อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 563 พรสวรรค์ในการเป็นผู้นำ
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
เมื่อเห็นหานเซิ่นล่อพวกงูเข้ามาใกล้ พวกเขาก็รูปตั้งท่าเตรียมต่อสู้ทันที
กลุ่มของพวกเขาแต่ละคนล้วนแต่เป็นนักสู้ฝีมือดี พวกเขาบางคนยังทำงานในกองทัพด้วย แต่ถึงบางคนจะไม่ได้อยู่ในกองทัพ แต่พวกเขาก็มีประสบการณ์การต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วน
หลังจากที่พวกเขาตั้งรูปขบวน หานเซิ่นก็แค่ล่อพวกงูเข้าไป ตอนนี้นอกจากงูที่เป็นระดับเลือดศักดิ์สิทธิแล้วยังมีงูตัวอื่นๆอีกมากมาย
เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น หานเซิ่นก็เรียกวิญญาณอสูรเฟอเรทโกสพาวออกมา และเริ่มเปิดฉากโจมตีงูระดับเลือดศักดิ์สิทธิทันที
หานเซิ่นหลบขากรรไกของงูเลือดศักดิ์สิทธิ และโจมตีสวนกลับไปด้วยกรงเล็บ กรงเล็บปะทะกับเกล็ดสีเงินจนเกิดเสียงดัง ผิวหนังและเนื้อของงูหนาอย่างที่คาด แต่กระนั้นการโจมตีของหานเซิ่นก็ยังได้ผล มันสามารถฝากรอยแผล 3 รอยไว้บนตัวของงูเลือดศักดิ์สิทธิได้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นบาดแผลที่ร้ายแรงอะไร
คนอื่นๆที่หานเซิ่นพามาด้วยก็เข้ามาช่วยสู้กับงูเลือดศักดิ์สิทธิเช่นกัน พวกเขารักษารูปขบวนเอาไว้ และเข้าโจมตีงูเลือดศักดิ์สิทธิแบบโอบล้อม
เนื่องจากข้างนอกไม่มีหิมะหนา ทำให้พวกงูระดับอื่นๆไม่สามารถต่อสู้กับกลุ่มคนที่หานเซิ่นพามาได้ แค่เวลาผ่านไปไม่นานพวกงูตัวอื่นๆก็ถูกฆ่าไปเป็นจำนวนมาก ตอนนี้พื้นบริเวณนี้ถูกย้อมด้วยเลือดสีแดง
ตอนนี้งูเลือดศักดิ์สิทธิกำลังเกรี้ยวกราดอย่างหนัก ดูจากความบ้าคลั่งของมันในตอนนี้ ทำให้พวกผู้ติดตามหรือหานเซิ่นเองก็ยังไม่กล้าสู้กับมันแบบตัวต่อตัว
มอนสเตอร์ที่ตัวใหญ่ปรกติจะเกิดมาพร้อมกับพละกำลังอันมหาศาลอยู่แล้ว แถมเกล็ดและหนังของมันยังแข็งและหนามาก ถึงหานเซิ่นและผู้ติดตามจะใช้วิญญาณอสูรกระหน่ำโจมตีมันอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่มีใครทำให้มันบาดเจ็บจริงๆจังๆได้ แต่การกระทำของพวกเขากลับทำให้งูโกรธมากขึ้นอีก
เมื่อเห็นว่างูตัวนี้ทรงพลังมากเหมือนกับปีศาจในเทพนิยาย หานเซิ่นก็รู้สึกว่ากรงเล็บของเขาไม่น่าจะทำอะไรมันได้ เพราะมันสั้นเกินกว่าที่จะเอามาใช้กับงูตัวใหญ่ๆแบบนี้ ถ้ามีอาวุธที่ยาวกกว่านี้ บางทีเขาก็น่าจะมีโอกาส
ตอนนี้หานเซิ่นต้องพึ่งพาคนอื่นๆที่เขาพามาด้วย ถ้าไม่ได้พวกเขา หานเซิ่นก็คิดว่าแทบไม่มีโอกาสที่เขาจะทำอะไรงูเลือดศักดิ์สิทธิได้เลย แถมยังต้องเจอกับงูตัวอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก
“สู้กันต่อไปก่อนเลย ฉันขอพักสักครู่” หานเซิ่นตะโกน ขณะที่เดินออกมาจากจุดที่พวกเขาต่อสู้กัน
หนึ่งในผู้ติดตามของหานเซิ่น หวังเหลี่ยงคิด ‘พวกเรามาที่นี่เพื่อช่วยนายสู้นะโว้ย ตอนนี้พวกเรากำลังสู้เสี่ยงชีวิต แล้วอยู่ๆนายก็เดินออกไปขอพักเนี่ยนะ?’
