อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 448 รางวัล
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
“หนิงจากกลุ่มสตาร์รี่น่ะหรอ?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
ลุงชิงพูดอย่างนอบน้อม “ใช่ครับ ผมเป็นคนที่อายุมากที่สุดในบรรดาลูกชายทั้ง 6 ของหัวหน้าตระกูลหนิง และก็เป็นคนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดด้วย หลานชายทั้ง 2 ของผมไม่รู้ว่าคุณเป็นลูกหลานของท่านผู้นั้น ทำให้ปฏิบัติไม่เหมาะสม จริงๆท่านพ่อของผมต้องการมาขอโทษคุณด้วยตัวเอง แต่กลัวว่าคุณไม่อยากให้รบกวน ดังนั้นเขาเลยไม่ได้ไปพบคุณ เขาสั่งไว้ว่าถ้าใครก็ตามในตระกูลหนิงที่โชคดีมาพบคุณ ให้ปฏิบัติกับคุณเหมือนกับผู้มีพระคุณ ไม่ว่าคุณจะต้องการอะไร พวกเราจะสนับสนุนอย่างเต็มที่”
ขณะที่ลุงชิงพูด คนอื่นๆในกลุ่มต่างก็ช็อค ทุกคนเคยได้ยินและรู้จักกลุ่มสตาร์รี่ดี มันคือหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในสหพันธ์ดวงดาว ไม่มีใครคาดคิดว่าลุงชิงจะเป็นหนึ่งในทายาทตระกูลหนิง แค่นั้นยังไม่พอตระกูลหนิงยังปฏิบัติกับหานเซิ่นแบบนี้ ทำให้ทุกคนเริ่มสงสัยเกี่ยวกับเบื้องหลังของหานเซิ่น
ตอนนี้หลายคนเริ่มกลัวจนหน้าซีด พวกเขากำลังคิดจะปล้นคนที่แม้แต่ตระกลูหนิงยังเคารพขนาดนี้ ถ้าหานเซิ่นต้องการแก้แค้นพวกเขา มันจะไม่เพียงแค่ในก็อตแซงชัวรี่เท่านั้น แต่เขาสามารถที่จะไปเล่นงานพวกเขาที่สหพันธ์ดวงดาวก็ยังได้ ตอนนี้ทุกคนเหงื่อชุ่มไปหมด พวกเขารู้สึกว่าขาตัวเองเริ่มอ่อนแรง
“พวกคุณไม่รู้เรื่องนั้นมาก่อน มันไม่ใช่ความผิดของพวกคุณ เรื่องนี้เอาไว้เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน” หานเซิ่นพูด
หานเซิ่นรู้ดีว่าเหตุผลที่ลุงชิงปฏิบัติกับเขาดีแบบนี้ ไม่ใช่เพราะตัวเขาเอง แต่เป็นเพราะความสมพันธ์ระหว่างบรรพบุรุษหนิงกับหานจิงจื่อ แม้หานเซิ่นจะบอกไม่ได้ว่าสิ่งที่ลุงชิงพูดมาจริงหรือเปล่า แต่มันก็ทำให้เขาไม่ชอบสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้
“ในอนาคต ไม่ว่านายน้อยหานต้องการอะไร โปรดบอกให้พวกเรารู้ หนิงจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง” ลุงชิงไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ แต่เขาแสดงให้เห็นถึงความภักดีของเขา
หานเซิ่นพยักหน้าและหันไปหาหยางม่านลี่ “หย่างม่านลี่ ฉันจะมอบเนื้อพวกนี้ให้เธอจัดการ จัดตั้งกลุ่มของพวกเราขึ้นมาให้เร็วที่สุด ไม่จำเป็นต้องรับทุกคน คนไหนที่เธอไม่ชอบก็ไม่ต้องรับ”
หานเซิ่นไม่สงสัยในความสามารถของหยางม่านลี่ เธอเคยบริหารกลุ่มใหญ่อย่างกลุ่มสตีลอาเมอร์มาก่อน ที่นี่ไม่ได้มีคนมากนัก ถึงทุกคนจะเข้าร่วมกลุ่มหมด หยางม่านลี่ก็ยังรับมือได้สบาย
