อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 407 มอบหมายตำแหน่งงาน


แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios

หานเซิ่นเรียกโกลเด้นโกรวเลอร์ออกมาขี่ ขณะที่โกลเด้นโกรวเลอร์วิ่งไปด้วยความเร็วสูง หานเซิ่นก็รู้สึกว่าสภาพแวดล้อมรอบๆเขาเกือบเป็นภาพเบลอๆ เนื่องจากมันวิ่งได้เร็วมาก แต่ถึงมันจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง หานเซิ่นที่อยู่บนหลังกับไม่ได้รับแรงกระแทกหรือแรงสั่นเทือนเลย

 

ผ่านไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง หานเซิ่นก็กลับมาถึงสตีลอาเมอร์แล้ว ซึ่งปรกติแล้วจะต้องใช้เวลาเดินทางเป็นวันๆถ้าใช้สัตว์ขี่ตัวอื่น และนี่ก็ยังไม่ใช่ความเร็วสูงสุดของโกลเด้นโกรวเลอร์ด้วย

 

หานเซิ่นรู้สึกพอใจมาก ด้วยความเร็วของโกลเด้นโกรวเลอร์ และตำแหน่งที่อยู่ของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดที่เขาได้มาจากหนิงเยวี่ย เขาสามารถไล่เก็บจีโนพ้อยขั้นสุดยอดได้ในเวลาอันสั้น ดังนั้นในไม่ช้านี้เขาต้องเตรียมตัวสำหรับการวิวัฒนาการแล้ว

 

แม้หานเซิ่นจะอยากออกไปไล่ล่าพวกมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดทันที แต่เขาก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ก่อน เพราะเขาต้องกลับไปสอบปลายภาคให้เสร็จก่อน ซึ่งมันจะเป็นตัวตัดสินว่าเขาจะได้ยศอะไรหรือได้ตำแหน่งอะไรตอนเรียนจบ เนื่องจากมันมีผลกับอนาคต เขาจำเป็นต้องพักการเก็บจีโนพ้อยขั้นสุดยอดไว้ก่อน จนกว่าเขาจะได้เข้ากองทัพและเรียนจบ

 

หลังจากกลับมาที่เมืองแล้ว หานเซิ่นก็ติดต่อหลินเฟ้ยเฟิง ซึ่งเขาเคยสัญญากับหลินเป้ยเฟิงเอาไว้ว่าเขาจะขายชุดเกราะแฟนท่อมแอนท์เลือดศักดิ์สิทธิให้ ถ้าเกิดเขาไม่ใช้มันแล้ว ซึ่งตอนนี้เขาก็แทบไม่ได้ใช้มันเลย

 

หลินเป้ยเฟิงดีใจมากที่จะได้ชุดเกราะแฟนท่อมแอนท์เลือดศักดิ์สิทธิมาคอบครอง ยังไงเขาก็ยังต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปีกว่าจะเก็บจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิได้ครบ ดังนั้นเขาสามารถใช้เกราะนี้ได้อีกนาน และนอกเหนือจากการใช้งานแล้ว หลินเฟ้ยเฟิงก็ชอบที่มันดูงดงาม แม้จะเอามาตั้งโชว์เฉยๆเขาก็ยินดีจ่าย

 

หานเซิ่นไม่ได้รับเงินสดมาจากหลินเป้ยเฟิง แต่เขาขอให้หลินเป้ยเฟิงรวบรวมเนื้อเลือดศักดิ์สิทธิมาให้ หานเซิ่นจะได้เก็บจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิให้ครบสักที เพราะตอนนี้เขายังมีอยู่แค่ 85 จีโนพ้อย

 

ในตอนนี้หานเซิ่นไม่มีเวลาไปล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิอีกแล้ว ขนาดแผนการล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอด เขายังต้องพักไว้ก่อน

 

หลินเป้ยเฟิงบอกว่าหานเซิ่นอาจจะต้องรอนานหน่อย ซึ่งหานเซิ่นก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร เพราะเขาต้องใช้เวลาในตอนนี้เตรียมตัวสอบปลายภาค และเตรียมตัวสำหรับการเข้ากองทัพ ดังนั้นเขาต้องอยู่ที่สตีลอาเมอร์ไปอีกพักใหญ่ๆ

 

