อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 343 บริสุทธิดั้งเดิม
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
ฟางกั๋วเทาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะป้องกันตัว เขากลายเป็นคนที่โด่งดัง เพราะเขาคิดค้นวิชาไฮเปอร์จีโนที่ชื่อว่า บริสุทธิดั้งเดิม
ปัจจุบันในบรรดาผู้ยังไม่วิวัฒนาการ บริสุทธิดั้งเดิมเป็นที่นิยมกันมาก พวกเด็กวัยรุ่น 40-50% อ่านหนังสือของฟางกั๋วเทาเกี่ยวกับ บริสุทธิดั้งเดิม
เหตุผลที่วิชาไฮเปอร์จีโนนี้ได้รับความนิยมก็เพราะแนวคิด ‘ผู้บริสุทธิ์ปราศจากความกลัว’ หัวใจสำคัญของมันก็คือมนุษย์มีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด แต่เนื่องจากปัจจัยลบทางด้านอารมณ์ เช่นความกลัว ทำให้มนุษย์นั้นด้อยลง มันยากที่จะทำให้พวกเขาได้ศักยภาพที่แท้จริง
เพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ หัวใจหลักคือการรักษาสภาพจิตใจให้บริสุทธิ์และละทิ้งความกลัวไป ด้วยวิธีนี้จะทำให้มนุษย์สามารถมีอิสระและเพิ่มความสามารถของตัวเองได้
เพราะความมีชื่อเสียงของ บริสุทธิดั้งเดิม โรงเรียนเหยี่ยวดำจึงได้เชิญฟางกั๋วเทามาบรรยายที่โรงเรียนด้วย
นักเรียนจำนวนมากมาที่หอประชุมใหญ่ของโรงเรียน เพื่อฟังฟางกั๋วเทาพูด หลังจากฟังพวกเขาก็มีไฟขึ้นมา ราวกับว่าพวกเขาไร้ซึ่งความกลัวใดๆในชั่วอึดใจ
แต่หานเซิ่นนั้นไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการบรรยายของฟางกั๋วเทา และเขาก็ไม่ได้สนใจวิชา บริสุทธิดั้งเดิม เลยสักนิด
บริสุทธิดั้งเดิม มีชื่อเสียงมาก แม้แต่ซื่อจื้อคังก็เอาหนังสือของ ฟางกั๋วเทามาศึกษาด้วย หานเซิ่นลองอ่านดูผ่านๆ และพบว่าเนื้อหาส่วนมากไร้ประโยชน์
มีน้อยคนมากที่จะไปถึงสภาวะไร้ซึ่งความกลัวจริงๆ ถ้าพวกเขาไม่ได้โดนล้างสมอง แม้จะไปถึงจุดนั้นได้จริงๆมันก็มีอันตรายมากกว่าผลดี
ความกลัวคือความรู้สึกที่จำเป็นสำหรับของการดำรงชีวิต มันก็คล้ายๆกับความรู้สึกเจ็บ ซึ่งเป็นตัวบอกคุณว่าควรจะทำอะไรหรือหลีกเลี่ยงอะไรที่อาจจะเป็นอันตราย
แม้ความรู้สึกเหล่านั้นจะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่มีพวกมันเลยจะเป็นผลเสียมากกว่า ถ้ามนุษย์สูญเสียความรู้สึกเจ็บไป ในตอนที่นอนหลับ ถ้าพวกเขาถูกไฟเผาหรือถูกทำร้าย พวกเขาจะไม่รู้ตัวเลย
มันก็คล้ายๆกับความกลัว พวกคนที่ไม่มีความกลัวก็อาจจะทำอะไรที่มันเกินตัว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
ดังนั้นหานเซิ่นเลยไม่สนใจการบรรยายของฟางกั๋วเทาหรือวิชา บริสุทธิดั้งเดิม
แต่อย่างไรก็ตามฟางกั๋วเทาเป็นคนที่มีสีสันคนหนึ่ง เขาไม่พอใจถ้าแค่พูดอย่างเดียว เขาต้องการสาธิตให้ผู้ฟังได้เห็นผลของ บริสุทธิดั้งเดิม ในสนามฝึกซ้อมที่หานเซิ่นกำลังฝึกอยู่
“ศักยภาพของมนุษย์นั้นไร้ขีดจำกัด ซึ่งบริสุทธิดั้งเดิม จะช่วยให้พวกเธอไปถึงศักยภาพสูงสุดได้ ฉันจะสาธิตให้ดูด้วยการใช้ห้องฝึกแรงโน้มถ่วง”
ฟางกั๋วเทาชี้ไปที่นักเรียนคนหนึ่งและพูด “นักเรียนคนนั้นช่วยามทำการสาธิตให้เพื่อนๆดูหน่อยจะได้ไหม”
“ผมหรอ?” นักเรียนคนนั้นชี้ตัวเองด้วยความประหลาดใจ
“ใช่แล้ว” ฟางกั๋วเทาตอบ
นักเรียนลังเลอยู่สักพักและเดินไปหาฟางกั๋วเทา ฟางกั๋วเทาพูด “ชื่อของเธอคือ?”
