อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 500 ต่อสู้เพื่อตำแหน่งราชัน
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
โดยปรกติคนที่จะได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากเหล่าทหารได้มักจะเป็นพวกระดับนายพล ทหารธรรมดาๆยากที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับทหารคนอื่นๆได้ แม้เขาจะเก่งแค่ไหนก็ตาม
ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าหานเซิ่นสามารถทำให้พวกทหารเชื่อมั่นในตัวเขาได้ เขามีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นระดับนายพลในอนาคต เพียงแค่โอกาสยังมาไม่ถึง
เหงื่อไหลออกมาเป็นสายน้ำ และกล้ามเนื้อกำลังถูกเผา หานเซิ่นรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังวิ่งอยู่บนกองไฟ เขาต้องปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา และก็ตรงไปถึงเส้นชัยให้ได้
ตอนนี้ทหารหลายคนกำหมัดแน่น ขณะกำลังมองดูหานเซิ่น ราวกับว่าคนที่กำลังทดสอบอยู่ข้างในคือตัวพวกเขาเอง เมื่อหานเซิ่นไปถึงเส้นชัยได้ ทหารทุกคนก็รู้สึกโล่งอก
ทั้งเสียงเชียร์ และเสียงปรบมือดังสนั่น
“หานเซิ่นผ่านการทดสอบได้แล้วครับ” หานเซิ่นทำความเคารพนายทหารที่ทำหน้าที่ควบคุมการทดสอบ เขายกแขนที่เต็มไปด้วยเหงื่อขึ้นมา
“ทำได้ดีมาก ตอนนี้คุณกลับไปพักผ่อนได้แล้ว” นายทหารที่ทำหน้าที่ควบคุมการทดสอบพูด พร้อมกับยิ้ม
เมื่อเห็นหานเซิ่นสามารถผ่านการทดสอบได้ ประธานกาแล็กซี่เขตตะวันตกเฉียงใต้ก็พูด “ดีมาก.. ดีมากจริงๆ… ต้องแบบนี้สิทหารของกาแล็กซี่ตะวันตกเฉียงใต้”
เลขาเข้าใจสิ่งที่หัวหน้าของเขาพูดดี แม้หัวหน้าของเขาจะพูดออกมาแค่สั้นๆ
เท่าที่เลขารู้จักหัวหน้าของเขามา ถ้าเขาพูดว่าดี นั่นถือว่าเป็นคำชมชื่นที่เยี่ยมมากแล้ว ถ้าเขาพูดว่าดีมาก มันหมายความว่าหัวหน้าของเขาพอใจคนคนนั้นมากๆ แต่ตอนนี้หานเซิ่นทำให้เขาพูดคำว่าดีมากถึง 2 ครั้งติด ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เขาจะต้องตื่นเต้น และประทับใจมากๆแน่ เลขาแทบจะไม่เคยได้ยินเขาพูดคำว่าดีมาก 2 ครั้งเลย
“พี่ชายทำได้ดีมาก คุณทำได้จริงๆ” เมื่อหานเซิ่นกลับมาที่นั่ง ทหารหนุ่มก็ลูบไหล่ของหานเซิ่นอย่างตื่นเต้น
“เรื่องกล้วยๆ” หานเซิ่นเลียริมฝีปากและนั่งลง
ตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว ถึงเขาจะใช้เวลาในการทดสอบไม่นาน แต่เขาก็ใช้พลังงานไปเป็นจำนวนมาก และเขายังอ่อนล้าจากการที่ใช้โอเวอร์โหลด โชคดีที่เขามีวิชากายหยก ไม่งั้นเขาอาจจะหมดสติไประหว่างการทดสอบแล้ว