‘มอนสเตอร์ที่เหมือนนกฟินิกซ์ตัวนั้นอยู่ใกล้สตีลอาเมอร์มากที่สุด เราจะไปฆ่ามันเมื่อไหร่ก็ได้ถ้ามีเวลา ถ้าเราให้โฮลี่แองเจิลใส่ชุดเกราะขั้นสุดยอด หล่อนน่าจะทนไฟของมันได้ ถ้าเราโชคดีได้วิญญาณอสูรของมันมาก็จะยิ่งดี’ หานเซิ่นคิด

 

เมื่อหานเซิ่นกลับไปที่เหยี่ยวดำ รูมเมททุกคนก็อยู่ที่หอพักพอดี ปรกติยากมากที่พวกเขาจะมาอยู่พร้อมหน้ากันแบบนี้ เพราะส่วนมากทุกคนจะมีธุระของตัวเองในก็อตแซงชัวรี่ทั้งนั้น เมื่อพวกเขาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง พวกเขาเลยชวนกันไปร้านอาหาร

 

“เซิ่น นายมีแผนที่จะไปไหนต่อหลังเรียนจบ?” ซื่อจื้อคังถามหานเซิ่น ขณะเอาแขนข้างหนึ่งโอบไหล่ของหานเซิ่นเอาไว้

 

“ฉันจะให้ AI เป็นตัวตัดสิน” หานเซิ่นตอบ

 

ถึงหานเซิ่นจะต้องการไปทำงานบนยานลำเดียวกับจีเหยียนหรัน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจีเหยียนหรันอยู่บนยานลำไหน และเขาก็ไม่มีเส้นสายมากพอที่จะไปที่นั่นด้วย

 

ยังไงหานเซิ่นก็ไม่ได้คิดจะยึดอาชีพทหารไปตลอดชีวิต เขาแค่จะรับใช้กองทัพตามเกณฑ์ที่กำหนด ในเมื่อเขาไปหาจีเหยียนหรันไม่ได้ ไม่ว่าจะถูกส่งไปที่ไหนก็เหมือนๆกันในความคิดเขา แต่ยังไงก็ขออย่าให้ถูกส่งไปรบแนวหน้าเป็นพอ

 

แต่ถึงเขาจะถูกส่งไปแนวหน้า เขาก็เป็นระดับผู้บังคับบัญชา เนื่องจากเขาติดยศนายพัน และจบจากโรงเรียนทหารที่มีชื่อเสียง ซึ่งก็ไม่น่าจะเสี่ยงอันตรายอะไรมาก

 

ที่สำคัญการที่เขาเป็นหัวหน้าหน่วยพิเศษ AIก็จะใช้มันร่วมพิจารณาด้วย ทำให้เขาถูกส่งไปในหน่วยงานที่น่าจะได้ทำงานสบายๆ

 

แน่นอนว่าเขาสามารถใช้เส้นสายที่มีในการขอไปทำงานในหน่วยงานต่างๆได้ แต่สำหรับหานเซิ่นหน่วยงานไหนๆก็เหมือนกัน เขาแค่จะอยู่ให้ครบกำหนดเลยไม่จำต้องเสียเวลาใช้เส้นสาย

 

4 หนุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับความฝันของตัวเอง และความทะเยอทะยาน พวกเขาไม่ได้กลับไปที่หอพักจนกระทั่งเที่ยงคืน

 

หานเซิ่นแทบจะไม่มีเวลาได้สนุกกับชีวิตในรั้วโรงเรียนเลย ช่วงนี้เขาเลยใช้เวลากับเพื่อนๆ และตั้งใจเรียน โดยเน้นไปที่วิชาภาษาโบราณ

 

แม้การเรียนภาษาโบราณจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ในเมื่อเขาสนใจสิ่งที่เขียนอยู่ในคัมภีร์ศาสตร์ตงเสวียน ทำให้เขาต้องใช้เวลาและความพยายาม

 

หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกว่ามันคือภารกิจที่ยากหรือสูญเปล่า เขาสงสัยเกี่ยวกับศาสตร์ตงเสวียนจริงๆ วิชาที่ทำให้มนุษย์สามารถข้ามมิติได้ มันเหมือนกับเทพนิยายสำหรับเขา

 

แม้จะเป็นยุคสมัยนี้ที่วิชาต่างก็ได้รับการพัฒนาไปมาก แต่ก็ยังไม่มีกึ่งเทพคนไหนที่กล้าบอกว่าตัวเองสามารถข้ามมิติได้

 

‘ถ้าเราฝึกวิชาศาสตร์ตงเสวียนได้สำเร็จก็จะไม่มีใครในสหพันธ์ดวงดาวสู้เราได้ เราไม่จำเป็นจะต้องเก่งเท่ากับตงเสวียนก็ได้ แค่ได้สักครึ่งหนึ่งของเขาก็ดีเกินพอแล้ว ถึงตอนนั้นเราจะเป็นคนที่ไร้เทียมทาน แม้แต่กึ่งเทพก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรา’

