อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 602 ความสามารถที่ทรงพลัง
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
หานเซิ่นวิ่งแค่ไม่กี่ก้าว เขาก็สามารถไปได้ไกลหลายสิบเมตร ตอนนี้เขาเกือบจะไปถึงตัวตะกวดแล้ว
หานเซิ่นใช้โหมดปลดล็อคยีนเรียบร้อยแล้ว ด้วยความสามารถใหม่ หานเซิ่นสามารถสัมผัสได้ทันทีว่ามอนสเตอร์กำลังจะหันมาทางเขา หลังจากที่มันหันมา เขาก็รู้ได้อีกว่ามันจะใช้ลิ้นยาวๆแหลมๆของมันแทงเขา
นี่เป็นความสามารถที่มหัศจรรย์มาก หานเซิ่นรู้สึกเหมือนกับว่าเขาสามารถคาดการณ์ได้ทุกอย่าง
หานเซิ่นกระโดดขึ้นไปบนอากาศ และใช้เหยียบเมฆาเพื่อหลบลิ้นที่มีพิษของตะกวด หลังจากนั้นดาบสีเงินก็ปรากฏในมือของเขา เขาใช้มันตัดหัวของตะกวด
ผมลัพธ์นี้มันยิ่งกว่าที่เขาคาดเอาไว้ หัวของตะกวดลอยขึ้นไปบนอากาศ ดาบของเขาฟันมันขาดได้ง่ายๆเหมือนกับฟันเนย มันทำให้หานเซิ่นต้องตั้งข้อสงสัยว่ามันเป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิจริงๆหรอ?
“ตะกวดภูเขาเลือดศักดิ์สิทธิถูกฆ่า ไม่ได้รับวิญญาณอสูร เมื่อกินเนื้อของมัน คุณมีโอกาสได้รับ 0-10 จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ”
แต่เสียงที่ได้ยินมันยืนยันคำพูดของจูถิง มอนสเตอร์ตัวนี้เป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิจริงๆ
ตอนนี้แม้แต่ตัวหานเซิ่นเองก็ต้องตกใจ หลังจากที่เขาปลดล็อคยีนได้แล้ว ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด มันไม่ใช่แค่ประสาทสัมผัสอย่างเดียวที่เพิ่มขึ้น
ตอนนี้แม้แต่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิก็ไม่คนามือเขา เขาสามารถฆ่ามันได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยความสามารถอันทรงพลังนี้
จูถิงที่รออยู่ข้างล่างยืนตัวแข็งทื่อ เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ถึงเขาจะเคยเห็นเรื่องมหัศจรรย์ของหานเซิ่นมาบ่อยครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เขาก็ยังช็อค เมื่อเห็นหานเซิ่นฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิได้ง่ายๆแบบนั้น สำหรับเขา ตอนนี้หานเซิ่นเหมือนไม่ใช่มนุษย์แล้ว
ตุบ!
ร่างของตะกวดภูเขาถูกหานเซิ่นเตะกระเด็นลงไปข้างล่าง ใกล้ๆจุดที่จูถิงยืนอยู่ ทำให้จูถิงหายจากอาการช็อค
“บ้าเอ้ย ผมบอกให้คุณมาช่วยผมเฉยๆ ไม่ได้บอกให้คุณฆ่ามัน! คุณได้วิญญาณอสูรรึเปล่า?”
“โทษที ฉันไม่ได้ระวังเอง ฉันยังไม่ค่อยชินกับความแข็งแกร่งของตัวเองเท่าไหร่” หานเซิ่นยิ้มพร้อมกับกล่าวขอโทษ จากนั้นเขาก็พูดต่อ
“ฉันไม่ได้วิญญาณอสูร ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวฉันจะช่วยนายหามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวอื่น ครั้งนี้ฉันจะให้นายเป็นคนโจมตีปิดฉาก โอเคไหม?”
จูถิงสงบลงหลังจากที่ได้ยินคำพูดของหานเซิ่น แต่เขาก็ยังไม่เชื่อหานเซิ่นสนิทใจ เขาต้องถามย้ำเป็นครั้งที่ 2
“คุณไม่ได้วิญญาณอสูรแน่นะ?”
