อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 551 มือสังหารลุกเดียว
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
หยางม่านลี่รู้สึกเสียขวัญมาก กองทัพของแบล็คก็อตแข็งแกร่งมาก พวกเขามีคนที่มีระดับความแข็งแกร่งเกิน 100 ถึง 7 คน ยังไม่ต้องเอ่ยถึงคนอื่นๆที่เขาพามาด้วยอีก 200 คน พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นนักสู้ฝีมือดี พวกเขาส่งคนมามากเกินไปด้วยซ้ำสำหรับมาตีเมืองอย่างเมืองเทพธิดา
ถ้าหานเซิ่นตั้งใจจะไปยอมจำนน หยางม่านลี่ก็ไม่ว่ารู้เธอควรจะทำยังไงดี เธอทำตัวไม่ถูก
ลุงชิงรู้สึกสับสน ขณะที่เขามองดูหานเซิ่นเดินเข้าไปหาศัตรูด้วยตัวคนเดียว ตอนนี้เขากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
จูถิงขยับถอยหลังออกมา ถ้าเห็นท่าไม่ดี เขาพร้อมที่จะวิ่งหนีตลอดเวลา
จูถิงคิด ‘หานเซิ่น ไม่ใช่เพราะฉันไม่ภัคดีหรอกนะ แต่เพราะศัตรูมีกำลังเยอะเกินไป ฉันจึงจำเป็นต้องหนี เพื่อที่วันข้างหน้าฉันจะได้กลับมาแก้แค้นให้นายได้”
หานเซิ่นกำลังยืนอยู่ห่างจากแบล็คก็อตประมาน 10 เขาพูด “เเบล็คก็อต นายกล้าดียังไงถึงโผล่หน้ามาให้ฉันอีก? ลืมไปแล้วหรอว่านายแพ้ฉันอย่างหมดรูปแค่ไหนในการต่อสู้ครั้งก่อน?”
“การแพ้ไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย คนที่ชนะคนสุดท้ายถึงจะมีสิทธิได้หัวเราะ”
แบล็คก็อตยิ้มเยาะ “ฉันยอมรับว่านายมีฝีมือสูง แต่นี่มันไม่ใช่การดวลแบบตัวต่อตัวอีกแล้ว ถ้านายยอมจำนนตอนนี้ ฉันก็อาจจะไว้ชีวิตนาย แต่ถ้านายไม่คิดจะยอมแพ้ จุดจบของนายก็จะมีแค่ความตายเท่านั้น และคนที่ติดตามนายทั้งหมดก็จะถูกฆ่าด้วย”
“งั้นนายก็คิดจะพึ่งพากำลังของคนที่อยู่ข้างหลังนายอย่างงั้นใช่ไหม?” หานเซิ่นมองไปที่คนจำนวนมากที่อยู่ข้างหลังแบล็คก็อต
“ใช่ ฉันมีคนที่มีระดับความแข็งแกร่งเกิน 100 ถึง 6 คน และนักสู้ฝีมือดีอีก 237 คน พวกเขาล้วนแต่มีระดับความแข็งแกร่งเกิน 60 ยังไงพวกเราก็สามารถกวาดล้างเมืองของนายได้อย่างง่ายดาย” เเบล็คก็อตพูด
หลังจากที่ได้ยิน ก็เกิดเสียงซุบซิบกันภายในเมืองเทพธิดาทันที ลุงชิง หยางม่านลี่และจูถิงต่างก็หน้าซีดทันที ในเมืองตอนนี้นอกจากพวกเขาแล้วก็ไม่มีใครเลยที่พอจะสู้กับคนที่มีระดับความแข็งแกร่งเกิน 60 ได้
