อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 544 กายหยกของใครกันที่เป็นของแท้
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
วิญญาณอสูรของเสวียอี้หยางคือวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 หลังจากที่เขาเปลี่ยนร่างแล้ว ทั้งความเร็วและความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นมาก
แต่ระดับที่เพิ่มขึ้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้หานเซิ่นรับมือเขาไม่ได้ ขอแค่หานเซิ่นโจมตีหรือสัมผัสโดนส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายของเขาได้ มันก็จะทำให้อวัยวะภายในของเขาเสียหายทันที
ปัง ปัง ปัง!
หมัดของพวกเขาปะทะกัน แต่เสวียอี้หยางที่ใช้วิญญาณอสูรเปลี่ยนร่างกลับเสียเปรียบหนักกว่าเก่า ตอนนี้มีเลือดไหลออกมาจากหู จมูกและปากของเขา
“ทำไมเขาถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น?”
“ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมาก! แค่ไมโครคริสตัลของเขาก็ทำให้เสวียอี้หยางหมดหนทางจะสู้แล้ว”
ตุบ!
ไม่มีใครอยากเชื่อว่าเสวียอี้หยางจะถูกไล่ตอนไปที่ขอบเวที ตอนนี้ปากและใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ดูเหมือนเขาไม่อยากที่จะยอมแพ้ แต่เขาก็ไม่สามารถทนพลังหมัดของหานเซิ่นได้ ร่างกายที่เหมือนกับปีศาจน้ำแข็งของเขาถูกชกกระเด็นออกไปจากเวที
เสวียอี้หยางโกรธมาก แต่อวัยวะภายในของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก ถึงเขาจะเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ร่างกายของเขาไม่ขยับแล้ว ไม่นานเขาก็หมดสติไป
หานเซิ่นไม่ได้เข้าไปดูอาการของคู่ต่อสู้ ซึ่งน่าจะสาหัสจนต้องรีบนำตัวไปรักษาด่วน หานเซิ่นเดินลงจากเวที และก็กลับไปนั่งที่เดิมของเขา เหมือนว่าคนจากตระกูลเสวียจะไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เขาคิดเอาไว้ ถึงเสวียอี้หยางจะฝึกกายหยก แต่ดูเหมือนวิชากายหยกของเขาจะไม่ได้มีประสิทธิภาพหรือประโยชน์เท่ากับของหานเซิ่น
ตามความคิดของหานเซิ่น จุดแข็งที่สุดของวิชากายหยกก็คือความสามารถในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับกระดูกและอวัยวะภายใน ซึ่งมันจะทำให้อวัยวะภายในของคนใช้แข็งแกร่งไม่ต่างจากภายนอก ถึงเสวียอี้หยางจะใช้วิชากายหยก แต่เขาไม่ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับอวัยวะภายใน อวัยวะภายในของเสวียอี้หยางอ่อนแอกว่าภายนอกมาก ซึ่งมันต่างจากกายหยกที่หานเซิ่นเรียนรู้มา
แต่เนื่องจากมันเป็นแค่การประลองฝีมือในงานแลกเปลี่ยน หานเซิ่นจึงยั้งมือไว้บ้างแล้ว ไม่งั้นอวัยวะภายในของเสวียอี้หยางคงจะหมดสภาพไปแล้ว
“เซิ่นเซิ่นน้อย นายไม่ธรรมดาจริงๆ!” หลินเวยเวยยิ้ม และลูบไหล่ของหานเซิ่น
“นั่นก็เพราะคู่ต่อสู้อ่อนหัดเกินไปมากกว่า” หานเซิ่นตอบความจริงออกไป เพราะคนของตระกูลเสวียไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เขาคิด