หานเซิ่นหมดแรง เขาอยากจะล้มตัวลงนอนบนพื้นและหลับไป แต่อย่างไรก็ตาม เขายังต้องแข่งอีกหลายสถานี ดังนั้นเขามีเวลาพักไม่พอ
โชคดีที่การแข่งในสถานีอื่นๆ ไม่ต้องใช้ความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายมาก การยิงปืน การปฏิบัติการวอเฟรม การพรางตัวและการประกอบอาวุธล้วนแต่ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน
ในสงครามระดับดวงดาวของยุคนี้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีถือว่ามีความสำคัญมาก ถ้ามนุษย์ยังไม่ถึงขั้นผู้เป็นเลิศ พวกเขาก็ยากที่จะเอาชนะวอเฟรมได้ และยิ่งเทียบไม่ได้กับอาวุธที่ร้ายแรงอื่นๆ
สิ่งที่หานเซิ่นเรียนรู้มาจากโรงเรียนทหารถูกนำมาใช้ในการแข่งทั้งหมด หานเซิ่นทำคะแนนได้สูงในทุกๆสถานี เขาถือเป็นทหารที่มีความสามารถรอบด้าน
แม้เถี่ยอี๋เองก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลย ในหลายๆสถานีพวกเขาจบอันดับ 1 และอันดับ 2 พวกเขาทั้ง 2 คนถือว่าระดับใกล้เคียงกันมาก
ทหารทุกคนรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ดูพวกเขาแข่งกันทำคะแนน ในฐานะทหารในห้องครัวของกาเเล็กซี่ตะวันตกเฉียงใต้ หานเซิ่นสามารถทำคะแนนได้สูสีกับทหารเสือของหน่วยพิเศษบลูบลัด ซึ่งมันถือเป็นเกียรติมากสำหรับกาแล็กซี่ตะวันตกเฉียงใต้
แม้เจิ้งหยู่จะทำคะแนนได้ดีเช่นกัน แต่เขาก็ไม่สามารถเทียบกับหานเซิ่นและเถี่ยอี๋ได้ เมื่อนำคะแนนมาร่วมกัน ผลปรากฏว่าหานเซิ่นได้ที่ 1 เขาเอาชนะเถี่ยอี๋ไปได้ 0.2 คะแนน ซึ่งเรียกเสียงเฮจากทหารของกาเเล็กซี่ตะวันตกเฉียงใต้ได้
เถี่ยอี๋ไม่ได้เมินเฉยใส่หานเซิ่นเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ยังไงเขาก็ยังคิดว่าหานเซิ่นไม่ใช่คู่สู้ของเขา
แม้หานเซิ่นจะทำคะแนนได้ดี แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าถ้ามาสู้กันจริงๆแล้วหานเซิ่นจะต่อสู้เก่งกว่าเถี่ยอี๋
ยังไงก็ตามการแข่งขันรอบตัดสินก็คือการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ซึ่งมันจะต้องวัดความแข็งแกร่งกันจริงๆ ทำให้เถี่ยอี๋มีความมั่นใจมาก
หลังประกาศคะแนน หานเซิ่นก็ไม่ได้พูดอะไร เขาใช้เวลาที่เหลือในการพักเอาแรง เขาต้องฟื้นพลังกลับมาให้มากที่สุด
มีเพียงแค่คนที่ทำคะแนนได้สูงสุด 4 อันดับแรก ถึงจะสามารถเข้าร่วมการต่อสู้รอบสุดท้ายได้ นอกเหนือจากหานเซิ่น เถี่ยอี๋ เจิ้งหยู่แล้วก็ยังมีทหารอีกคนที่ต้องมาเข้าร่วมการต่อสู้รอบสุดท้าย ซึ่งหวังกางผู้ชิงตำแหน่งอีกคนไม่แม้แต่จะติด 1 ใน 4
พวกเขาทั้ง 4 คนถูกแบ่งออกเป็น 2 คู่ ผู้ชนะจะเข้าไปเจอกันในรอบชิงชนะเลิศ ส่วนผู้แพ้จะต้องไปชิงอันดับ 3 กัน
