อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 565 วิชาลับของอีตงมู่
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
หานเซิ่นใช้คริสตัลสีดำกับวิญญาณอสูรอสรพิษเนตรเงิน จากนั้นเขาก็พาจิ้งจอกสีเงินกลับมาพร้อมกับเขาด้วย ในระหว่างทางหานเซิ่นเจอผู้คนมากมาย และเขาก็ต้องเดินผ่านทุกคนไปอย่างเป็นกังวล เขาอุ้มจิ้งจอกสีเงินไว้แน่น เขากลัวว่ามันอาจจะไปทำร้ายคนอื่นๆได้ แต่โชคดีที่มันไม่ได้มีพฤติกรรมก้าวร้าวอะไร มันดูเป็นมอสเตอร์ที่สงบมาก
หานเซิ่นรู้สึกเบาใจขึ้นมาได้บ้าง อย่างน้อยๆตอนนี้พฤติกรรของจิ้งจอกสีเงินก็ไม่เหมือนกับมอนสเตอร์ตัวอื่นๆที่จะโจมตีมนุษย์ทุกคนที่เห็น
หลังจากกลับมาที่ปราสาทคริสตัล จิ้งจอกสีเงินก็ทำเหมือนปรกติ มันอยู่อย่างสงบ แม้แต่มันจะถูกซีโร่กอดเอาไว้ มันก็ยังดูสงบและเชื่องมาก
ยิ่งหานเซิ่นมองดูมัน เขาก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ ถ้าเขาไม่ได้เห็นจิ้งจอกสีเงินตัวนี้ออกมาจากไข่ เขาจะไม่มีทางเชื่อเลยว่ามันคือมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด เขาคงจะคิดว่ามันเป็นแค่สัตว์ป่าธรรมดาด้วยซ้ำ
เขาสัมผัสจิตสังหารจากตัวมันไม่ได้เลย มันดูเหมือนกับจิ้งจอกทั่วๆไปในสหพันธ์ดวงดาวไม่มีผิด
อสรพิษเนตรงเงินระดับโบราณ กลายพันธ์และเลือดศักดิ์สิทธิถูกแบ่งให้กับหานเซิ่นและคนอื่นๆที่ไปช่วยกันล่า พวกเขาแต่ละคนได้จำนวนเนื้อที่เท่าๆกัน เพื่อเป็นการซื้อใจคนอื่นๆ ถ้าเกิดต้องการล่าในอนาคตหานเซิ่นจะสามารถพึ่งพาพวกเขาได้
หานเซิ่นเอาเนื้ออสรพิษเนตรเงินมาทำเป็นอาหารทันที หลังจากที่เขากินจนอิ่มแล้ว เขาก็มอบส่วนที่เหลือให้กับอาร์คแองเจิล
อสรพิษเนตรเงินเลือดศักดิ์สิทธิมีขนาดใหญ่เกินไป ถึงเขาจะกินมันตลอดทั้ง 1 เดือน เขาก็ยังไม่มั่นใจว่าจะได้สัก 1 จีโนพ้อยรึเปล่า เนื่องจากมันไม่แน่นอน หานเซิ่นเลยไม่อยากจะเสียเวลากินมัน
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็จัดการล่ามอนสเตอร์ขึ้นอีก 2-3 ครั้ง โดยมีมอนสเตอร์ระดับเลือดศักดิ์สิทธิเป็นเป้าหมาย แต่โชคร้ายที่การล่าของพวกเขาไม่สำเร็จ เพราะแต่ละตัวมันล่าได้ยากจริงๆ
แต่ถึงพวกเขาจะล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิไม่สำเร็จ แต่ความเคารพที่หวังเหลี่ยงและคนอื่นๆมีต่อหานเซิ่นก็มากขึ้น พวกเขาอาจจะล่าเป้าหมายไม่สำเร็จก็จริง แต่พวกเขาก็ไม่ได้สูญเสียความมั่นใจ ระหว่างทางพวกเขาก็ยังล่ามอนสเตอร์กลายพันธ์ได้บ้าง
ความสนุกระหว่างการเดินทางออกล่า ทำให้พวกเขารู้สึกว่าการอยู่ใต้คำสั่งของหานเซิ่นนั้นรู้สึกสนุกและผ่อนคลายกว่าตอนอยู่กับแบล็คก็อตมาก ด้วยพรสวรรค์ในการเป็นผู้นำที่ดี ทำให้ความศรัทธาในตัวหานเซิ่นของพวกเขาก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