ในเมืองเทพธิดา คนที่มีระดับความแข็งแกร่งเกิน 60 มีไม่ถึง 10 คน ส่วนคนที่ระดับความแข็งแกร่งเกิน 100 มีหานเซิ่นคนเดียว
“มีทางเดียวก็คือต้องสู้กันใช่ไหม?” หานเซิ่นพูด
“มาคุกเข่าต่อหน้าฉัน และก็ยอมยกเมืองให้ฉันแต่โดยดี ถ้าทำแบบนั้นฉันจะไว้ชีวิตนาย” เเบล็คก็อตยิ้มขณะพูด
เขาคิดจะไว้ชีวิตหานเซิ่นก่อน เขาต้องการให้หานเซิ่นยอมยกเมืองให้เขาโดยสมัครใจ เพื่อที่เขาจะได้เข้าไปควบคุมเมืองอย่างราบลื่น หลังจากนั้นเขาค่อยฆ่าหานเซิ่นทีหลังก็ยังได้
หานเซิ่นหัวเราะ “ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็น่าเสียดาย”
“น่าเสียดายอะไร?” เเบล็คก็อตถาม
“อีกไม่นานนายก็จะรู้เองว่าคนที่นายหวังพึ่งมันไร้ประโยชน์แค่ไหน มันน่าเสียดายที่นายจะไม่มีโอกาสได้หัวเราะอีกแล้ว” ขณะที่พูด หานเซิ่นก็วิ่งเข้าไปหาแบล็คก็อตทันที
“เขาบ้าไปแล้วหรอ?” คนในเมืองกรีดร้องออกมา ไม่มีใครคาดคิดว่าหานเซิ่นจะวิ่งเข้าไปลุยเดียวกับกองทัพของแบล็คก็อต
อีกฝ่ายมีผู้ที่ระดับความแข็งแกร่งเกิน 100 ถึง 7 คน และระดับความแข็งแกร่งเกิน 60 อีก 237 คน ตอนนี้พวกเขาตั้งรูปขบวนตามหลักพิชัยสงคราม การที่หานเซิ่นวิ่งเข้าไปลุยเดียว มันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการฆ่าตัวตาย
“กล้าดียังไง!” แบล็คก็อตตะโกน เขายกดาบยาวสีดำขึ้นมาเป็นสัญญาณให้คนของเขาเข้าไปฆ่าหานเซิ่นทันที
ในความคิดของแบล็คก็อต สิ่งที่หานเซิ่นทำมันคือการฆ่าตัวตายดีๆนี่เอง เขารู้ดีว่าหานเซิ่นนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ถ้าต้องมาเจอกับกองทัพแบบนี้ ยังไงเขาก็ไม่มีทางสู้ได้
ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ถ้ามาอยู่ในสนามรบขนาดใหญ่ ยังไงก็ต้องแพ้จำนวน หานเซิ่นก็แค่คนคนเดียว แบล็คก็อตเชื่อว่าวันนี้เป็นวันตายของหานเซิ่นแน่
เมื่อเห็นหานเซิ่นวิ่งเข้าไปลุยกับกองทัพของศัตรูเพียงคนเดียว ไม่ใช่แค่แบล็คก็อตเท่านั้นที่คิดว่าหานเซิ่นต้องการฆ่าตัวตาย แต่คนอื่นๆก็คิดเช่นเดียวกัน
“บ้าไปแล้ว ผู้ชายคนนี้ต้องบ้าแน่ๆ!”
“พวกเราควรจะรีบไปเปิดประตู และเตรียมปูพรมแดงให้กับพวกแบล็คก็อต หานเซิ่นไม่รอดแน่”
“ใช่ ไปเปิดประตูกันเถอะ ให้พวกเขาเข้ามา!”
