วันรุ่งขึ้น หานเซิ่นล็อคอินเข้าไปในเซิร์ฟเวอร์ของกองทัพ ตามเวลาที่นัดหมายกับถังเตียงลิ่วเอาไว้

 

หานเซิ่นแอดเพื่อนไปตามชื่อไอดีที่ถังเตียงลิ่วบอกเอาไว้ ถังเตียงลิ่วรับคำขอเป็นเพื่อนของหานเซิ่น และก็ชวนเขาเข้ามาในห้อง โดยตั้งค่าไม่ให้ใครเข้ามาดูได้

 

มีดทอร์นาโดเป็นหนึ่งในวิชาลับตระกูลถัง ถึงมันจะเคยรั่วไหลออกไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังไงวิชาลับก็จะต้องถูกเก็บรักษาเอาไว้

 

ถังเตียงลิ่วสาธิตให้หานเซิ่นดูโดยใช้ความเร็วที่น้อยกว่าปรกติ ยิ่งกว่านั้นเขายังบอกหานเซิ่นเกี่ยวกับหลักสำคัญของวิชามีดทอร์นาโด จริงๆแล้วเรื่องพวกนี้ไม่เคยเปิดเผยให้คนนอกรู้มาก่อน

 

การฝึกซ้อมทำได้แค่วันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากถังเตียงลิ่วยอมสละเวลาพักผ่อนมาเป็นคู่ซ้อม พวกเขาทั้ง 2 คนแทบไม่พูดอะไรกันเลย พอล็อคอินเข้ามาก็เริ่มสู้กันทันที เพื่อใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

ถังเตียงลิ่วใช้อาวุธของเขาฟันไปที่หานเซิ่น ซึ่งหานเซิ่นก็พยายามจะป้องกันมัน แต่เมื่ออาวุธทั้ง 2 ใกล้จะปะทะกัน อาวุธของถังเตียงลิ่วก็หายไปอย่างน่าประหลาด จากนั้นมันก็ปรากฏตัวอีกทีที่บริเวณหน้าอกของหานเซิ่น

 

ถึงหานเซิ่นจะใช้ฟุตเวิร์คของเขาเพื่อหลบการโจมตี แต่มันก็ไม่ได้มีความหมาย ถ้าเขาไม่สามารถป้องกันมันได้ซึ่งๆหน้า หานเซิ่นก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะแบล็คก็อตได้

 

หานเซิ่นตัดสินใจที่จะไม่หลบการโจมตีของถังเตียงลิ่วอีกต่อไป เขายืนรับการโจมตีของถังเตียงลิ่วตรงๆ และซึมซับจังหวะของมัน

 

“อีกครั้ง” หานเซิ่นกวัดแกว่งอาวุธของตัวเองเพื่อรับการโจมตีของถังเตียงลิ่วอีกครั้ง

 

แม้ถังเตียงลิ่วจะอธิบายหัวใจสำคัญของวิชานี้แล้ว แต่หานเซิ่นก็ยังรู้สึกว่ามันยากมากที่จะคาดเดาวิชามีดทอร์นาโด

 

การฝึกซ้อมเป็นไปอย่างติดๆขัดๆ ความเร็วในการโจมตีของถังเตียงลิ่วมันสูงเกินไปจนหานเซิ่นไม่สามารถใช้อาวุธป้องกันได้ ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ก็คือเขาพยายามซึมซับจังหวะการโจมตี และเกือบทุกครั้ง หลังจากที่หานเซิ่นถูกโจมตี เขาก็จะแพ้ไปเลย แล้วต้องเข้ามาเริ่มต่อสู้กันใหม่

 

หานเซิ่นลองเปลี่ยนวิธี เขาเลิกป้องกันแล้วลองโจมตีสวนกลับไปแทน ทั้งหานเซิ่นและถังเตียงลิ่วต่างก็ไม่สามารถคาดเดาการโจมตีของอีกฝ่ายได้ แต่เนื่องจากมีดทอร์นาโดมีความเร็วที่สูงมาก ทำให้หานเซิ่นถูกโจมตีก่อน

 

“อีกครั้ง…อีกครั้ง…อีกครั้ง..”