“ตกลง” หยางม่านลี่เริ่มนับจำนวนคนทั้งหมดที่รวมตัวกันอยู่ที่นี่ ขณะที่นับเธอยังคงรู้สึกสับสน ตั้งแต่ที่เธอได้เห็นหนิงปฏิบัติกับหานเซิ่นแบบนั้น ทำให้เธอคิดว่าบางทีเขาอาจจะเป็นทายาทของหานจิงจื่อจริงๆก็ได้
แต่กระนั้นเมื่อคิดเกี่ยวกับมัน หยางม่านลี่ก็รู้สึกว่ามันน่าจะเป็นไปได้ยาก ทุกคนต่างก็รู้ว่าหานจิงจื่อไม่มีภรรยาและลูก
หานเซิ่นไม่สนใจว่าหยางม่านลี่กำลังคิดอะไร เขามอบทุกอย่างให้เธอและก็เทเลพอร์ตกลับไปที่แดฟเน่ เขาต้องการรู้วิธีใช้วิญญาณอสูรประเภทกริฟให้ไวที่สุดเท่าที่ทำได้
“หานเซิ่น นายกลับมาเมื่อไหร่เนี่ย?” ชิวเฉิงพูดกับหานเซิ่น ขณะกำลังเดินออกมาจากเขตที่พักอาศัย
“ฉันพึ่งจะกลับมา นายกำลังจะไปไหน?” หานเซิ่นถาม
“จะมีอะไรนอกจากไปร่วมการฝึกอีกล่ะ? นี่มันสิ้นเดือนแล้ว พวกเราทุกคนต้องไปเข้าร่วมการฝึกเป็นประจำ ใครก็ตามที่ได้อันดับที่ 1 จะได้รับรางวัลจากรองกัปตันเฉิน นายมาได้จังหวะเหมาะมาก งั้นเราไปพร้อมกับเลย” ชิวเฉิงลากหานเซิ่นไปพร้อมกับเขาด้วย
เดิมทีหานเซิ่นไม่ต้องการไป แต่เนื่องจากทุกคนในห้องครัวต่างก็ปฏิบัติกับเขาอย่างดี เขาเลยไม่ได้ปฏิเสธชิวเฉิง และตามเขาไปที่ลานฝึกของยานแดฟเน่
หานเซิ่นได้ยินชื่อของรองกัปตันเฉินมาจากจีเหยีนหรันแล้ว เขาเป็นผู้เป็นเลิศที่แข็งแกร่งมาก จริงๆแล้วกัปตันของยานแดฟเน่ต้องเป็นผู้เป็นเลิศระดับแนวหน้า และต้องมียศพลตรี แต่ด้วยเส้นของจีเหยีนหรัน ทำให้เธอสามารถเป็นกัปตันของเเดฟเน่ได้ ส่วนรองกัปตันถูกเลือกมาตามเกณฑ์
เฉินโซ่วซานคือผู้เป็นเลิศที่มีฝีมือสูง และเขาเป็นคนที่ใกล้ชิดกับตระกูลของจีเหยีนหรัน ถึงจีเหยียนหรันจะไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง หานเซิ่นก็พอจะรู้อยู่แล้ว เพราะถ้าเขาไม่ใช่คนของตระกูลจี ตระกูลก็คงจะไม่ยอมให้จีเหยียนหรันมาทำงานบนยานแดฟเน่แน่
นอกจากรองกัปตันแล้ว ยังมีผู้เป็นเลิศอีก 2 คนบนยานแดฟเน่ : ผู้บัญชาการ หลินไห่เฟิง และนายทหารฝ่ายพลาธิการ จ้าวผิง
คนพวกนี้ล้วนแต่ทำงานให้ยานเเดฟเน่และจีเหยียนหรัน ขณะที่พวกผู้เชี่ยวชาญเองก็น่าจะมีคนที่เป็นผู้เป็นเลิศด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาก็อยู่นอกเหนืออำนาจของจีเหยียหรัน
แม้แต่ในหมู่ทหารเอง ด้วยความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ทำให้ยากมากที่จีเหยียนหรันจะบริหารจัดการทุกคนบนยานลำนี้
หานเซิ่นและชิวเฉิงไปที่ลานฝึกซ้อม ซึ่งมีทหารยืนอยู่เต็มไปหมด เหมือนกับว่าทุกคนก็สนใจเข้าร่วมการฝึกเช่นเดียวกัน
เนื่องจากทุกคนในห้องครัวก็มารวมกันอยู่ในลานฝึกนี้ด้วย หานเซิ่นกับชิวเฉิงเลยไปนั่งข้างๆพวกเขา
หานเซิ่นมองไปรอบๆลานฝึก และเห็นอุปกรณ์หลายๆอย่างที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
‘นั่นมันเครื่องสปริ้นท์ที่ศาสตราจารย์เหยียนเป็นคนออกแบบไม่ใช่หรอ?’