“ผมชื่อหวังหง” นักเรียนตอบ
“หวังหง เธอบอกฉันได้ไหมว่าขีดจำกัดในการใช้ห้องฝึกแรงโน้มถ่วงของเธอคือระดับไหน” ฟางกั๋วเทาถาม
“ปรกติผมยากที่จะผ่านการทดสอบระดับ 12.0” หวังหงตอบ
“เยี่ยม ถ้าฉันบอกเธอว่าตอนนี้เธอสามารถผ่านระดับ 13.0 ได้ เธอจะเชื่อฉันไหม?”
“นั่นจะเป็นไปได้หรอครับ?” หวังหงรู้ขีดจำกัดของตัวเองดี แค่ผ่านระดับ 12.0 ก็ยากแล้ว เขาไม่ผ่านระดับ 13.0 แน่นอน
“เธอไม่เชื่อฉันใช่ไหม? ฉันจะสอนบริสุทธิดั้งเดิมให้เธอ และเธอจะสามารถผ่านระดับ 13.0 ได้ทันที” ฟางกั๋วเทาพูดและเปิดวิธีการฝึกบริสุทธิดั้งเดิมให้หวังหงดู
หวังหงเคลื่อนไหวตามที่ฟางกั๋วเทาพูด และหวังหงก็สามารถผ่านการทดสอบได้ ซึ่งทำให้นักเรียนที่ดูอยู่อึ้ง และส่งเสียงชื่นชมกันยกใหญ่
แม้จะขึ้นแค่ 1.0 แต่มันก็ถือว่าค่อนข้างมากสำหรับนักเรียนโรงเรียนทหาร การเพิ่มแค่ 1.0 ก็ถือว่าสร้างความแตกต่างได้มากแล้วในหมู่ผู้ยังไม่วิวัฒนาการ
หลังจากนั้นฟางกั๋วเทาก็เลือกอีกนักเรียนหลายคนมาทำการทดลองแบบเดียวกัน ซึ่งพวกเขาก็พัฒนาความแข็งแกร่งได้เหมือนกับหวังหง ทำให้พวกนักเรียนเริ่มเชื่อฟางกั๋วเทามากขึ้น
หลังจากที่ออกมาจากห้องฝึกแรงโน้มถ่วง หานเซิ่นก็งงที่เห็นนักเรียนจำนวนมากมาอยู่ที่โรงฝึกซ้อมแห่งนี้ หลังจากมองไปรอบๆ เขาก็ตระหนักว่าฟางกั๋วเทามาทำการสาธิตที่นี่ ดังนั้นหานเซิ่นเลยดูการสาธิตของเขา
หลังจากดูไปได้สักพัก หานเซิ่นก็หมดความอดทน จริงๆแล้ววิธีการของฟางกั๋วเทาก็ไม่ได้พิเศษอะไร แม้บริสุทธิดั้งเดิมจะมีผลอยู่บ้าง แต่มันขึ้นอยู่กับผู้ใช้เป็นหลัก
นักเรียนทั้งหมดที่ฟางกั๋วเทาเลือกมานั้นมักจะเป็นคนที่ขี้อายและขาดความมั่นใจ พูดง่ายๆก็คือคนพวกนี้มักจะเพิ่มขีดจำกัดของตัวเองได้ง่ายมาก เมื่อพวกเขาได้รับความมั่นใจเพิ่มขึ้น ยิ่งกว่านั้นในวิชา บริสุทธิดั้งเดิม ก็มีเคล็ดลับคล้ายๆกับโอเวอร์โหลด ดังนั้นมันไม่ได้ยากที่จะทำให้คนพวกนั้นพัฒนาขึ้นหลังจากฝึกได้แค่แปปเดียว
การสาธิตแบบนี้หานเซิ่นเองก็ทำได้เหมือนกัน ดังนั้นมันทำให้เขารู้สึกเบื่อมาก
ถ้าไม่มีคำพูดชวนเชื่อและคำพูดกระตุ้น บริสุทธิดั้งเดิมก็ไม่สามารถเทียบกับโอเวอร์โหลดได้เลย
การให้คำแนะนำตามหลักจิตวิทยา ทำให้คนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่หานเซิ่นไม่ได้สนใจแนวคิดนั้น แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องยอมรับว่า บริสุทธิดั้งเดิม นั้นมีประโยชน์กับคนประเภทที่ขาดความมั่นใจ
หานเซิ่นตัดสินใจกับไปฝึกที่ห้องฝึกแรงโน้มถ่วงต่อ
ในสายตาของฟางกั๋วเทา อยู่ๆหานเซิ่นก็ลุกขึ้นมา และกำลังจะเดินออกไป ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆต่างก็นั่งฟังเขากันหมด
“นักเรียนคนนั้น เธอจะไปเข้าไปลองบริสุทธิดั้งเดิมในห้องฝึกแรงโน้มถ่วงใช่ไหม? โปรดรอสักครู่ มันมีเคล็ดลับที่เธอต้องทำความเข้าใจก่อน เชิญมาตรงนี้ ฉันจะสอนเคล็ดลับให้เธอเอง”
ฟางกั๋วเทาคิดว่าหานเซิ่นได้รับแรงกระตุ้นจากคำพูดของเขา จนอยากจะไปลองเอง เขาเลยต้องการแนะนำหานเซิ่นก่อนที่จะใช้ห้องฝึกแรงโน้มถ่วง
คอมเม้นต์