อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 351 ผู้วิวัฒนาการไม่จำเป็นต้องเก่งทุกคน
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
คนที่วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเต็มทั้ง 4 ชนิดแล้ว การอยู่ในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ต่อไปมันก็ไม่มีความหมายอะไร และเขายังถูกลงโทษโดยกฎของก็อตแซงชัวรี่ คนส่วนมากจึงเลือกไปก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ทันที
แม้จะมีบางคนที่เลือกอยู่ก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ต่ออีกสักพัก ไม่ไปเข้าร่วมการแข่งชิงตำแหน่งผู้ถูกเลือก พวกเขาก็จะไปล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ ซึ่งมันจะง่ายสำหรับพวกเขาที่วิวัฒนาการแล้ว
ขณะที่มอนสเตอร์ขั้นสุดยอด แม้แต่ผู้วิวัฒนาการเองก็ยังเองฆ่ามันได้
เนื่องจากเขาไม่เคยได้รับจีโนพ้อยขั้นสุดยอด ผู้วิวัฒนาการหน้าใหม่ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับผู้ยังไม่วิวัฒนาการมากนัก นอกจากที่เขามีร่างกายที่ดีกว่า
ในตอนนี้ถ้าหานเซิ่นใช้ทุกอย่างที่เขามี ระดับความแข็งแกร่งของเขาจะเหนือกว่าผู้ที่พึ่งวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเต็มทั้ง 4 ชนิด แต่กระนั้นหานเซิ่นก็ยังไม่กล้าจะสู้กับมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดซึ่งๆหน้า
เนื่องจากคุณอวี้บอกว่าเขาวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเต็มทั้ง 4 ชนิด หานเซิ่นเลยไม่เข้าใจว่าเขาจะอยู่ที่ก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ต่อทำไม
หานเซิ่นไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงรู้สึกว่าชายสวมชุดเกราะทองดูแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น หานเซิ่นก็ยังไม่ได้คิดว่าคุณอวี้น่าสนใจ เนื่องจากชายคนนี้ขาดเทคนิคและวิชาการต่อสู้ ต่อให้เขามีระดับความแข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ มันเหมือนกับเด็กเล็กๆที่ถือค้อนอันใหญ่ๆเท่านั้น มันไม่ได้น่ากลัวอะไรสำหรับเขา
พวกคนอื่นๆที่มาจากสตีลอาเมอร์หน้าซีด การที่ต้องเดินทางร่วมกับกลุ่มคนพวกนี้ เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดมาก ถึงขั้นมีบางคนต้องการกลับก่อน
“เซิ่น ฉันควรทำยังไงดี?” ซูเสี่ยวเฉียวกระซิบกับหานเซิ่น
ซูเสี่ยวเฉียวรู้สึกกลัวเช่นกัน พวกเขามีคนมากกว่า และคุณอวี้ยังเป็นผู้วิวัฒนาการแล้วอีก ตอนนี้เนื่องจากพวกเขามีเรื่องขัดแย้งกันแล้ว พวกเขาน่าจะเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก หลังจากเข้าไปในทะเลทรายปีศาจ
“เนื่องจากนายรับเงินมาแล้ว พวกเราก็ต้องเดินทางต่อไป” หานเซิ่นพูด
ซูเสี่ยวเฉียวก็รู้ว่ามันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่อยู่ๆเขาจะล้มเลิกการเดินทางกลางคัน โชคยังดีที่มีหานเซิ่นมาด้วย ทำให้เขาพออุ่นใจได้
ซูเสี่ยวเฉียวนำทางทุกคนเข้าไปในทะเลทรายปีศาจ หลังจากเดินทางมากว่า 6 วัน พวกเขาก็เห็นเนินทรายแห่งหนึ่ง
ตอนนี้ทุกคนในกลุ่มของคุณอวี้ดูจะกร่างมากเป็นพิเศษ ถึงคนจากเมืองสตีลอาเมอร์จะรู้สึกไม่พอใจ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะอยู่เงียบๆ เนื่องจากคุณอวี้เป็นผู้วิวัฒนาการแล้ว
“ตรงนั้น” ซูเสี่ยวเฉียวพูด และชี้นิ้วไปที่เนินทรายที่อยู่ไกลๆ
ทุกคนมองไปทิศทางนั้น และเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ตั้งตะงานอยู่บนยอดเนินทราย
“มีต้นไม้ขนาดใหญ่อย่างนี้อยู่ในทะเลทรายจริงๆซะด้วย” ตาของคุณอวี้เป็นประกาย ที่เขายังไม่ไปก็อตเเซงชัวรี่เขต 2 เพราะเขาต้องการใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งในการล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ และนำวิญญาณอสูรไปขายเป็นเงิน ยิ่งถ้าเขาฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่หายากได้มันยิ่งดี
