อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 489 แพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการ
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
โชคดีที่เนื้อของเฟอเรทโกสพาวมันหวานและอร่อยมาก แถมยังไม่ค่อยมีกลิ่นคาว ด้วยซอสสูตรพิเศษของหานเซิ่น ทำให้มันยิ่งอร่อยมากแม้จะไม่ได้ทำให้สุกก็ตาม
“เนื้อของเฟอเรทโกสพาวถูกกิน คุณได้รับ 1 จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ”
เมื่อได้ยินเสียงในหัวซ้ำแล้วซ้ำอีก หานเซิ่นก็รู้สึกมีความสุขมาก ถ้าประมาณอย่างหยาบๆ จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ 2 พ้อยจะเพิ่มระดับความแข็งแกร่งได้ 1 ถ้าเฟอเรทโกสพาวตัวนี้เพิ่มจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิให้เขาได้ 10 ระดับความแข็งแกร่งของเขาก็จะเพิ่มขึ้นประมาน 5
หลังจากกินเฟอเรทโกสพาวหมดไปบางส่วน หานเซิ่นก็เห็นใครบางคนกำลังขี่สัตว์อสูรตรงมาทางที่เขาอยู่ ไม่นานเขาก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าคนคนนั้นคือชายที่รับมือกับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิหลายตัวได้ในเมืองสตาร์วีล
หานเซิ่นไม่รู้ว่าทำไมคนคนนี้ถึงได้มาที่นี่ ขณะที่เขากำลังงง เขาก็เห็นว่าชายคนนั้นกำลังเช็ครอยเลือดตรงจุดที่หานเซิ่นฆ่าการ์กอย และเขาก็ตามรอยเลือดมา
หานเซิ่นระวังตัวทันที เขาจ้องมองชายที่กำลังเดินมาตรงจุดที่เขาอยู่
“เพื่อน อย่าเข้าใจผิดที่ผมตามมาไม่ใช่เพราะจะมาทำอันตราย เพียงแค่อยากจะมาทำความรู้จักเท่านั้น” เมื่อเห็นหานเซิ่น หลี่ซิงหลุนก็ยิ้มและพูด
“ถ้าจะมาขอบคุณ ก็ไม่จำเป็นหรอก” หานเซิ่นพูด
“ถ้าผมมาแค่ขอบคุณ ผมคงไม่ไล่ตามมาไกลถึง 300 ไมล์หรอก” หลี่ซิงหลุนพูด
“แล้วทำไมคุณถึงได้พยายามถึงขนาดนั้น?” หานเซิ่นมองที่หลี่ซิงหลุนด้วยความสงสัย
“มันหายากที่จะมีคนคล้ายๆกับผม และผมอก็ยากจะเป็นเพื่อนกับคุณ” หลี่ซิงหลุนพูดอย่างจริงจัง
“แค่พูดอย่างเดียว คุณไม่สามารถทำให้ใครกลายเป็นเพื่อนคุณได้หรอก” หานเซิ่นพูดหลังจากกินเนื้ออีกชิ้น
“แต่ก่อนจะเป็นเพื่อนได้ ผมก็ต้องรู้จักคุณก่อนจริงไหม?”