ทุกครั้งที่หานเซิ่นมีความคิดเช่นนี้ เลือดในกายของเขาจะเดือดขึ้นมา ซึ่งมันเป็นแรงกระตุ้นทำให้เขาตั้งใจเรียนวิชาภาษาโบราณมากขึ้น

 

โชคดีที่ทุกวันนี้ยีนของมนุษย์พัฒนาไปมากแล้ว มนุษย์แข็งแกร่งและมีร่างกายที่ดีกว่าในอดีต แม้แต่สมองของมนุษย์ยุคนี้ก็ดีกว่าคนรุ่นก่อนๆ ผู้ยังไม่วิวัฒนาการที่มีจีโนพ้อยมากมักจะมีความจำที่ดี ซึ่งหานเซิ่นเป็นคนที่โดดเด่นกว่าใคร มันไม่ยากสำหรับเขาที่จะเรียนให้ได้ดีกว่าคนอื่นๆ

 

มันต้องใช้ความอดทนในการเรียนภาษาโบราณ แต่ถ้าเขาเชี่ยวชาญมันแล้ว เขาจะสามารถอ่านศาสตร์ตงเสวียนเข้าใจได้

 

ช่วงนี้หานเซิ่นเรียนและใช้ชีวิตสนุกกับเพื่อนๆโดยไม่ได้เข้าไปล่าในก็อตแซงชัวรี่เลยย เขาจะเข้าไปก็ตอนที่หลินเป้ยเฟิงติดต่อมาว่าได้เนื้อเลือดศักดิ์สิทธิมาแล้ว เขาจะเข้าไปกินและก็กลับมาที่เหยี่ยวดำทันที อีกไม่นานก็จะได้เวลาที่เขาเรียนจบแล้ว

 

แม้หานเซิ่นจะไม่ได้ใช้ความสามารถจริงๆทั้งหมด แต่เขาก็ยังได้อันดับ 1 ในการสอบ และก็ได้ยศพันตรีตอนเรียนจบ

 

แต่ละโรงเรียนจะมีโควต้าที่จะมอบยศพันตรีให้กับนักเรียนได้แค่ 2-3 คนเท่านั้น ซึ่งพวกเขาต้องเป็นนักเรียนที่ทำคะแนนได้ดี และมีผลงานมากพอ

 

อย่างไรก็ตามถ้าดูจากคะแนนสอบ และผลงานที่ผ่านๆมาของหานเซิ่น เขาก็คู่ควรกับยศพันตรีที่โรงเรียนมอบให้

 

อีก 48 ชั่วโมง AI จะตัดสินการมอบหมายงานให้กับเขา

 

“พี่หาน ฉันขอโทษ” ในตอนที่หานเซิ่นกำลังจะเช็คดูว่า AI จัดการให้เขาไปหน่วยงานไหน หวังเหมียนเหมียนก็เข้ามาหาเขา และก้มหัวขอโทษ หานเซิ่นรู้สึกว่าเธอไม่กล้าจะสบตาเขา เสียงของเธอเบาจนหานเซิ่นแทบจะไม่ได้ยิน

 

“มีอะไรหรอ?” หานเซิ่นยิ้ม และลูบหัวหวังเหมียนเหมียน ถึงหวังเหมียนจะอายุ 20 ปีแล้ว แต่หานเซิ่นก็ยังรู้สึกว่าเธอยังเป็นสาวน้อย

 

“พี่หาน ฉันขอโทษ ฉันขอให้ที่บ้านใช้เส้นสายให้พี่ไปอยู่กองกำลังวอเฟรม ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ฉันต้องไป โดยไม่ได้ปรึกษาพี่สักคำ พี่หานเซิ่น ฉันขอโทษจริงๆ..” หวังเหมียนเหมียนพูดด้วยเสียงที่เบา ใบหน้าของเธอแดง

 

“นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีนี่น่า กองกำลังวอเฟรมที่เธอไปก็คงต้องเป็นหน่วยงานที่ดีอยู่แล้ว ฉันควรจะขอบคุณเธอด้วยซ้ำ” หานเซิ่นพูด และรีบเช็คดูข้อมูลงานที่เขาได้รับมอบหมายจาก AI

แต่ทว่าข้อมูลที่ปรากฏ ทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ

 

คอมเม้นต์

Chapter List