“ฉันหานเซิ่น ขอสาบานต่อฟ้าว่าฉันไม่ได้วิญญาณอสูรจริงๆ ฉันถ้าโกหกของให้สวรรค์ลงโทษ” หานเซิ่นสาบานเสียงดัง
“ถึงกับสาบานเลยหรอ? แล้วคุณคิดว่าผมจะเชื่องั้นหรอ? มีใครตายเพราะคำสาบานบ้างล่ะ? คุณลองเปลี่ยนคำสาบานใหม่ เอาเป็นถ้าโกหกขอให้เป็นโสดตลอดชีวิตน่าจะฟังดูเข้าท่ากว่า” จูถิงพูด
หานเซิ่นทำตามที่จูถิงขอ เขายอมสาบานใหม่ เพื่อให้จูถิงสบายใจ หลังจากนั้นพวกเขาก็ขนซากของตะกวดกลับเมืองโดยใช้สัตว์ขี่
“ผมขอถามตรงๆเลยนะ คุณทำแบบนั้นได้ยังไง? คุณเพิ่งจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ได้ประมาน 1 ปี ทำไมคุณถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ คุณปลดล็อคยีนได้แล้วรึยัง?” ระหว่างทางกลับจูถิงเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย
“การปลดล็อคล็อคไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น” หานเซิ่นตอบจูถิงไปทันที แต่จูถิงก็ยังไม่เชื่อที่หานเซิ่นพูดอย่างสนิทใจ เขายังคงคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะหานเซิ่นเพิ่งจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ได้ไม่นาน ระยะเวลามันสั่นเกินไปสำหรับการปลดล็อคยีน
หลังจากกลับมาที่เมืองเทพธิดา หานเซิ่นก็กลับไปที่ห้องของเขาทันที จากนั้นเขาก็เห็นเงาของผู้หญิงนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องของเขา
แม้หานเซิ่นจะเห็นแค่เงา เขาก็รู้ทันทีว่าหล่อนคือควีน เธอดูพิเศษกว่าคนอื่นๆ สาวสวยแบบนี้ยากที่เขาจะลืมได้ แม้จะเป็นแค่เงาของเธอก็ตาม
หานเซิ่นไม่คิดว่าควีนจะได้รับข่าวจากหวงฟูผิงชิง และเดินทางมาหาเขาเร็วขนาดนี้ มันเหมือนกับว่าเธอเฝ้าจับตาดูเขาตลอดเวลา และอยากจะให้เขาไปเข้าร่วมทีมจริงๆ
“ผิงชิงบอกว่านายเปลี่ยนใจจะเข้าร่วมทีมกับฉันแล้วใช่ไหม?”
ควีนวางหนังสือลง และหันมาหาหานเซิ่น
“ใช่” หานเซิ่นพยักหน้า
“อะไรที่ทำให้นายเปลี่ยนใจเร็วขนาดนี้?” ควีนถาม
“ผมไปนั่งคิดนอนคิดมาหลายวัน ด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิที่เกือบจะเต็มแล้ว ผมก็คิดว่ามันเป็นโอกาสดีที่จะไปล่ามอนสเตอร์ที่คุณบอกว่าอยู่เหนือกว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ หลังจากที่คิดดูอย่างถี่ถ้วนแล้ว ผมจึงตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมทีมกับคุณ” หานเซิ่นพูด
“หลังจากเข้าร่วมทีม นายจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำอะไรตามอำเภอใจ เรื่องนี้นายคงรู้ นายจะต้องฟังคำสั่งของฉัน มอนสเตอร์พวกนั้นอันตรายมาก แม้แต่คนที่ปลดล็อคยีนได้แล้วยังถูกฆ่าได้ในพริบตา” ควีนพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“ผมเข้าใจ” หานเซิ่นพยักหน้า