หานเซิ่นเห็นกำแพงโลหะจำนวนมากถูกจัดวางไว้ในลานฝึกด้วย ทำให้เขาประหลาดใจที่เครื่องนี้ถูกนำออกมาให้ฝึกเร็วขนาดนี้
ทหารรีบกระโดด และวิ่งอย่างรวดเร็วบนกำแพงโลหะ แต่ก็ไม่มีใครผ่านครึ่งทางไปได้ พวกเขาจะถูกไฟฟ้าช็อค และล่วงลงมาก่อน
“มีใครต้องการจะลองอีกไหม? ถ้าใครผ่านการทดสอบระดับ 10 ฉันจะให้ใบอนุญาตระดับSของผู้วิวัฒนาการเป็นรางวัล” เฉินโซ่วซานพูด พร้อมกับยิ้ม
แม้รางวัลจะน่าดึงดูดมาก แต่ก็ไม่มีทหารคนไหนขยับ พวกเขาหันมามองหน้ากัน สปริ้นท์ที่ระดับ 10 จะมีแรงโน้มถ่วงระดับ 40.0 เพิ่มเข้าไปด้วย มันยากมาก แถมทหารหลายๆคนก็เริ่มอ่อนล้าแล้วด้วย ในหมู่พวกเขาก็มีผู้วิวัฒนาการเก่งๆมากมาย แต่ไม่มีใครเลยที่สามารถผ่านครึ่งทางไปได้ มันไม่ใช่แค่เพราะว่าแรงโน้มถ่วง แต่เป็นเพราะทหารที่ทำไม่สำเร็จมีพวกที่มีความแข็งแกร่ง 70 รวมอยู่ด้วย ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะลอง
หานเซิ่นรู้จักเครื่องสปริ้นท์ดีอยู่แล้ว มันไม่ใช่เครื่องที่จะใช้แค่ความแข็งแกร่งอย่างเดียวในการผ่าน มันต้องใช้ทั้งความแข็งแกร่ง ความยืดหยุ่น ปฏิกิริยาและความสามารถในการจินตนาการ เพื่อออกแบบการเคลื่อนที่ให้สอดคล้องกับตำแหน่งของกำแพง ถ้าก้าวพลาดก็ไม่มีทางที่จะผ่านมันไปได้ ไม่ว่าคนคนนั้นจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม
“หน่วยวอเฟรม ลูกเรือ ทหารรักษาการ ทีมแพทย์ต่างก็ส่งคนมาลองกันหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ห้องครัวที่ยังไม่ได้ส่งคนมาลอง ผมคิดว่าควรให้พวกเขาลองบ้าง” ใครบางคนพูดขึ้นมา
หานเซิ่นรู้สึกว่ามันเป็นเสียงที่คุ้นเคย เขามองไปทางที่เสียงนั้นดังมา และเขาก็พบว่าคนพูดกับคือ หวังโฮ่ว หัวหน้าหน่วยวอเฟรม คนที่เขาเคยเจอคราวก่อน
VIPถึงตอนที่ 1385 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/
คอมเม้นต์