1 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ดีเท่าที่ควร เมื่อถังเตียงลิ่วใช้ความสามารถเต็มที่ หานเซิ่นก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากมีดทอร์นาโดได้

 

“ในตระกูลของฉันมีเทคนิคการใช้แรงที่สอนเฉพาะคนในตระกูลเท่านั้น พอเอามาใช้ร่วมกับมีดทอร์นาโดก็ทำให้ความเร็วของมันยิ่งสูงขึ้นอีก ถ้าสู้กับคนที่มีระดับความแข็งแกร่งพอๆกัน อีกฝ่ายก็จะไม่มีทางป้องกันมีดทอร์นาโดได้ ที่สำคัญดูเหมือนแบล็คก็อตจะแข็งแกร่งกว่านายด้วย ถ้านายต้องการเอาชนะมัน นายทำได้แค่พึ่งฟุตเวิร์คของนาย และก็รอให้เขาเผยจุดอ่อนออกมา ไม่งั้นมันยากมากที่นายจะชนะได้ ฉันทำได้แค่ทำให้นายคุ้นเคยกับจังหวะและระยะการโจมตีของมีดทอร์นาโด ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับนายแล้ว” ถังเตียงลิ่วพูด และล็อคเอาท์ออกจากเซิร์ฟเวอร์ของกองทัพอย่างรวดเร็ว

 

หานเซิ่นรู้ดีว่าถังเตียงลิ่วพูดถูก ถ้าเป็นการต่อสู้ซึ่งๆหน้า หานเซิ่นสามารถใช้ฟุตเวิร์คอันเหนือชั้นของเขารับมือกับแบล็คก็อตได้ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นหานเซิ่นจะมีโอกาสเพียงแค่ตอนที่แบล็คก็อตทำพลาดเท่านั้น นั่นหมายความว่าแบล็คก็อตจะเป็นฝ่ายที่คุมเกม ซึ่งเรื่องนี้หานเซิ่นยอมรับไม่ได้

 

ที่สำคัญเมืองแบล็คก็อตเป็นเมืองใหญ่ ดังนั้นหานเซิ่นคงจะหาโอกาสสู้ตัวต่อตัวกับแบล็คก็อตได้ยาก แบล็คก็อตจะต้องมีผู้วิวัฒนาการคุ้มกันอยู่เป็นจำนวนมากแน่ การจะฆ่าแบล็คก็อต หานเซิ่นต้องใช้อาวุธป้องกันมีดทอร์นาโดให้ได้

 

‘มันเร็วขนาดนั้น แล้วเราจะกันมันได้ยังไง?’ หานเซิ่นคิดอยู่นาน แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป

 

บีพ บีพ!

ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิด อยู่ๆของก็ได้ยินเสียงเรียกจากในเซิร์ฟเวอร์ของกองทัพ เขาเช็คดู และพบว่ามันมาจาก Ms. Perfume

 

หานเซิ่นกดยอมรับ และMs. Perfumeก็มาปรากฏต่อหน้าของเขาทันที เธอมองหานเซิ่นและถาม “โค้ช คุณพอมีเวลาสอนฉันไหม? ฉันมีคำถามอยู่หลายคำถามเกี่ยวกับคลาสเรียนเมื่อคราวก่อน”

 

“ผมกลัวว่าวันนี้คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะ” หานเซิ่นส่ายหัว เขากำลังคิดหนักเกี่ยวกับการแก้ทางวิชามีดทอร์นาโดเลยไม่มีอารมณ์จะมาสอนMs. perfume

 

ซินเสวียนรู้สึกผิดหวัง เธอรอหานเซิ่นมานานแล้ว แต่เธอกับไม่มีโอกาสจะได้ถามคำถามที่เธอสงสัย เป็นธรรมดาที่เธอจะรู้สึกแย่

 

เมื่อซินเสวียนเตรียมจะบอกลา อยู่ๆเธอก็ได้ยินหานเซิ่นถาม “คุณเคยฝึกวิชาดาบหรือมีดที่เน้นการโจมตีแบบรวดเร็วไหม?”