ขณะที่แอบบ่นหานเซิ่นในใจ อยู่ๆอาวุธวิญญาณอสูรที่เขาถืออยู่ก็ถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวไฟ นกฟินิกซ์สีแดงปรากฏตัวออกมา มันทะยานขึ้นจากตัวของหานเซิ่้น ในชั่วพริบตาเปลวเพลิงของมันก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณนี้
หวังเหลี่ยงสังเกตเห็นว่าอาวุธของเขาและเพื่อนๆมีพลังเพิ่มมากขึ้น
“วิญญาณอสูรที่มีรัศมีทำงานกว้างใหญ่ขนาดนี้ ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นวิญญาณอสูรออร่าเลือดศักดิ์สิทธิของก็อตแซงชัวรี่เขต 2”
วิญญาณอสูรของทั้งทีมมีพลังเพิ่มขึ้นมาก ทำให้พวกเขาต่อสู้ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แรงกดดันที่พวกเขาได้รับก่อนหน้านี้ดูจะเบาบางลงไป
หลังจากที่หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรนกทะเลทรายออกมา เขาก็ยืนดูการต่อสู้ของพวกผู้ติดตามต่อไป เขาจับตาดูการต่อสู้อย่างละเอียด
ในกลุ่มของพวกเขา 10 คน มี 7 คนใช้อาวุธระดับเลือดศักดิ์สิทธิ ส่วนอีก 3 คนใช้อาวุธหนักประเภทค้อนและขวานขนาดใหญ่
แม้อาวุธของพวกเขาจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น แต่เกล็ดของงูก็แข็งมาก พวกเขายังไม่สามารถทำให้มันบาดเจ็บหนักๆได้
“มันก็แค่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ ไม่มีทางไร้เทียมทาน มันจะต้องมีจุดอ่อนอยู่ตรงไหนสักแห่งแน่” หานเซิ่นจับตาดูการเคลื่อนไหวของมันอย่างละเอียด
แต่จุดอ่อนของมันก็ยังไม่ปรากฏออกมาเลย เกล็ดแข็งๆของมันสามารถรับการโจมตีจากผู้วิวัฒนาการทั้ง 10 ได้ ด้วยพลังป้องกันระดับนั้น มันไม่จำเป็นจะต้องเคลื่อนไหวหลบอะไรเลย มันสามารถยืนรับการโจมตีได้สบายๆ
ปัง!
ผู้วิวัฒนาการคนหนึ่งไม่สามารถหลบได้ทัน เขาถูกหางของงูฟาดเต็มๆ ทำให้เขาถูกส่งลอยกระเด็นไปไกลถึง 10 เมตร มีเลือดไหลออกมาจากปาก แต่อาการบาดเจ็บก็ยังไม่ถึงตาย ไม่นานเขาก็ลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้ง
หานเซิ่นเข้าไปเติมตรงตำแหน่งของคนที่ได้รับบาดเจ็บ
“หัวหน้า! เกล็ดของมันแข็งมาก เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเราจะฆ่ามันได้! ทำไมพวกเราไม่ถอนก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี?” หวังเหลี่ยงตะโกน ขณะที่กำลังต่อสู้
หานเซิ่นเองก็มีความคิดแบบเดียวกัน ตอนนี้คนอื่นๆเริ่มล่าถอยออกมา ดูเหมือนงูเลือดศักดิ์สิทธิจะยังไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรที่ดูรุนแรงเลย ความหวังที่พวกเขาจะชนะแทบไม่มีเลย
การกลัวหรือการสิ้นหวังในสนามรบนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเราอ่อนล้า หรือได้รับบาดเจ็บในสนามรบ แต่ถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายอีกก็ได้รับความเสียหายพอๆกับเรา มันก็พอจะเห็นโอกาสที่จะชนะ แต่ทว่าตอนนี้งูเลือดศักดิ์สิทธิดูจะไม่ได้รับความเสียหายเลย ทำให้ความหวังของพวกเขาหมดลง
หานเซิ่นไม่ตอบสนองพวกเขา เขายังคงสู้กับงูเลือดศักดิ์สิทธิต่อไป ขณะเดียวกันเขาก็จับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของมัน
เขาต้องรอคอยโอกาส ถ้าเขารอนานมากพอ พิษจากกรงเล็บก็น่าจะออกฤทธิ์ แต่ดูจากตอนนี้ท่าทางของงูยังไม่เปลี่ยนไปเลย ดูเหมือนพิษจะใช้ไม่ได้ผล นี่เป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่หานเซิ่นเคยเห็น
‘เนื้อและกระดูกของมันแข็งมาก ถึงเราจะใช้พลังหยิน มันก็อาจจะไม่ได้ผล บางทีเราอาจจะต้องใช้พลังหยินไปที่หัวของมัน เพื่อเล่นงานสมองของมันโดยตรง’ หานเซิ่นคิด
ถ้าเขาพยายามจะโจมตีที่หัวของงูจริงๆ นี่จะเป็นการโจมตีที่เสี่ยงมากๆ ถ้าผิดพลาดแค่นิดเดียวอาจจะถูกมันกัดได้ ขากรรไขของงูตัวนี้ทรงพลังมาก ถ้าโดนมันกัดสักครั้งก็น่าจะรอดยาก ยังไม่รวมถึงพิษที่ทำให้เป็นอัมพาต
ปัง!