หานเซิ่นไม่เอาจิ้งจอกไปออกล่าด้วย เขาให้มันอยู่ที่ปราสาทคริสตัล หลังจากการล่าแต่ละครั้ง เขาก็จะกลับมาหามัน มันเป็นมอนสเตอร์ที่สุภาพและเป็นมิตรมาก มันไม่เหมือนกับอะไรที่เขาเคยเจอมาก่อน
แต่เมื่อหานเซิ่นลองพาจิ้งจอกสีเงินออกไปล่าด้วย ผลปรากฏว่าไม่ว่าเขาจะออกเดินทางไปไกลขนาดไหน มันก็เป็นการล่าที่สิ้นหวัง เพราะไม่มีแม้แต่เงาของมอนสเตอร์กล้าเข้ามาใกล้เลย
แม้มนุษย์จะไม่รู้สึกอะไรเมื่ออยู่ใกล้ๆจิ้งจอกสีเงิน แต่สำหรับพวกมอนสเตอร์แล้วการรับรู้ของพวกมันจะดีกว่ามนุษย์มาก พวกมันจะสัมผัสได้ถึงอันตรายจากมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งจากระยะไกล
ยิ่งระดับของมอนสเตอร์สูงเท่าไหร่ มอนสเตอร์ตัวอื่นๆก็จะยิ่งระวังและไม่กล้าเข้าใกล้มันมากขึ้น ซึ่งมันทำให้หานเซิ่นผิดหวังมาก ถึงเขาจะไม่ต้องการ แต่เขาก็จะต้องทิ้งจิ้งจอกสีเงินไว้ที่ปราสาทคริสตัลในตอนที่เขาจะไปออกล่า
ในตอนนี้หานเซิ่นกลับมายังเมืองที่เมื่อก่อนเคยถูกเรียกว่าเมืองแบล็คก็อต เพราะเขาได้รับรายงายมาว่ามีคนมาขอพบ
หานเซิ่นเดินทางมาถึง เขาก็ต้องประหลาดใจ เพราะคนคนนั้นคืออีตงมู่ หานเซิ่นไม่เห็นหน้าเขามาสักพักแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนอาการบาดเจ็บของเขาจะหายสนิทแล้ว บนร่างของเขาไม่มีบาดแผลปรากฏให้เห็นอีกต่อไป
“นายไม่จำเป็นต้องมาขอบคุณฉันหรอก ฉันก็แค่ช่วยเพราะว่าอยากช่วย แน่นอนว่าถ้านายต้องการจะให้รางวัลฉันจริงๆ ฉันก็ยินดีที่จะรับเงินสัก 2-3 พันล้านดอลลาร์” หานเซิ่นพูด
อีตงมู่ตอบอย่างสงบ “นายยังมีหน้ามาของฉันอีกหรอ? ถ้านายไม่เล่นลูกไม้กับฉัน ฉันก็คงไม่ต้องเจ็บหนักขนาดนั้น”
“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูพก เพราะตอนแรกฉันก็พยายามหยุดนายแล้ว แต่นายดันเข้าใจผิดไปเอง หลังจากจิ้งจอกเกิดขึ้นมา นายก็วิ่งเข้าไปใส่มันเอง นั่นมันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน” หานเซิ่นพูด
“ตอนมันเกิดมา อย่ามาบอกนะว่านายไม่มีความคิดที่จะเข้าไปโจมตีมันเหมือนกัน? ถ้าฉันไม่เข้าไปเปิดก่อน คนที่จะโดนมันเล่นงานก็คือนาย” อีตงมู่มองหน้าหานเซิ่น เขาเชื่อจริงๆว่าหานเซิ่นเองก็ต้องการจะเข้าไปโจมตีจิ้งจอกสีเงินเหมือนกัน
แต่ความเป็นจริงแล้วหานเซิ่นไม่ต้องการจะเข้าไปโจมตี แต่เขาถอยหลังกลับมา
“ไม่” หานเซิ่นปฏิเสธ
อีตงมู่ไม่พูดถึงเรื่องนี้มากไปกว่านี้ เขามองหานเซิ่นและเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นแทน “นายมีเวลาว่างไหมล่ะ ถ้านายมากับฉัน นายจะได้รับเงินแบบง่ายๆ สนใจไหม?”