พวกคนในเมืองบางกลุ่มเดินตรงเข้ามาที่ประตูเมือง และพยายามจะเปิดประตู
“ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่เข้ามาใกล้ประตู ได้ยินไหม?!” หยางม่านลี่มองลงมายังพวกที่เข้ามากใกล้ประตู
พวกสมาชิกกลุ่มเทพธิดาที่เฝ้าอยู่หลังประตูหันหลังกลับมา พร้อมกับยกอาวุธของตัวเองขึ้นเตรียมที่จะโจมตีใครก็ตามที่กล้าเข้ามาใกล้ประตู หลังจากเห็นเช่นนั้น พวกคนที่คิดจะเข้ามาเปิดประตูก็เริ่มกลัว พวกเขาหยุด และค่อยๆถอยออกไป
“รองหัวหน้าหยาง! หานเซิ่นกำลังวิ่งเข้าไปสู้กับกองทัพที่มีอาวุธครบมือ ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะต้องไปตายกับเขา พวกเราควรจะเปิดประตูเพื่อที่พวกเขาจะได้ไว้ชีวิตพวกเรา”
“ใช่แล้ว หานเซิ่นไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ แต่พวกเราต้องการ”
“หัวหน้าหานคนเดียวทำอะไรไม่ได้หรอก รองหัวหน้าหยางได้โปรดเปิดประตู”
…
แม้พวกเขาจะไม่กล้าเข้ามาใกล้ประตู แต่พวกเขาก็ยังตะโกนมาที่หยางม่านลี่
“แทนที่จะมากังวลเรื่องงี่เง่าแบบนั้น ทุกคนควรจะกังวลว่าหานเซิ่นจะทำยังไงเกี่ยวกับการกระทำที่สิ้นคิดของพวกนาย หลังจากที่เขาเอาชนะพวกแบล็คก็อตได้แล้ว” หยางม่านลี่พูด
หลังจากที่ได้ยิน พวกเขาก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันที แต่ก็ยังมีคนที่กล้าพูด “รองหัวหน้าหยาง คุณอาจจะตั้งความหวังมากเกินไป กองทัพของแบล็คก็อตแข็งแกร่งมาก คุณคิดว่าเขามีโอกาสชนะงั้นหรอ? คุณกำลังฝันกลางวันอยู่รึไง?”
“ใช่แล้ว คุณจะต้องฝันอยู่แน่ๆ” หลายๆคนเห็นด้วย ส่วนมากก็เป็นพวกที่เคยอยู่ในกลุ่มเทพธิดา แต่ติดสินใจออกจากลุ่มก่อนที่จะเข้าตีเมือง พวกเขาต่างก็ยังเคืองหานเซิ่นอยู่
ที่นอกเมือง หานเซิ่นกำลังวิ่งเข้าไปหากองทัพของแบล็คก็อตด้วยมือเปล่า เขายังไม่ได้เรียกอาวุธวิญญาณอสูรออกมาสักอัน เขาไม่แม้แต่จะสวมชุดเกราะ
ผู้วิวัฒนาการ 6 คนควบสัตว์ขี่เข้ามาต่อสู้กับหานเซิ่นทันที พวกเขาเรียกอาวุธวิญญาณอสูรออกมา และปลดปล่อยพลังทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับหานเซิ่น
แต่หานเซิ่นก็เคลื่อนไหวว่องไวมาก เขาเคลื่อนไหวไปทางซ้าย เพื่อหลบ 2 คนที่อยู่ข้างหน้าเขา หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ผ่านพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว
ผู้วิวัฒนาการอีก 4 คนตื่นตระหนกทันที เมื่อเห็นหานเซิ่นวิ่งเข้ามา พวกเขาพยายามกวัดแกว่งอาวุธของตัวเอง
แต่หานเซิ่นก็รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ความเร็วของเขาเหมือนกับเวทย์มนตร์ ไม่มีใครตามความเร็วของหานเซิ่นทัน ในชั่วพริบตาเขาก็สามารถผ่านพวกเขา 4 คนไปได้
ไม่มีใครคิดว่าหานเซิ่นจะรวดเร็วขนาดนั้น
ผู้วิวัฒนาการที่ระดับความแข็งแกร่งเกิน 100 ถึง 6 คน ไม่มีใครเลยที่หยุดหานเซิ่นได้ ตอนนี้ไม่มีอะไรที่จะหยุดหานเซิ่นในโหมดมือสังหารได้
“เป็นไปไม่ได้!” เเบล็คก็อตช็อค นี่มันเพิ่งจะผ่านไปไม่นาน หลังจากที่พวกเขาสู้กันครั้งก่อน แต่พลังของหานเซิ่นกับเพิ่มขึ้นมาก
คอมเม้นต์