หานเซิ่นกำลังจ้องมองคริสตัลสีแดงที่อยู่ในมือซ้ายของหวังโฮว่ ไม่ใช่เพราะมันเป็นคริสตัลที่มีความพิเศษในสายตาเขา แต่เพราะแมว 9 ชีวิตกำลังตอบสนองกับคริสตัลสีแดงอันนั้น

 

คริสตัลสีแดง ดูคล้ายๆกับวัสดุที่นำทำจี้แมว 9 ชีวิตไม่มีผิด

 

หวังโฮว่บุกเข้ามาหาหานเซิ่น หานเซิ่นเปลี่ยนร่างเป็นแฟรี่ควีน และใช้มนตรานอกรีตและโอเวอร์โหลดไปพร้อมๆกัน เพื่อเร่งพลังให้ถึงขีดสุด

 

“ที่ฉันไม่ฆ่าแกทิ้งก็เพราะฉันไม่อยากให้หลี่หมิงถังเห็นความสามารถจริงๆของฉัน แกคิดว่าจะสามารถเอาชนะฉันได้งั้นหรอ?” หวังโฮว่พูดเย้ยหยัน และใช้ดาบแทงไปที่หานเซิ่น

 

การเคลื่อนไหวของหวังโฮว่รวดเร็วมาก และดาบของเขาก็มาถึงคอของหานเซิ่นแทบจะทันที

 

หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัวราวกับเครื่องยนต์ เขาจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของหวังโฮว่ เขาเคลื่อนไหวไปข้างหน้าแทนการขยับถอยหลัง เขาต้องการเข้าปะชิดตัวของหวังโฮว่

 

ตอนนี้แม้หานเซิ่นจะใช้ทุกอย่างที่มีแล้ว แต่ระดับความแข็งแกร่งของเขาก็ยังน้อยกว่าหวังโฮว่ ซึ่งมีระดับความแข็งแกร่งเกินกว่า 100 ยิ่งกว่านั้นหวังโฮว่ยังใช้ดาบที่เป็นวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ขณะที่หานเซิ่นไม่มีอาวุธดีๆให้ใช้ ซึ่งมันทำให้ยากที่เขาจะเอาชนะหวังโฮว่ได้

 

หานเซิ่นคิดว่าโอกาสเดียวที่เขาจะเอาชนะได้ คือต้องเข้าไปสู้แบบประชิดตัว

 

เมื่อเห็นหานเซิ่นเข้ามาใกล้ หวังโฮว่ขยับดาบและฟันไปที่หานเซิ่น การเคลื่อนไหวของเขาต่อเนื่องและลื่นไหลมาก ไม่มีทางที่หานเซิ่นจะป้องกันตัวได้เลย

 

หานเซิ่นหลบดาบช้าไปเล็กน้อย ทำให้คอของเขาเกิดบาดแผล ยังดีที่เป็นแค่บาดแผลตื่นๆ ถึงจะไม่ใช่อาการบาดเจ็บที่รุนแรง แต่มันก็ดูค่อนข้างน่ากลัว

 

“เซิ่นระวัง! ดาบนั้นมันคือดาบเลือดศักดิ์สิทธิ อย่าให้เขาฟันโดนอีก”

เมื่อเห็นทักษะดาบ รวมถึงความคมของดาบ จีเหยียนหรันก็เตือนหานเซิ่น

 

“สมแล้วที่เป็นคนของตระกูลใหญ่ แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าดาบเล่มนี้คือดาบเลือดศักดิ์สิทธิ แต่ยังไงรู้ตัวตอนนี้มันก็สายไปแล้ว”

หวังโฮว่ขยับมือซ้าย และเรียกวิญญาณอสูรออกมาอีกดวง ซึ่งมันคือดาบอีกเล่ม ตอนนี้หวังโฮว่เริ่มกระหน่ำโจมตีหานเซิ่นด้วยดาบทั้ง 2 เล่ม

 

ไม่มีทางที่หานเซิ่นจะป้องกันการโจมตีทั้งหมดที่เข้ามาได้ ทักษะการใช้ดาบของหวังโฮว่อยู่ในระดับสูงมาก หลังจากที่เขาเรียกดาบอีกเล่มออกมา หานเซิ่นก็แทบจะหมดโอกาส สำหรับหานเซิ่นตอนนี้แค่จะหายใจก็ยากแล้ว การโจมตีผสานของดาบทั้ง 2 ทำให้หานเซิ่นแทบไม่มีที่จะหลบ