 

“เคยค่ะ แต่ฉันไม่ถนัดมันเท่าไหร่?” ซินเสวียนรีบตอบ

 

อะตอมมิคฟิชชั่นที่เธอกำลังฝึกอยู่ เด่นทั้งด้านความแข็งแกร่งและความทนทาน นั่นเป็นเหตุผลที่ทักษะการต่อสู้ของเธอค่อนข้างสมดุลในทุกด้าน

 

“แล้วถ้าคุณต้องเจอกับคนที่มีความเร็วสูงกว่า คุณจะทำยังไง?” จริงๆหานเซิ่นก็ไม่ได้คาดหวังคำตอบจากเธอ เขาเพียงแค่ถามไปเผื่อจะได้แนวคิดใหม่ๆ

 

ซินเสวียนคิดอยู่ชั่วครู่และตอบ “หลบการโจมตีด้วยฟุตเวิร์ค และรอคอยโอกาสเหมาะๆเพื่อโจมตีสวนกลับ”

 

ซินเสวียนคิดว่าหานเซิ่นกำลังใช้คำถามเพื่อสอนเธอ ทำให้เธอไม่กล้าที่จะตอบไปแบบส่งๆ

 

“ถ้าคุณไม่สามารถหลบได้ แต่ก็จำเป็นต้องสู้กับคู่ต่อสู้คนนั้น คุณจะทำยังไง?” หานเซิ่นถามอีกครั้ง

 

“ถ้าจำเป็นต้องสู้เพื่อชีวิต คนไวกว่าจะได้เปรียบมาก ถ้าฉันไม่ได้รวดเร็วเหมือนกับคู่ต่อสู้ ฉันก็คงพึ่งความแข็งแกร่งของตัวเอง” ซินเสวียนตอบหลังจากที่ใช้ความคิดอย่างหนัก

 

“ใช้ความแข็งแกร่งยังไง?” หานเซิ่นมองที่ซินเสวียนด้วยความประหลาดใจ

 

ซินเสวียนคิดว่าหานเซิ่นกำลังทดสอบเธออยู่ ดังนั้นเธอจึงเรียบเรียงคำพูดของเธออย่างดี “ถ้าคู่ต่อสู้มีความเร็ว แสดงว่าความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้สูงมาก ถ้าฉันมีความแข็งแกร่งมากพอ ฉันก็คงจะไม่ตายจากการโจมตีของเขา แต่ทว่าการโจมตีของฉันจะต้องฆ่าอีกฝ่ายได้ นี่น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด”

 

“แม้ที่คุณพูดมาอาจจะได้ผล แต่มันก็ยังไม่ใช่คำตอบที่ผมต้องการ” หานเซิ่นส่ายหัว พร้อมกับยิ้มอย่างขมขื่น วิธีนี้ยังใช้ไม่ได้ผล

 

ความแข็งแกร่งของแบล็คก็อตสูงกว่าเขา ถึงจะใช้วิธีการแลกกันโจมตี หานเซิ่นก็น่าจะเป็นฝ่ายที่เสียหายหนักกว่า

 

“ฉันยังอ่อนหัดเกินไป โปรดช่วยแนะนำด้วยค่ะ โค้ช” ซินเสวียนคิดไม่ออกแล้วว่าจะเอาชนะได้ยังไงถ้าคู่ต่อสู้เร็วกว่าเธอ

 

หานเซิ่นต้องการจะตอบว่าเขาเองก็ไม่รู้ แต่เมื่อเห็นMs. perfume ทันใดนั้นหานเซิ่นก็เกิดความคิดบางอย่าง ครั้งสุดท้ายที่เขาสอนเธอ เขาอธิบายเทคนิคหลายอย่างที่เขากำลังฝึกอยู่ เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นตาของหานเซิ่นก็เป็นประกายขึ้นมา

 

มันไม่ใช่เทคนิคที่หานเซิ่นสอนให้ซินเสวียนหรือเทคนิคที่เขาเคยฝึก แต่มันเป็นประโยคอื่นๆในคัมภีร์ตงเสวียน

 

มันเป็นประโยคที่รวมอยู่ในส่วนที่หานเซิ่นแปลเสร็จแล้ว และกำลังฝึกอยู่ แต่ในตอนนั้นมันเป็นจุดที่หานเซิ่นอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ

 

แต่ในตอนนี้เมื่อเขาลองคิดย้อนกลับไป อยู่ๆหานเซิ่นก็เข้าใจประโยคพวกนั้นขึ้นมา

 

เขาชวนMs. Perfumeต่อสู้ และพูดกับเธอ “เข้ามา ใช้ทุกอย่างที่คุณมี และโจมตีผมด้วยความเร็วสูงสุดของคุณ”