ผู้วิวัฒนาการถูกส่งกระเด็นไปอีกคน มันเป็นการฟาดหางที่ทรงพลังจริงๆ ถึงจะใช้อาวุธเลือดศักดิสิทธิป้องกันแล้วก็ตาม แต่ดาบที่เขาเอามาป้องกันก็ถึงกับงอไปเลย
“หัวหน้า เราต้องถอยก่อน! พวกเราฆ่ามอนสเตอร์ตัวนี้ไม่ได้” มีเสียงหนึ่งในพวกเขาตะโกนขึ้นมา
หานเซิ่นตอบ “สู้ต่อไปเรื่อยๆ! ใครที่ขัดคำสั่งก็อย่าเสนอหน้ากลับมาที่เมืองอีก”
“หวังเหลี่ยงเคลื่อนไปที่ไปทางซ้าย 3 เมตรและโจมตีจากทิศทางนั้น! จ้าวเฉียงเคลื่อนที่ไปด้านขวาอีก 2 เมตร และเข้าไปโจมตีจากด้านขวา” หานเซิ่นสั่งการ
หวังเหลี่ยงไม่มีทางเลือกอื่น เขาจำต้องทำตามคำสั่งของหาเซิ่น พวกเขา 2 คนทำตามที่หานเซิ่นสั่งโดยหวังว่าหัวหน้าของเขาอาจจะทำสำเร็จ
รูปขบวนการต่อสู้ของพวกเขาเป็นผลมาจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก ซึ่งมันสมบูรณ์แบบสำหรับพวกเขา พวกเขาไม่คิดว่าถูกสั่งให้เปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ ในความคิดของพวกเขาไม่ว่าหานเซิ่นจะฉลาดขนาดไหน พวกเขาก็ไม่คิดว่าหานเซิ่นจะสามารถจัดรูปแบบการต่อสู้ให้ดีกว่าที่พวกเขาฝึกซ้อมกันมา
แต่หานเซิ่นคิดต่างออกไป มุมมองของเขา คนพวกนี้ก็เหมือนกับตัวหมากบนกระดานหมากรุก ด้วยพรสวรรค์พรของหานเซิ่น บวกกับที่เขาฝึกศาสตร์ตงเสวียน เขาจึงสามารถสั่งการทุกคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในตอนที่หานเซิ่นออกไปยืนดูการต่อสู้ เขาไม่ได้แค่สังเกตจุดอ่อนของงูเลือดศักดิ์สิทธิเท่านั้น แต่เขายังสังเกตความสามารถและทักษะของแต่ละคนในทีมด้วย
ในตอนแรก หวังเหลี่ยงตั้งจำใจฟังคำสั่งหานเซิ่น แต่ไม่นานความคิดของเขาก็ต้องเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับคนอื่นๆในทีม ตอนนี้ตำแหน่งการยืนใหม่ของพวกเขา ทำให้พวกเขาต่อสู้ได้ง่ายขึ้นมาก พวกเขารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น และตอนนี้ก็ไม่มีใครถูกงูฟาดใส่อีกเลย
พวกเขาเริ่มชื่นชมหานเซิ่น พวกเขาเองเคยเป็นทหารมากก่อน พวกเขาคุ้นเคยกับคำสั่งแบบนี้ดี เมื่อเห็นผลลัพธ์เช่นนี้ พวกเขาก็รู้ดีว่าหานเซิ่นมีพรสวรรค์มากแค่ไหน พวกเขายังไม่เคยเจอคนที่สั่งการได้ดีขนาดนี้มาก่อน หานเซิ่นสั่งการได้อย่างสงบเยือกเย็นมาก มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ
คอมเม้นต์