 

ไม่นานหานเซิ่นก็ถูกฟันไปหลายแผล มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก

 

ตั้งแต่หานเซิ่นวิวัฒนาการ และเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 เขายังไม่เจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองเลย ดังนั้นไม่มีทางที่เขาจะเอาชนะคนที่มีระดับความแข็งแกร่งเกิน 100 และยังใช้ดาบเลือดศักดิ์สิทธิถึง 2 เล่มได้

 

จีเหยียนหรันทนดูไม่ได้อีกแล้ว เธอเรียกมีดวิญญาณอสูรของเธอออกมา และต้องการจะเข้าร่วมสู้ด้วย เธอไม่สามารถทนเห็นหานเซิ่นถูกฆ่าได้

 

“ไม่ต้องเข้ามา ฉันเอาอยู่” หานเซิ่นห้ามจีเยียนหรัน พร้อมกับจับจ้องที่ดาบทั้ง 2 ของหวังโฮว่

 

“ไม่ต้องรีบ ยังไงเดี๋ยวเธอก็ได้ตายไปพร้อมกับเขาอยู่แล้ว” ดาบของหวังโฮว่เริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ

 

เทคนิคการไคท์ติ้งที่หานเซิ่นพยายามใช้มันมาตลอด ในที่สุดก็เริ่มแสดงผล ด้วยการคำนวณที่ยอดเยี่ยมของหานเซิ่น หานเซิ่นเลยยังสามารถยืนยัดสู้กับหวังโฮว่ได้ ถึงเขาจะไม่มีความสามารถพอจะโต้ตอบกลับไป แต่อย่างน้อยดาบของหวังโฮว่ก็ฆ่าเขาได้ไม่ง่ายๆ

 

หวังโฺฮว่ขมวดคิ้ว ดาบที่เขาใช้คือดาบระดับท็อปของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 และวิชาดาบของหวังโฮว่ก็เป็นวิชาดาบสายรุกที่มีประสิทธิภาพมาก แต่กระนั้นมันก็ยังยากที่จะจัดการหานเซิ่นได้

 

ตั้งแต่หวังโฮว่ฝึกวิชาดาบที่ชื่อว่า สโปรคเก็ต แม้แต่ผู้วิวัฒนาการที่แข็งแกร่งกว่าเขาก็ยังยากที่จะรอดชีวิตจากดาบของเขาได้ มันเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อที่มีคนสามารถรับมือเพลงดาบของเขาได้เป็นร้อยกระบวนท่าแล้ว

 

อีกทั้งยังเห็นได้ชัดว่าระดับความแข็งแกร่งของหานเซิ่นนั้นด้อยกว่าเขา แต่หานเซิ่นก็ยังรับมือการโจมตีของเขาได้ร่วม 300 ครั้งแล้ว และเขายังสามารถหลีกเลี่ยงจังหวะที่หวังโฮว่จะโจมตีไปที่จุดตายได้ทุกครั้ง

 

ในตอนนี้หวังโฮว่รู้สึกว่าการจะฟันให้โดนหานเซิ่นยิ่งยากขึ้นไปเรื่อยๆ แม้หานเซิ่นจะมีบาดแผลทั่วร่าง แต่หวังโฮว่ก็รู้ดีว่าบาดแผลแค่นั้นไม่ถึงตาย

 

แต่สิ่งที่น่าแปลกที่สุดก็คือบาดแผลของหานเซิ่น หลังผ่านไปไม่นานบาดแผลก็เริ่มฟื้นฟูตัวเอง

 

ตอนนี้สายตาของหานเซิ่นใสราวกับน้ำที่สะท้อนทุกการเคลื่อนไหวของหวังโฮว่

 

วิชาดาบของหวังโฮว่สุดยอดจริงๆ การโจมตีของเขาแทบไม่มีช่องว่างให้โต้ตอบเลย การฟันแต่ละครั้งถูกออกแบบมาอย่างดี เพื่อให้การโจมตีครั้งต่อไปทำได้ง่ายที่สุด ทำให้การโจมตีมันต่อเนื่องไม่มีหยุด

 