แต่กระนั้นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิมันก็หายากมาก และเขาก็ไม่ได้มีเวลาเหลือมากนัก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเข้าร่วมการเดินทางกับซูเสี่ยวเฉียวในครั้งนี้ด้วย
หานเซิ่นประหลาดใจเมื่อเห็นต้นไม้ โดยทั่วไปแล้วต้นไม้ขนาดใหญ่แบบนี้ยากจะอยู่รอดในทะเลทรายได้ พืชในทะเลทรายส่วนมากจะเป็นต้นกระบองเพชร
กลุ่มคนเข้าไปใกล้ต้นไม้ต้นนั้นเรื่อยๆ ต้นไม้นี้มีความสูงอย่างน้อยๆ 100 ฟุต และลำต้นหนาขนาด 87 คนโอบ พวกเขาพบสิ่งที่ซูเสี่ยวเฉียวพูดเอาไว้แล้ว ต้นไม้ต้นนี้กลายเป็นถ่านทั้งต้นจริงๆ
ต้นไม้ไม่ได้ถูกเผาด้วยไฟธรรมดาๆ เนื่องจากกิ่งและใบของมันไม่ได้รับความเสียหายเลย เหมือนกับว่าทั้งต้นกลายเป็นถ่านไปในทันที
“ต้นไม้นี่ถูกมอนสเตอร์เผางั้นหรอ?” หานเซิ่นถามซูเสี่ยวเฉียว
“ฉันก็ไม่แน่ใจ ฉันเห็นมอนสเตอร์บินลงมาที่ต้นไม้ต้นนี้จากระยะไกล และหลังจากนั้นไม่นานมันก็บินไป เมื่อฉันมาถึงที่นี่ ต้นไม้ก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว” ซูเสี่ยวเฉียวพูด
“แล้วมอนสเตอร์มันอยู่ไหน?” คุณอวี้ถามซูเสี่ยวเฉียว เขาไม่ได้พาคนจำนวนมากมาเพื่อดูต้นไม้เฉยๆ
“ฉันรู้แค่ว่ามันบินเข้ามาในทะเลทรายปีศาจเท่านั้น แต่ที่ไหนฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” ซูเสี่ยวเฉียวพูด
“นำทางไป” คุณอวี้สั่ง
“สัญญาของพวกเราเขียนไว้ชัดเจนแล้ว ฉันจะรับผิดชอบแค่พาทุกคนมาดูต้นไม้นี่เท่านั้น คุณต้องไปหามอนสเตอร์ด้วยตัวเอง” ซูเสี่ยวเฉียวขมวดคิ้วและพูด
“หุบพูดซะ! รีบๆนำทางไป” ผู้ติดตามของคุณอวี้พูด
ซูเสี่ยวเฉียวหันไปมองหานเซิ่น หานเซิ่นพูดกับคุณอวี้ “คุณอวี้ เนื่องจากคุณเซ็นสัญญากับเพื่อนของฉันแล้ว และเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว โปรดไปหามอนสเตอร์กันเอาเอง”
“นายกำลังพูดกับฉันอย่างงั้นหรอ?” คุณอวี้มองหานเซิ่นด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันไม่คิดว่าที่นี่จะมีคุณอวี้มากกว่า 1 คนหรอกนะ” หานเซิ่นพูด
“เนื่องจากแกรู้ว่าที่นี่ไม่มีคุณอวี้คนอื่นอยู่ นายก็น่าจะรู้ว่าที่นี่ใครคือบอส” คุณอวี้พูดขู่
“ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องนั้นเลย” หานเซิ่นพูด ขณะกระพริบตา
“ถ้าแกไม่รู้ว่าใครเป็นบอส อย่างน้อยแกก็น่าจะรู้ว่าใครแข็งแกร่งที่สุด” ผู้ติดตามของคุณอวี้ตะโกนขึ้นมา
“เรื่องนั้นฉันรู้” หานเซิ่นพยักหน้า
“งั้นก็ดี คนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะเป็นคนตัดสินใจ สิ่งที่แกต้องทำก็คือหุบปาก และรีบๆนำทางไปซะ” พวกผู้ติดตามของคุณอวี้มองหานเซิ่นและซูเสี่ยวเฉียวด้วยสายตาขู่อาฆาต
หานเซิ่นยังไม่เคลื่อนไหว เขายิ้มและพูด “ฉันคิดว่าพวกนายกำลังเข้าใจผิดอยู่”
“เข้าใจผิดอะไร”
“ฉันรู้ว่าใครคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่คนคนนั้นไม่ใช่คุณอวี้” หานเซิ่นพูดแบบชิวๆ
“ไม่ใช่คุณอวี้งั้นหรอ? อย่าบอกนะว่าแกคิดว่าเป็นตัวแกเอง?” พวกผู้ติดตามของคุณอวี้หัวเราะ
“ใช่ ฉันตั้งใจจะหมายถึงตัวฉันเอง” หานเซิ่นพยักหน้าอย่างจริงจัง
“แกต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ แกคิดว่าแกจะสามารถเทียบกับผู้วิวัฒนาการแล้วได้งั้นหรอ?” พวกเขามองหานเซิ่นราวกับมองคนบ้าคนหนึ่ง
“ผู้วิวัฒนาการก็ไม่จำเป็นต้องเก่งไปหมดทุกคน”
หานเซิ่นพูด แล้วเขาก็หันมาหาซูเสี่ยวเฉียวและพูด “เนื่องจากทำตามสัญญาครบถ้วนแล้ว พวกเราก็ไปกันได้แล้ว”
“เดี๋ยวฉันจะแสดงให้แกดูว่าฉันเป็นผู้วิวัฒนาการที่เก่งหรือไม่เก่ง” คุณอวี้ควบสัตว์อสูรเข้าหาหานเซิ่น
คอมเม้นต์