“แน่นอน แล้วมันเป็นงานแบบไหน? ถ้ามันเสี่ยงก็ไม่ต้องพูด ฉันไม่อยากฟัง” หานเซิ่นพูด
“มันไม่เสี่ยง นายเองก็มีพรสวรรค์ด้านการลอบสังหารใช่ไหม?” อีตงมู่พูด เขามองหานเซิ่นต้องแต่หัวจรดเท้า
“ก็พอได้” หานเซิ่นพูด
“ถ้านายเป็นคนฆ่าแบล็คก็อตจริงๆอย่างที่เขาลือกัน มันก็คงไม่ใช่’ก็พอได้’แล้ว ฉันอยากจะฝึกวิชาไฮเปอร์จีโน ถ้านายมาเป็นคู่ซ่อมให้ฉัน ฉันจะจ่ายค่าตอบแทนให้นาย” อีตงมู่อธิบายอย่างตรงไปตรงมา
“ทำไมต้องเป็นฉัน?” หานเซิ่นถามด้วยความสงสัย
“ก็เพราะนายมีความสามารถในการลอบโจมตีเหมือนกับฉัน และความแข็งแกร่งของนายมันก็ไม่ธรรมดาด้วย” อีตงมู่พูด
“เข้าใจพูดดี ฉันชอบคนที่พูดอย่างตรงไปตรงมาแบบนาย และแน่นอนว่าฉันสามารถเป็นคู่ซ่อมให้นายได้ แต่ฉันก็ขอพูดอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกัน ฉันต้องบอกก่อนว่า ค่าตัวของฉันมันไม่ถูกหรอกนะ”
หานเซิ่นก็สงสัยเกี่ยวกับวิชาไฮเปอร์จีโนที่อีตงมู่กำลังจะฝึกเหมือนกัน
พวกเขา 2 คนมีสไตล์ที่คล้ายๆกัน ถ้าอีตงมู่อยากจะฝึกวิชานั้น แสดงว่ามันมีประโยชน์ต่อคนที่ถนัดลอบโจมตี ซึ่งมันก็ควรจะมีประโยชน์กับเขาด้วยเช่นกัน
“ปัญหาที่แก้ได้ด้วยเงิน สำหรับฉันมันไม่เรียกว่าปัญหา” อีตงมู่พูด
อีตงมู่รวยพอที่จะพูดคำพูดนี้ออกมา แม้หานเซิ่นจะเรียกค่าตัวสูงจริงๆ อีตงมู่ก็สามารถตอบตกลงได้โดยไม่ต้องคิด เขาไม่เคยต่อลองราคากับหานเซิ่น
หานเซิ่นพาอีตงมู่ไปที่สนามซ้อมในเมืองแบล็คก็อต เขาอยากจะรู้จริงๆว่าวิชาที่อีตงมู่อยากจะฝึกเป็นวิชาแบบไหน
อีตงมู่ยังคงใช้มีดสั้นเป็นอาวุธประจำตัว การโจมตีด้วยมีดของเขายากจะคาดเดาและไร้ร่องรอย เห็นได้ชัดเลยว่าเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการเป็นนักฆ่าจริงๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่หานเซิ่นเจอเขา หานเซิ่นก็มั่นใจว่าอีตงมู่จะต้องพัฒนาขึ้นอีกมากในอนาคต
