่นไม่แน่ใจว่าเขาแข็งแกร่งพอจะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดรึเปล่า นั่นเป็นเหตุผลที่เขาลังเลอยู่ในตอนนี้
“พี่ชายไม่ควรใช้เวลาในเครื่องจำลองโฮโลแกรมมากเกินไป เอาน้ำสักหน่อยไหม” ใครบางคนปรากฏตัวขึ้นข้างๆหานเซิ่น และโยนขวดน้ำให้เขา
หานเซิ่นประหลาดใจ เขาคือจิงจี้หยา จิงจี้หยากำลังรอให้หานเซิ่นมาท้าเขา หลังจากที่เขาปล่อยข่าวยั่วยุไป แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จิงจี้หยาจึงตระหนักว่าหานเซิ่นเป็นผู้ใหญ่กว่าที่เขาคิดเอาไว้ ข่าวลือทั้งหมดไม่เป็นผลกับเขาเลย
แต่อย่างไรก็ตามจิงจี้หยาก็ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ หลังจากได้รับข่าวว่าหานเซิ่นอยู่ในโรงฝึก เขาก็รีบมาที่นี่ทันที
จริงๆเขารออยู่นานมากกว่าหานเซิ่นจะออกมาจากอุปกรณ์จำลองโฮโลแกรม หลังจากหานเซิ่นออกมานั่งพัก เขาก็ยังไม่ได้เข้าไปหาหานเซิ่นทันที แต่เขาออกไปซื้อขวดน้ำ 2 ขวด ก่อนที่จะมานั่งข้างๆหานเซิ่น
“ไม่ต้องห่วง ผมไม่ผสมยาพิษหรอก” จิงจี้หยาพูดพร้อมกับยิ้ม
“งั้นก็ขอบคุณ” หานเซิ่นเปิดขวด และดื่มน้ำไปกว่าครึ่งขวด เขาเสียเหงื่อจากการฝึกซ้อมไปมากและต้องการน้ำ แต่ดูเหมือนวันนี้เขาจะไม่ต้องเสียเงินซื้อ เพราะว่าจิงจี้หยาเอามาให้แล้ว
จิงจี้หยามองหานเซิ่นอย่างสนอกสนใจ “คุณไม่กลัวจริงๆหรอ ผมอาจจะผสมยาพิษก็ได้นะ?”
“ฉันไม่คิดว่าน้องชายของจิงจี้อู่จะใช้วิธีแบบนั้นหรอก” หานเซิ่นพูด จริงๆหานเซิ่นไม่กลัวด้วยซ้ำถึงมันจะมียาพิษ และที่สำคัญมันไม่มีเหตุผลอะไรที่จิงจี้หยาจะต้องทำแบบนั้นในที่สาธารณะ เนื่องจากมีกล้องวงจรปิดอยู่จำนวนมาก
คำพูดของหานเซิ่นทำให้จิงจี้หยานิ่งไป เขาไม่ได้ตระหนักว่าหานเซิ่นจะเคารพในตัวพี่ชายของเขาขนาดนั้น
แต่อย่างไรก็ตามจิงจี้หยาเป็นคนที่ต้องทำเป้าหมายของตัวเองให้สำเร็จ
เขายิ้มและพูดกับหานเซิ่นอย่างนุ่มนวล “ผมไม่ใช่พี่ แค่เพราะว่าคนอย่างพี่ไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ทำ ถ้าคุณยังไม่ยอมรับการท้าดวลของผม ผมก็อาจจะต้องทำเรื่องสกปรก”
“เช่นอะไร?” หานเซิ่นพูดและดื่มน้ำต่อไป
“ผมรู้ว่าแม่ของคุณชื่อว่าหลัวซูหลาน และเมืองที่เธออยู่ในก็อตแซงชัวรี่ 2 และน้องของคุณชื่อว่าหานเหยียน เธอเป็นเด็กที่น่ารักและเรียน..” จิงจี้หยาพูดด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งอันตรายที่ผู้หญิงเห็นแล้วจะต้องหัวใจเต้นรัว
คอมเม้นต์