หลังจากที่งานแลกเปลี่ยนจบลง หนอนหนังสือมองไปที่เสวียอี้ขวงด้วยความช็อคและพูด “การที่นายไม่ทำอะไรหานเซิ่น ดูเหมือนมันจะไม่ใช่นิสัยของนายนะ”
เสวียอี้ขวงมีฟันเหมือนกับใบเลื่อย ตาของเขามีสีน้ำเงิน ซึ่งมันดูเย็นชามาก ผมของเขายาวประบ่าดูสะอาดเรียบร้อยมาก ผมแต่ละเส้นสละสลวยราวกับน้ำแข็ง
“นี่มันเป็นงานแลกเปลี่ยน ไว้ไปเล่นงานข้างนอกก็ได้ เขาทำร้ายคนในครอบครัวของฉัน แค่เอาชนะเขาได้มันยังน้อยเกินไป ช่วยฉันสืบมาว่าเขาอยู่ที่เมืองไหนในก็อตแซงชัวรี่” เสวียอี้ขวงพูด ใบหน้าของเขาดูไร้อารมณ์และเยือกเย็นมาก แค่ใครได้มองดูเขาก็ทำให้รู้สึกเสียวสันหลังแล้ว
“ในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 มันค่อนข้างอันตราย มันจำเป็นถึงขนาดที่เราต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปเมืองที่เขาอยู่เลยหรอ?” หนอนหนังสือถาม
“ใช่” เสวียอี้ขวงพูด
หนอนหนังสือหัวเราะ จากนั้นเขาก็เริ่มหาข้อมูลของหานเซิ่นทันที ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ส่งข้อมูลที่พบไปให้กับเสวียอี้ขวง
“เหมือนว่านายจะดวงไม่ดีนะ เพราะที่ที่เขาอยู่คือเขตแดนน้ำแข็ง ซึ่งอยู่บริเวณทะเลทางเหนือ นายจะต้องใช้เวลาเดินทางนานมากกว่าจะไปถึงที่นั่น และยังต้องผ่านเมืองสปิริตหลายเมืองด้วย”
“ไม่มีปัญหา” เสวียอี้ขวงตอบ จากนั้นเขาก็เข้าไปในเครื่องเทเลพอร์ตทันที
หลังจากที่กลับมา หานเซิ่นก็เริ่มอ่านคัมภีร์ตงเสวียนทันที เขาเริ่มฝึกมาสักพักแล้ว แต่เหมือนว่ายังไงเขาก็ต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะฝึกขั้นแรกได้สำเร็จ และปลดล็อคยีนขั้นแรก
ที่งานแลกเปลี่ยน หานเซิ่นได้รับประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะวิชาชี่กงที่หลินเวยเวยบรรยาย ตามที่หลินเวยเวยบรรยาย เขาคิดว่าตอนนี้วิชากายหยกของเขาน่าจะปลดล็อคยีนไปแล้วหนึ่งขั้น เพราะเขาเคยมีประการณ์ในวันที่เขาฝึกไมโครคริสตัล เขาคิดว่าเหตุการณ์ในวันนั้นน่าจะเป็นการปลดล็อคยีน ในวันนั้นเขาหนาวจนเกือบจะแข็งตาย และก็หมดสติไปในที่สุด
แม้กายหยกจะไม่ได้ดีเท่ากับศาสตร์ตงเสวียน แต่มันก็ยังสามารถปลดล็อคยีนได้ถึง 9 ขั้น มันน้อยกว่าศาสตร์ตงเสวียเพียงแค่ขั้นเดียวเท่านั้น ถ้าความเข้าใจของหานเซิ่นไม่ผิด การที่ฝึกวิชาชี่กงในแต่ละขั้นสำเร็จ จริงๆก็คือการสามารถปลดล็อคยีนในขั้นนั้นได้
แต่ตอนนี้หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกอะไรต่างออกไปเลย นอกจากที่เขาจะสามารถทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลงได้เล็กน้อย และก็ใช้กายหยกได้รวดเร็วขึ้น ดูยังไงหานเซิ่นก็ยังไม่รู้สึกว่าเขาจะสามารถควบคุมพลังของจักรวาลได้เลย นี่มันดูไม่เห็นเหมือนกับคำพูดของคนที่สามารถปลดล็อคยีนได้เลย