“นั่นมันก็จริง”
หลี่ซิงหลุนนั่งลงข้างๆหานเซิ่น และพวกเขา 2 คนก็เริ่มพูดคุยกัน หลังจากคุยไปได้สักพัก หานเซิ่นก็รู้สึกว่าคนคนนี้น่าสนใจทีเดียว เขาเป็นคนฉลาด สุภาพและยังกล้าหาญ คนประเภทนี้มักจะทำให้คนอื่นๆไว้วางใจได้ง่ายๆ
แม้หานเซิ่นจะระมัดระวังตัวมาก แต่มันก็ช่วยได้ไม่ที่เขาจะรู้สึกประทับใจในความรู้และมารยาทของหลี่ซิงหลุน เขาจะต้องมาจากครอบครัวที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ต้องขอบคุณหลี่ซิงหลุนที่ทำให้หานเซิ่นพอจะรู้สถานการณ์พื้นที่บริเวณนี้คราวๆแล้ว บนแผ่นดินที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งแห่งนี้มีเมืองมนุษย์อยู่ประมาน 20-30 เมือง
แต่อย่างไรก็ตามเมืองส่วนมากก็เป็นแค่เมืองสปิริตระดับทหารรับใช้และอัศวิน มีเพียงแค่ 3 เมืองที่ถูกยึดมาจากสปิริตขุนนาง และ 3 เมืองนั้นถูกปกครองโดยคนละคนกัน โดย 3 คนที่ว่านั่นถือเป็นคนที่มีอิทธิพลที่สุดในแผ่นดินน้ำแข็งแห่งน้ำ เมืองเล็กๆทั้งหมดเกือบจะตกอยู่ใต้การควบคุมของ 3 ขั้วอำนาจนี้ ซึ่งเมืองสตาร์วีลที่ถูกปกครองโดยหลี่ซิงหลุนก็คือหนึ่งใน 3 เมืองที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินน้ำแข็ง เส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างแผ่นดินน้ำแข็งกับข้างนอก ถูกขวางกั้นด้วยเมืองสปิริตราชวงศ์ แม้สถานการณ์ของพื้นที่แถบนี้จะดูดีกว่าเมืองเทพธิดาของหานเซิ่น แต่มันก็ยังถือว่าโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก พวกเขายังไม่สามารถเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ และประชากรส่วนมากของมนุษย์ได้
หลี่ซิงหลุนต้องการจะบุกตีเมืองสปิริตราชวงศ์ และขยายเขตการล่าให้ไกลออกไป ไม่งั้นถ้ายังถูกจำกัดอยู่แค่พื้นที่แถบนี้ มันจะยากที่พวกเขาจะเก็บจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิได้เต็ม
อย่างไรก็ตาม ถ้าแค่ความสามารถของเมืองสตาร์วีลอย่างเดียว ก็ไม่มีทางที่จะตีเมืองสปิริตราชวงศ์ได้ ที่สำคัญเมืองของมนุษย์ในพื้นที่แถบนี้แข่งขันช่วงชิงอำนาจกันมาหลายปีแล้ว ดังนั้นมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะร่วมมือกันเพื่อยึดครองเมืองสปิริตราชวงศ์
แม้หลี่ซิงหลุนจะพยายามทำให้ทุกเมืองร่วมแรงร่วมใจกัน ตั้งแต่ตอนที่เขาเป็นผู้ปกครองเมืองสตาร์วีล แต่เนื่องจากความเกลียดชัง และการต้องการชิงดีชิงเด่นที่ฝังรากลึกมาเป็นศตวรรษแล้ว ทำให้มันไม่ง่ายที่จะแก้ปัญหาได้
หานเซิ่นชื่นชมกลยุทธ์และแนวคิดของหลี่ซิงหลุนมาก ดังนั้นเขาตกลงจะช่วยหลี่ซิงหลุนทำให้อีก 2 เมืองใหญ่ยอมมาร่วมมือกันยึดเมืองสปิริตราชวงศ์
หานเซิ่นเองก็มีแผนเหมือนกัน ถึงเขาจะฆ่าสปิริตราชวงศ์ไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่นั่นเป็นการลอบโจมตี ซึ่งมันจะใช้ได้ผลแค่ครั้งแรกเท่านั้น ครั้งหน้าสปิริตราชวงศ์จะระวังตัวมากขึ้น
ถ้าสู้กันซึ่งซึ่งหน้า เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ ที่สำคัญยังมีมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิจำนวนมากภายในเมืองสปิริตราชวงศ์ หานเซิ่นสามารถรับมือได้เต็มที่ก็ 1-2 ตัวเท่านั้น ถ้ามีมากกว่านั้น เขาก็คงจะต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