การจับคู่จะใช้การสุ่มด้วย AI หานเซิ่นถูกจับให้สู้กับเถี่ยอี๋ ซึ่งมันเหมือนกับรอบชิงถูกนำมาแข่งก่อนไม่มีผิด
แต่นี่ถือเป็นข่าวดีสำหรับหานเซิ่น ตอนนี้ร่างกายของเขายังไม่ฟื้นฟูเต็มที่ ถ้าเขาต้องเสียแรงต่อสู้กับคนอื่นก่อนที่จะไปสู้กับเถี่ยอี๋ เขาคิดว่ามันน่าจะยากลำบากกว่า
‘ถ้าฝึกมนตรานอกรีตขั้นที่ 3 ยืดอายุได้สำเร็จนะ ปัญหาเรื่องพลังงานก็จะหมดไป แต่ดูเหมือนการฝึกขั้นที่ 3 จะยากมากๆ เราฝึกมันมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่สำเร็จสักที’ หานเซิ่นคิดอย่างอดไม่ได้
แต่กระนั้นการจะมาคิดเรื่องนี้ในตอนนี้ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร เขาต้องคิดหาวิธีเอาชนะเถี่ยอี๋ให้ได้ก่อน
แม้หานเซิ่นจะไม่ได้สนใจตำแหน่งราชันทหารตะวันตกเฉียงใต้ แต่เขาก็ต้องเอาชนะเถี่ยอี๋ให้ได้ เขาต้องการตำแหน่งบอดี้การ์ดของจีเหยียนหรัน ซึ่งเขาจะไม่มีทางยกตำแหน่งนี้ให้ใคร
การต่อสู้ของเจิ้งหยู่ถูกจัดขึ้นก่อน ทำให้หานเซิ่นมีเวลาพักอีกพอสมควร
หลังจากที่ต่อสู้กันนานกว่าครึ่งชั่วโมง เจิ้งหยู่ก็เอาชนะได้ในที่สุด ถ้าหานเซิ่นสามารถเอาชนะเถี่ยอี๋ได้ เขาก็จะต้องไปสู้กับเจิ้งหยู่ เพื่อชิงตำแหน่งราชันทหารตะวันตกเฉียงใต้
มาถึงการต่อสู้ของหานเซิ่นแล้ว หานเซิ่นลองขยับตัว และพบว่าอาการปวดเมื่อยของเขาหายไปมากแล้ว
หานเซิ่นใช้กายหยกฟื้นสภาพร่างกายตลอดครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ตอนนี้เขาหายเหนื่อยเกือบจะสนิทแล้ว เหมือนว่าผลลัพธ์ของมันจะดีเยี่ยม
เถี่ยอี๋เดินขึ้นมาบนเวที และยืนอยู่ตรงข้ามกับหานเซิ่น แม้หานเซิ่นจะเป็นคนที่ตัวสูง แต่เถี่ยอี๋ก็สูงกว่าเขาตั้ง 1 ฟุต แค่ขนาดตัวหานเซิ่นก็ดูจะเสียเปรียบแล้ว
แต่กระนั้นหานเซิ่นก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก เขาเคยเห็นมอนสเตอร์ตัวใหญ่ๆมานับไม่ถ้วน และเขาก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวพวกมันเลย ไม่ต้องพูดถึงกับแค่เถี่ยอี๋ที่สูงกว่าเขาแค่ 1 ฟุต
เมื่อสัญญาณเริ่มต่อสู้ดังขึ้น หานเซิ่นก็ก้าวออกไปข้างหน้า และชกไปที่หน้าอกของเถี่ยอี๋ทันที
แต่กระนั้นเถี่ยอี๋ก็ยืนนิ่งๆ เขามองดูหานเซิ่นด้วยสายตาที่ดูถูก ตัวของเขาเปลี่ยนเป็นสีทองดูเหมือนกับพระพุทธรูป
ตอนนี้เหมือนว่าเถี่ยอี๋จะพยายามใช้ซุปเปอร์ไดมอน เพื่อรับหมัดของหานเซิ่น เขาไม่ได้ตั้งท่าป้องกันอะไรเลย ซึ่งมันสร้างความไม่พอใจให้กับทหารของตะวันตกเฉียงใต้อย่างมาก พวกเขาคิดว่าเถี่ยอี๋อวดดีและหยิ่งยโสเกินไป
คอมเม้นต์