สิ่งที่อีตงมู่กำลังฝึกอยู่มันเป็นวิชาที่ใช้การฟันอย่างรวดเร็ว พลังและความเร็วที่ใช้มันเหมือนกับการจุดระเบิดในเสี้ยววินาที มันเกือบจะเป็นวิชาที่คล้ายๆกับมีดทอร์นาโด
อีตงมู่มีความแข็งแกร่งสูงมากอยู่แล้ว ยิ่งเขาใช้วิชานี้ ทำให้การฟันแต่ละครั้งของเขารวดเร็วและรุนแรงมาก
“เป็นวิชาที่ทรงพลังมาก” หานเซิ่นขยับถอยหลังมา เเละหลบมีดของอีตงมู่ หานเซิ่นเองก็มีพรสวรรค์ในการเป็นนักฆ่า แถมเขายังเป็นคนที่มีความรู้สึกไวด้วย ซึ่งมันทำให้เขารับรู้ก่อนล่วงหน้าว่าการโจมตีจะมาจากตรงไหน ถ้าเป็นคนอื่นๆคงจะถูกมีดของอีตงมู่แทงเข้าที่ท้องไปแล้ว
“ฉันยังต้องฝึกอีกมาก” อีตงมู่ยังไม่พอใจกับวิชาของเขาตอนนี้ เขาฝึกซ้อมกับหานเซิ่นอย่างหนัก
หานเซิ่นเคยเจอคนที่ชื่นชอบการต่อสู้มามาก แต่เขายังไม่เคยเจอใครที่ฝึกซ้อมอย่างบ้าคลั่งแบบอีตงมู่มาก่อน
ถ้าหานเซิ่นไม่ขอหยุดพักเพื่อกินอาหารในแต่ละมื้อ เขาคิดว่าอีตงมู่ก็คงจะฝึกซ้อมกับเขาทั้งวันทั้งคืนแน่
จากที่หานเซิ่นเห็น เขาก็พบว่าการโจมตีของอีตงมู่มันรุนแรงและรวดเร็วมากแล้ว คงมีผู้วิวัฒนาการไม่กี่คนที่สามารถหลบการโจมตีของเขาได้ แต่กระนั้นอีกตงมู่ก็ยังไม่รู้สึกพอใจ
“ทำไมนายถึงต้องพยายามมากขนาดนั้น? นายอยากจะเป็นยอดฝีมือด้านการใช้มีดรึไง?” มันช่วยไม่ได้ที่หานเซิ่นจะต้องเอ่ยถามในขณะที่เขากินอาหาร
“ฉันจำเป็นต้องทำแบบนี้เพื่อที่ฉันจะได้มีโอกาสเอาชนะดอลลาร์ได้ ฉันต้องทำให้วิชานี้สมบูรณ์แบบ” อีตงมู่พูดอย่างเคร่งขรึม
หานเซิ่นเกือบจะพ่นข้าวออกมาจากปาก เหตุผลว่าทำไมอีตงมู่ถึงพยายามมากขนาดนี้เป็นเพราะเขาต้องการเอาชนะหานเซิ่นให้ได้
หานเซิ่นมองอีตงมู่ด้วยความสงสัย เขารู้สึกสงสารอีตงมู่ขึ้นมาจริงๆ เขาคิด ‘นายสามารถหาคนอื่นมาเป็นคู่ซ้อมได้แท้ๆ แต่ดันมาให้ฉันเป็นคู่ซ้อม ตอนนี้วิชาลับของนาย ฉันก็รู้หมดแล้ว ไม่ว่านายจะฝึกหนักแค่ไหน นายก็ไม่มีวันเอาชนะฉันได้ อีตงมู่’
คอมเม้นต์