อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 403 ฉันขอเลือกฆ่า
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
วิชาดาบที่หนิงเยวี่ยใช้เรียกว่า เชวียอี้ เป็นการใช้ดาบที่ผู้ใช้ต้องยอมเสียสละการโจมตีของตัวเอง เพื่อสนับสนุนการโจมตีของคนอื่นๆ ผู้วิวัฒนาการทั้ง 13 คนมาจากคนละเมือง และไม่เคยมีเวลาได้ฝึกซ้อมร่วมกันมาก่อน แต่เมื่อหนิงเยวี่ยมาร่วมต่อสู้ด้วย พวกเขาก็สามารถโจมตีผสานกันได้เป็นหนึ่งเดียว แม้แต่หานเซิ่นก็ไม่สามารถหาจุดอ่อนของพวกเขาได้
หนิงเยวี่ยดูสงบเยือกเย็นมาก ทุกการเคลื่อนไหวของเขาดูไร้ประโยชน์ แต่มันก็เป็นไปตามรูปแบบของวิชาเชวียอี้ แม้วิชาดาบของเขาจะไม่ได้รุนแรง แต่เขาก็สามารถจัดการให้การเคลื่อนไหวของผู้วิวัฒนาการทั้ง 13 คนกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวเขาได้ พวกเขาไล่ต้อนหานเซิ่นเข้าไปบริเวณที่มีเถาวัลย์อยู่
หนิงเยวี่ยไม่ได้ต้องการฆ่าหานเซิ่นตั้งแต่แรกแล้ว เขาเพียงแค่ต้องการเห็นการต่อสู้ระหว่างมอนสเตอร์กับหานเซิ่นด้วยตาตัวเอง ไม่ว่าหานเซิ่นจะฆ่ามอนสเตอร์ตัวนั้นได้หรือไม่ก็ตาม ข้อสงสัยของเขาก็น่าจะได้รับคำตอบ
“คุณหนิง พวกเราต้องสู้กันต่อไปแบบนี้จริงๆหรอ?” หานเซิ่นถามขณะที่เขากำลังถอยไปเรื่อยๆ เขาเข้าใจความต้องการของหนิงเยวี่ย
“ถ้ามีแค่ฉันตัวคนเดียว ฉันจะยินดีเป็นเพื่อนกับนาย และไม่มีทางทำร้ายนาย แต่ทว่า…” หนิงเยวี่ยพูด แต่เขาไม่ได้หยุดการโจมตี เขากำลังไล่ต้อนหานเซิ่นให้ไปสัมผัสโดนเถาวัลย์
“น่าเสียดายจริงๆ ผมไม่อยากจะฆ่า แต่…” หานเซิ่นถอนหายใจและพูด
ก่อนที่เขาจะได้เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเขาและหนิง เขาก็ไม่อยากจะฆ่าหนิงเยวี่ย แต่ทว่าตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว เขาก็เหมือนกับหนิงเยวี่ย เขาจะไม่ปราณีถ้าตัดสินใจจะฆ่าแล้ว
“ฆ่างั้นหรอ? นายน่ะหรอ? นายคิดว่านายแน่มากใช่ไหม? นายก็เหมือนกับอสูรในกรง จะเป็นหรือตายตอนนี้มันขึ้นอยู่กับพวกเรา” หลินหลินพูด
“จริงหรอ?” หานเซิ่นพูด เมื่อเห็นว่ามีอาวุธจำนวนมากกำลังเข้ามาหาหานเซิ่นกลับไม่ถอยหลังอีกต่อไป แต่เขาชี้นิ้วไปที่หลินหลินแทน
“ถอยก่อน” หนิงเยวี่ยรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที แม้ดูแล้วหานเซิ่นไม่น่าจะป้องกันการโจมตีนี้ได้ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร หนิงเยวี่ยรู้สึกได้ถึงอันตราย
ขณะที่อาวุธเกือบจะถึงตัวหานเซิ่น มันก็สายเกินไปที่หานเซิ่นจะหลบ ถึงหนิงเยวี่ยจะสั่งให้ถอย แต่คนของเขาก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีได้แล้ว
ตูม!
มอนสเตอร์ขนาดใหญ่ในชุดเกราะหยกที่ดูเหมือนผึ้งผสมแมงป่องปรากฏตัวขึ้นมาอยู่ข้างๆหานเซิ่น และปัดอาวุธทั้งหมดให้กระเด็นไป
พวกเขาใช้อาวุธเลือดศักดิ์สิทธิระดับท็อปของก็อตแซงชัวรี่เขต 1 กันทั้งหมด แต่ก็ไม่มีอาวุธอันไหนที่สามารถทำอะไรมอนสเตอร์ตัวนี้ได้เลย ขณะที่พวกผู้วิวัฒนาการกลับไปฝ่ายที่ถูกชนกระเด็นไป
แคร็ก!