แต่อย่างไรก็ตาม มนุษย์นั้นไม่ใช่เครื่องจักร ด้วยวิชาประเภทนี้หลังจากใช้ไปนานๆ หานเซิ่นเริ่มมองเห็นช่องว่างของมัน ถ้าวัดกันที่วิชาการต่อสู้อย่างเดียว หานเซิ่นยังไม่เคยเจอใครที่เก่งไปกว่าควีน

 

หวังโฮว่แตกต่างจากควีน ทักษะดาบของเขาเวลาใช้โจมตีจะเป็นแบบกึ่งคำนวณและกึ่งรูปแบบที่ตายตัว ทำให้มันมีรูปแบบที่ตายตัวกว่าวิชาของควีน

 

ควีนเปรียบเสมือนยอดฝีมือจริงๆ ส่วนหวังโฮว่เหมือนกับคนธรรมดาที่ได้วิชาดาบดีๆมา

 

แต่ไม่ว่าวิชาดาบจะดียังไง เวลานำมาใช้มันก็จะมีจุดผิดพลาดหรือบกพร่องบ้าง ขณะที่หานเซิ่นใช้เทคนิคการไคท์ติ้งหลบการโจมตี เขาก็สามารถชักนำให้หวังโฮว่โจมตีผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง

 

ยิ่งเวลาผ่านไปหานเซิ่นก็ยิ่งเข้าใจหลักวิชาดาบของหวังโฮว่ ดังนั้นมันยิ่งทำให้หวังโฮว่โจมตีหานเซิ่นได้ยากลำบากมากขึ้น

 

หวังโฮว่เริ่มหัวร้อน มันเป็นครั้งแรกที่เขาเจอคู่ต่อสู้แบบนี้ ฟุตเวิร์คของหานเซิ่นดูเหมือนจะธรรมดาๆ แต่ไม่ว่าเขาจะโจมตีรุนแรงแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถฆ่าหานเซิ่นได้

 

ระดับความแข็งแกร่งของหานเซิ่นน้อยกว่าหวังโฮว่ แต่ตอนนี้หวังโฮว่เริ่มควบคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว

 

ในสายตาของหวังโฮว่การเคลื่อนไหวของหานเซิ่นยิ่งคาดเดาได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ความมั่นใจของหวังโฮว่ลดลงไปเรื่อยๆ เขาเริ่มรู้สึกว่าเขาไม่มีทางฆ่าหานเซิ่นได้

 

“เป็นไปไม่ได้!” หวังโฮว่คำราม และฟังหานเซิ่นรุนแรงที่สุดเท่าที่เขาทำได้

 

แต่การที่เขาใส่แรงมากเกิน มันก็ได้อย่างเสียอย่าง มันทำให้หานเซิ่นรับมือกันการโจมตีของเขาได้ง่ายขึ้น ความโกรธยิ่งทำให้เขาโจมตีผิดพลาดมากขึ้น

 

ตอนนี้สถานการณ์เริ่มพลิกกลับแล้ว การโจมตีของหวังโฮว่ยังรวดเร็วและรุนแรงเหมือนเดิม แต่ตอนนี้เขากลับเริ่มตกเป็นรอง

 

จีเหยียนหรันทั้งมีความสุขทั้งประหลาดใจ หวังโฮว่ใช้วิชาสโปรคเก็ต ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงดาบสายรุกที่ดีที่สุด แต่กับไม่สามารถฆ่าหานเซิ่นได้ และตอนนี้หานเซิ่นเริ่มพลิกสถานการณ์กลับ มันเป็นสิ่งที่จีเหยีนหรันไม่เคยเห็นมาก่อน

 

ระดับความแข็งแกร่งเกิน 100 เพลงดาบที่ร้ายกาจและยังใช้ดาบเลือดศักดิ์สิทธิ แต่กับทำอะไรหานเซิ่นไม่ได้ ตอนนี้การเคลื่อนไหวของหานเซิ่นเริ่มยืดหยุ่นและรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ หวังโฮว่เริ่มรู้สึกว่าเขาโดนกดดัน

 

ตูม!

ด้วยหมัดของหานเซิ่น หวังโฮว่ต้องเปลี่ยนจากฝ่ายรุกมาเป็นฝ่ายตั้งรับ ตอนนี้เขาไม่สามารถใช้วิชาดาบที่ภูมิใจได้อีกต่อไป