เสวียอี้ขวงที่ไม่แม้แต่จะปลดล็อคยีนขั้นแรก แต่เขากับสามารถใช้พลังน้ำแข็งและลดอุณหภูมิในอากาศได้ มันดูเหมือนกับว่าเขาปลดล็อคยีนขั้นแรกได้มากกว่าหานเซิ่นซะอีก
เนื่องจากเขาปลดล็อคยีนขั้นแรกของวิชากายหยกได้แล้ว แต่ผลลัพธ์กับไม่ได้ดีอย่างที่เขาหวังเอาไว้ มันเริ่มทำให้เขาต้องคิดแล้วว่าวิชาที่เขาเรียนมามันถูกต้องรึเปล่า
“หรือว่ามันจะเกี่ยวกับการที่เราไม่ได้ใช้ยาปรับปรุงพันธุกรรมตอนฝึกรึเปล่า?” หานเซิ่นตั้งคำถามกันตัวเอง
นี่เป็นความคิดเดียวที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด แต่ถึงเขาจะไม่มีความสามารถในการควบคุมน้ำแข็ง เขาก็รู้สึกพอใจกับกายหยกของเขาแล้ว โดยเฉพาะคุณสมบัติที่มันเสริมพลังให้กับร่างกาย มันทำให้เขามีความมั่นใจที่จะฝึกศาสตร์ตงเสวียน
หานเซิ่นหลับตา จากนั้นเขาก็ลองบังคับให้เลือดไหลเวียนไปในร่างกาย เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของเขาส่งเสียงออกมาอย่างมีความสุข ถึงมันจะเป็นเวลาแค่ชั่วครู่ ร่างกายของหานเซิ่นก็ใสราวกับคริสตัล ในตอนที่หานเซิ่นกำลังรวบรวมสมาธิ เสียงลมหายใจของเขาก็กลมกลืนไปกับอากาศรอบๆตัวที่ไหลเข้ามาในจมูกของเขา
อัตราการไหลเวียนเลือดในร่างกายของเขาเพิ่มสูงขึ้น แต่มันเป็นอัตราการไหลเวียนที่มีเสถียรภาพ ตอนนี้ทั้งตัวของมันกลายเป็นแม่เหล็ก ประกายแสงกำลังดูดร่างกายของเขาดูดเข้าไป
อัตราการหายใจของหานเซิ่นเริ่มช้าลงเรื่อยๆ ถ้ามีใครบางคนมาสัมผัสที่ใต้จมูกของหานเซิ่นตอนนี้ พวกเขาจะต้องตกใจแน่ เพราะเขาดูเหมือนกับคนที่ไม่หายใจแล้ว
ถึงเขาจะหายใจช้าจนแทบจะเรียกว่าไม่หายใจ แต่เขากับไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายตัวเลย เซลล์ในร่างกายของเขามีพลังอย่างน่าประหลาด มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกลับไปเป็นทารกที่เพิ่งเกิดอีกครั้ง ยิ่งอากาศที่บริสุทธิ์เข้าไปในร่างกาย อาหารที่สกปรกจะถูกขับออกมา ร่างกายของเขาเริ่มโปร่งใสขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ห้องของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นหอมสดชื่น
หลังจากฝึกครบ 1 รอบการฝึกแล้ว หานเซิ่นก็ลืมตาขึ้นมา เขามองไปรอบๆห้อง ตอนนี้เขารู้สึกสบายใจและมีความสุขมาก มันเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์ กลิ่นหอมๆและออร่าของเขาเริ่มหายไป แต่ความรู้สึกที่มีพลังเต็มเปี่ยมยังคงอยู่ เขารู้สึกราวกับว่าเขาพร้อมที่จะบินขึ้นไปบนสวรรค์
“สมแล้วที่เป็นวิชาชี่กงที่สามารถผ่ามิติได้ นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น แต่เรากับรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ทุกเซลล์ในร่างกายของเราสามารถหายใจได้อย่างอิสระ ตอนนี้เราไม่ต้องกลัวว่าจะขาดออกซิเจนแม้จะอยู่ในทะเลลึกก็ตาม” ตอนนี้หานเซิ่นมีความสุขอย่างเหลือล้น
ด้วยพลังของเขาตอนนี้ ในที่สุดเขาก็สามารถออกไปล่ามอนสเตอร์ที่อยู่ใต้ทะเลได้สักที
คอมเม้นต์