ก้ามที่เหมือนกับแมงป่องของร็อคเวิร์มพุ่งมาที่คอของหลินหลิน ทำให้หัวของเขาลอยขึ้นไปในอากาศ ตาของหลินหลินเบิกกว้างถึงจะตายแล้วก็ตาม
ร็อคเวิร์มขั้นสุดยอดดุร้ายและน่ากลัวมาก มันไล่ฆ่าผู้วิวัฒนาการไปทีละคน ด้วยปีกที่เหมือนกับผึ้งของมันร็อคเวิร์มเหมือนกับกำลังเต้นระบำ พร้อมกับกวัดแกว่งก้ามทั้ง 4 ของมัน
มันคือเครื่องจักรสังหารขนานแท้ บวกกับที่มันสวมชุดเกราะขั้นสุดยอด ร็อมเวิร์ดขั้นสุดยอดตัวนี้ไม่เหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 เลย แม้แต่อาวุธเลือดศักดิ์สิทธิก็ยังสร้างรอยขีดข่วนให้มันไม่ได้ ไม่ว่าร็อคเวิร์มจะผ่านไปที่ไหนก็ต้องมีแขนขาไม่ก็หัวหลุดออกมา มีเลือดสาดกระจายไปทั่ว ต่อหน้าสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งขนาดนี้วิชาดาบของหนิงเยวี่ยก็ไร้ค่าอย่างสมบูรณ์
ในตอนนี้ถ้าเทียบกันแล้วร็อคเวิร์มที่ชุดเกราะขั้นสุดยอดน่าจะแข็งแกร่งกว่าเต่าซะด้วยซ้ำ ทั้งความเร็ว และความแข็งแกร่งของมันพอๆกับเต่า แต่มันมีพลังป้องกันที่มากกว่า เพราะมีชุดเกราะขั้นสุดยอด
ด้วยความสามารถในการบิน และก้ามที่คมกริบ เป็นเรื่องง่ายมากที่มันจะไล่ฆ่าผู้วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิทั้งหมด
ไม่มีทางให้พวกเขาถอยอีกแล้ว ทางที่จะออกจากหุบเขาไปภายนอกนั่นแคบมาก ยิ่งกว่านั้นความเร็วของพวกเขายังคนละระดับกับร็อคเวิร์ม ร็อคเวิร์มปรากฏตัวได้ไม่นาน พวกเขาก็ตายไปกว่าครึ่งแล้ว ในระหว่างที่พวกเขาถอยไปจนถึงทางออกแคบๆ พวกเขาก็ถูกฆ่าไปอีกครั้งหนึ่ง และมีเพียงแค่ 3 คนที่สามารถเดินไปตามทางเดินแคบๆได้
แม้แต่คนที่สงบเยือกเย็นอย่างหนิงเยวี่ยยังช็อค เมื่อเห็นผู้วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิโดนฆ่าแบบนี้ เป็นเรื่องที่ทำให้เขาช็อคยิ่งกว่าการปรากฏตัวเขาร็อคเวิร์มขั้นสุดยอดซะอีก
“หรือว่ามันจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีระดับเหนือกว่าเลือดศักดิ์สิทธิ?” หนิงเยวี่ยมองร็อคเวิร์มที่มีขนาดตัวใหญ่เกินกว่าจะออกจากหุบเขามาได้ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
หานเซิ่นเรียกร็อคเวิร์มกลับมา และเดินไปตามทางออกด้วยตัวเขาเอง พร้อมกับถือมีดเคิร์สวูฟในมือ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้หนิงเยวี่ยรอดไปทั้งๆแบบนี้
ด้วยการที่เขาใช้มนตรานอกรีตและโอเวอร์โหลด ทำให้เขาคเร็วกว่าผู้วิวัฒนาการทั้ง 3 ไม่นานหานเซิ่นก็ตามพวกเขาได้ทัน
ผู้วิวัฒนาการ 2 คนที่อยู่ข้างหลังหนิงเยวี่ยพยายามจะป้องกันตัวเอง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหลบการโจมตีจากหานเซิ่นได้ อาวุธของพวกเขาถูกมีดของหานเซิ่นฟันขาดเป็น 2 ท่อน
เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของลูกน้องดังมาจากข้างหลัง หนิงเยวี่ยก็รู้ว่าเขาคือคนสุดท้ายที่ยังรอดอยู่ และหานเซิ่นกำลังตามเขามาติดๆ
หนิงเยวี่ยออกมาข้างนอกได้สำเร็จ แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีทางที่เขาจะรอดไปได้ แผนการของเขาต้องพังทลาย เพราะเขาไม่คาดคิดว่าหานเซิ่นจะมีสัตว์เลี้ยงที่ร้ายกาจแบบนั้น หนิงเยวี่ยถอนหายใจยอมแพ้ เขายืนรออยู่นอกหุบเขา เพื่อรอให้ความตายมาถึงตัวเขา
“หนิงเยวี่ย หุบเขานี้มันพิเศษยังไง?” หานเซิ่นถาม พร้อมกับเอามีดจ่อที่คอของหนิงเยวี่ย
“รีบๆฆ่า” หนิงเยวี่ยหลับตา เขารอให้หานเซิ่นฆ่าเขา
“ฉันไม่ให้นายตายง่ายๆแบบนั้นหรอก” หานเซิ่นพูดอย่างสงบ หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรอะไรบางอย่างออกมา ทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้าไปหาหนิงเยวี่ย
ท่าทีของหนิงเยวี่ยเปลี่ยนไปทันที หลังจากที่เขาได้ยินหานเซิ่นพูด เขารีบลืมตามขึ้นมา และมองไปที่วิญญาณอสูรหน้าตาน่าเกลียด
ตูม!
วิญญาณอสูรเข้าไปในตัวหนิงเยวี่ย มอนสเตอร์ขนาดใหญ่เข้าไปในหน้าอกของหนิงเยวี่ยได้อย่างง่ายดาย
หนิงเยวี่ยรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเข้ามาในร่าง กล้ามเนื้อของเขาเริ่มขยับไปเอง แต่อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกแบบนั้นก็อยู่เพียงแค่แปปเดียว วิญญาณอสูรหน้าตาน่าเกลียดออกจากร่างของหนิงเยวี่ย และกลับไปอยู่ข้างๆหานเซิ่น ดวงตาที่น่ากลัวของมันจ้องมองมาที่หนิงเยวี่ย
คอมเม้นต์