ดังนั้นไม่มีทางเลยที่เขาจะยึดเมืองสปิริตได้ด้วยตัวเอง ถ้าหลี่ซิงหลุนสามารถทำให้ 3 เมืองใหญ่รวมพลังกันไปยึดเมืองสปิริตราชวงศ์ได้ หานเซิ่นก็จะไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะเข้าไปมีส่วนแบ่งในผลประโยชน์
ที่สำคัญขอแค่เขาได้สปิริตสโตนมา เขาก็จะได้รับความภักดีจากสปิริตราชวงศ์อย่างแน่นอน ซึ่งมันคือสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าเมืองเสียอีก
หานเซิ่นรู้แล้วว่าพื้นที่แถวนี้ถูกแบ่งออกเป็นเขตอิทธิพลของแต่ละเมือง ดังนั้นมอนสเตอร์ที่เหลือให้เขาล่าจะมีไม่มาก การจะหามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิให้เจอยังยาก แผนการเพิ่มจีโนพ้อยในเวลาสั้นของเขาคงจะต้องหยุดพักไว้ก่อน หานเซิ่นครุ่นคิด จากนั้นเขาก็ตัดสินใจจะหยุดล่าก่อน เขาตามหลี่ซิงหลุนกลับไปที่เมืองสตาร์วีล และเทเลพอร์ตกลับไปที่สหพันธ์ดวงดาว โดยใช้เครื่องเทเลพอร์ตภายในเมือง
เฟอเรทโกสพาวให้จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ 10 พ้อยอย่างที่เขาหวังไว้จริงๆ ด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ 2 พ้อยที่เขามีอยู่ก่อนหน้า ทำให้ตอนนี้เขามีทั้งหมด 12 จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิแล้ว
ด้วยสิ่งที่เขาได้รับมา ทำให้หานเซิ่นมีความสุขและพอใจกับการออกล่าครั้งนี้มาก เขาไม่ได้หวังว่าจะล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวเล็กๆได้ง่ายๆแบบนี้ ซึ่งถือว่าเขาโชคดีมาก
เนื่องจากเขาไม่สามารถเพิ่มจีโนพ้อยได้ในระยะเวลาสั้นๆ หานเซิ่นจึงตัดสินใจไม่ออกล่าอีกต่อไป ก่อนที่จะถึงการแข่งขันประจำปีของกองทัพ เขาจะต้องเน้นฝึกเทคนิคในคัมภีร์ตงเสวียน
หลังจากที่สู้กับสปิริตราชวงศ์ หานเซิ่นก็เข้าใจอะไรใหม่ๆเกี่ยวกับศาสตร์ตงเสวียนมากขึ้น และเขาก็หวังว่าจะได้คู่ซ้อมดีๆเพื่อฝึกฝนและพัฒนาวิชา
หานเซิ่นครุ่นคิดและล็อคอินเข้าไปในแพลตฟอร์มสำหรับต่อสู้อย่างเป็นทางการ เมื่อก่อนที่เขาต้องเข้าไปสู้ในกลาดิเอเตอร์ก็เพราะเขายังไม่เป็นผู้วิวัฒนาการ ทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปสู้ในส่วนของผู้วิวัฒนาการได้
ตอนนี้เขาเป็นผู้วิวัฒนาการอย่างเป็นทางการแล้ว เขาสามารถสมัครแพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการ และต่อสู้กับผู้วิวัฒนาการจากทั่วสหพันธ์ดวงดาวได้
ที่สำคัญแพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการมีประโยชน์หลายอย่าง แม้ข้อมูลในแพลตฟอร์มจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล และถูกปกป้องตามกฎหมาย แต่สถานะผู้มีเกียรติจะโชว์ขึ้นมา เมื่อเข้าไปในแพลตฟอร์ม
ผู้มีเกียรติแต่ละระดับก็มักจะถูกจับคู่ให้สู้กับผู้มีเกียรติระดับเดียวกัน
หานเซิ่นคือผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิ ซึ่งมีแสดงอยู่ถัดจากชื่อไอดีของเขาบนแพลตฟอร์ม ถ้าเขาสู้ที่นี่คู่ต่อสู้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิเหมือนๆกับเขา
นั่นก็หมายความว่าหานเซิ่นง่ายที่จะเจอกับคนที่มีฝีมือสูงบนแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่เขาเลือกที่จะทิ้งกลาดิเอเตอร์ และเข้ามาสู้ที่นี่แทน
ขณะที่กำลังจะสมัคร หานเซิ่นก็ครุ่นคิดอยู่นานว่าจะใช้ชื่ออะไรดี และในที่สุดเขาก็ตัดสินใจใช้ชื่อว่า ดอลลาร์ แต่ทว่าหลังจากกด Enter เขาก็พบว่าชื่อนี้ถูกใช้ไปแล้ว หานเซิ่นเพิ่มคำเข้าไป และเปลี่ยนเป็นชื่อ ฉันคือดอลลาร์ แต่มันก็ยังถูกใช้ไปแล้ว
คอมเม้นต์