“แต่มีบางอย่างที่ผมอยากจะบอกคุณไว้ก่อน สัตว์เลี้ยงของผมมีความสามารถพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง มอนสเตอร์ตัวอื่นๆที่อยู่ในรัศมีรอบๆมันจะถอยหนีไปจนหมด ผมไม่แน่ใจว่ามันจะมีผลกับมอนสเตอร์ที่เหนือกว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิรึเปล่า และที่สำคัญที่สุดสัตว์เลี้ยงของผมจะไม่โจมตีพวกมอนสเตอร์”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันจะทำให้มอนสเตอร์ตัวอื่นหนีไป ที่ฉันหวังพึ่งมันก็คือความสามารถนี้อยู่แล้ว” ควีนพูด
“เดี๋ยวก่อน ตกลงคุณต้องการอะไรกันแน่?” หานเซิ่นถาม
“มีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งอยู่มากมายรอบๆมอนสเตอร์ที่เป็นเป้าหมายของเรา ถึงเราะจะไม่ได้กลัวมอนสเตอร์พวกนั้น แต่การต่อสู้กับพวกมันไปพร้อมๆกับมอนสเตอร์ที่อยู่เหนือกว่าเลือดศักดิ์สิทธิ เป็นอะไรที่หนักเกินไป ถ้ามีสัตว์เลี้ยงของนายอยู่ด้วย พวกเราก็ไม่ต้องห่วงว่ามอนสเตอร์ตัวอื่นจะเข้ามายุ่งด้วย พวกเราจะเพ่งสมาธิกับเป้าหมายได้เต็มที่”
ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้วว่าทำไมควีนถึงอยากให้เขาเข้าร่วมทีมใจจะขาด
“คืนนี้นายลองคิดดูให้ดีๆอีกครั้ง ถ้าแน่ใจแล้วพรุ่งนี้นายค่อยไปกับฉัน วันนี้ฉันแค่ผ่านมาที่นี่ ส่วนแผนการล่ามอนสเตอร์ที่เป็นเป้าหมาย ฉันเตรียมไว้แล้ว ถ้านายมากับฉัน ฉันจะพานายไปแนะนำให้คนอื่นในทีมรู้จัก ถ้าพวกเขาไม่มีปัญหาอะไร พวกเราจะให้นายเป็นสมาชิกคนใหม่” ควีนพูด
“เดี๋ยวก่อน คุณไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดหรอ?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
“เมื่อฉันสร้างทีมขึ้นมา พวกเราก็ตั้งกฎเอาไว้ด้วย การรับสมาชิกใหม่จะใช้ระบบโหวต ถึงฉันจะเป็นหัวหน้าทีม แต่ก็ไม่มีสิทธิฝ่าฝืนกฎ”
“ไม่มีปัญหา” หานเซิ่นพูด
วันรุ่งขึ้น หานเซิ่นจัดการเรื่องการบริหารดูแลเมืองทั้งหมด จากนั้นเขาก็อุ้มจิ้งจอกสีเงิน และตามควีนเดินทางออกไปจากทุ่งน้ำแข็ง
ด้วยการมีจิ้งจอกสีเงินร่วมเดินทางมาด้วย จึงไม่มีมอนสเตอร์เข้ามาก่อกวนพวกเขาขณะเดินทาง ไม่นานพวกเขาก็มาถึงบริเวณใกล้ๆกับมหาสมุทร จากนั้นควีนก็เรียกวิญญาณอสูรที่เหมือนกับวาฬออกมา และใช้มันเดินทางต่อพร้อมกับหานเซิ่น
จิ้งจอกสีเงินมหัศจรรย์มาก ไม่มีมอนสเตอร์แม้แต่ตัวเดียวเข้ามาก่อกวนการเดินทางของพวกเขา ซึ่งทำให้ควีนรู้สึกพอใจมาก ตอนนี้แม้แต่เธอก็มองจิ้งจอกด้วยสายตาที่เอ็นดู
แต่หานเซิ่นกับไม่ค่อยพอใจหนัก เพราะการปฏิบัติของเธอที่มีต่อเขามันต่างจากจิ้งจอกมาก เธอไม่เคยพูดกับเขาแม้แต่คำเดียวในขณะที่เดินทาง เธอมักจะมองหานเซิ่นด้วยแววตาที่เย็นชาตลอด
หานเซิ่นเข้าใจว่าเธอคงจะยังโกรธเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น เขาจึงหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับเธอ เพราะเขาไม่อยากให้มีความตรึงเครียดระหว่างการเดินทาง
พวกเขาเดินทางในทะเลกว่า 2 วัน ในที่สุดพวกเขาก็เห็นเกาะสีดำแห่งหนึ่งอยู่ไกลออกไป ควีนมุ่งหน้าตรงไปที่เกาะนั้นทันที เห็นได้ชัดว่าที่นั่นคือจุดหมายปลายทาง
คอมเม้นต์