อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 620 ฉันจะติดตามนาย
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
หลังจากคุยกับจูถิงเสร็จ หยางม่านลี่ก็โทรมาเช่นเดียวกัน เขาคุยกับเธออยู่สักพัก เขาบอกให้เธอเตรียมตัวให้พร้อมไว้ แต่อย่าเพิ่งทำอะไรให้รอให้เขากลับไปถึงก่อน
ในตอนนี้หานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากจุดที่เขาอยู่ตอนนี้อยู่ใกล้ๆหาดหินขาว การจะกลับไปที่ทุ่งน้ำแข็งไม่ใช่เรื่องง่าย การจะกลับไปให้ทันภายใน 1 เดือนก็ยังถือเป็นเรื่องที่ยาก
หลังจากหารือกับหยางม่านลี่เสร็จ หานเซิ่นก็โทรไปหาหวงฟูผิงชิง เขาต้องการขอซื้อแผนที่จากเธอ เพราะเขาต้องกลับไปที่ทุ่งน้ำแข็งให้เร็วที่สุด
“นายอยู่หาดหินขาว? นายอยู่หาดหินขาวจริงๆหรอ?”
ดูเหมือนหวงฟูผิงชิงจะประหลาดใจพอสมควร
“มันแปลกมากเลยหรอที่ผมอยู่ที่หาดหินขาว?” หานเซิ่นทำหน้างง
“งั้นนายก็คงจะอยู่ใกล้ๆเมืองทรายขาวใช่ไหม?” หวงฟูผิงชิงไม่ตอบ แต่ถามกลับไปแทน
“ใช่” หลังจากพูดจบหานเซิ่นก็เบิกตากว้าง
“อย่าบอกนะว่าคุณก็อยู่ที่นั่นด้วย?”
“ใช่ ฉันอยู่ที่นั่น รอฉันอยู่ที่เมืองทรายขาว 2 วัน แล้วเดี๋ยวฉันจะไปหานายเอง” หลังจากพูดจบเธอก็วางสายไป
‘เธอจะรีบวางสายไปไหนเนี่ย เรายังไม่ทันมีโอกาสได้บอกเลยว่าควีนเองก็อยู่ที่เมืองทรายขาวด้วย’
หลังจากนั้น 1 วัน ลูกธนูโลหะzก็ถูกส่งมาให้กับหานเซิ่น ทำให้หานเซิ่นอยากจะไปสนามยิงธนู เพื่อทดสอบพลังของหน้าไม้นกยูงเนตรมรณะ
หานเซิ่นบรรจุลูกธนูเข้าไป และเล็งไปยังเป้าหมายที่ทำจากทองคำขาว หลังจากที่เขาเหนี่ยวไก ลูกธนูก็ถูกยิงออกไป มันพุ่งออกไปเหมือนกับลำแสงสีฟ้าขนาดเล็ก
ตูม!
เป้าหมายที่ทำจากทองคำขาวคุณภาพสูงแหลกเป็นชิ้นๆ ทำให้หานเซิ่นถึงกับอ้างปากค้าง
“แม่เจ้า! หน้าไม้นี่แม้งโคตรโหด” หานเซิ่นอุทานออกมา ตอนนี้เขารู้สึกมีความสุขอย่างมาก
แม้จะใช้แค่ลูกธนูโลหะz พลังของมันก็ยังมหาศาลขนาดนี้ ถ้าเขาใช้กับวิญญาณอสูรลูกธนูเลือดศักดิ์สิทธิจะขนาดไหน บางทีมันอาจจะพอมีหวังที่จะยิงทะลุผิวหนังของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้
“นี่มันขีปนาวุธชัดๆ เราต้องรีบไปฆ่าเหยี่ยวเวหาเร็วๆซะแล้ว”
เมื่อเห็นเช่นนี้ก็ทำให้เขาอยากจะฆ่าเหยี่ยวเวหาขึ้นไปอีก ตอนนี้เขาอยากได้ลูกธนูวิญญาณอสูรจนตัวสั่น
หลังจากกลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง ควีนก็บอกกับเขาว่าเธอหาทางติดต่อกับทรราชได้แล้ว สมาชิกทีมที่เหลือจะมาร่วมตัวกันที่เมืองนี้ในอีกไม่กี่วัน
“งั้นพวกเราก็อยู่ห่างจากทุ่งหิมะไม่มากอย่างที่คิดน่ะสิ” หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจ
“ถ้าไปทางทะเลน่าจะใช้เวลา 1 เดือน ถ้าหากว่าพวกเราไม่ถูกฆ่าตายในทะเลก่อน” ควีนพูด
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่เป็นไร” หานเซิ่นอยากจะหลีกเลี่ยงการเดินทางในทะเล เขากลัวว่าจะไปเจอกับกุ้งล็อบสเตอร์
“พวกเราจะรอให้พวกทรราชมาถึง ครั้งนี้ฉันจะเสนอให้นายเข้าร่วมทีมอีกครั้ง และฉันก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีใครโต้แย้ง” ควีนพูด
“ไม่เป็นไร จริงๆผมก็ไม่ค่อยถนัดทำงานร่วมกับคนอื่นอยู่แล้ว”
หลังจากที่ได้เห็นพวกเขาต่อสู้กับเสือขาวแล้ว หานเซิ่นก็คิดว่าถึงมีคนอื่นช่วยก็ไม่ค่อยจะได้ประโยชน์เท่าไหร่ มันมีโอกาสที่เขาจะถูกมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดฆ่าตายได้ตลอดเวลา
และถ้าสมาชิกทีมไม่เชื่อใจเขาด้วยยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ การผสานงานผิดพลาดเพียงเล็กน้อยหมายถึงชีวิตเมื่อเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ชั้นสุดยอด
หานเซิ่นอยากจะหาคนที่เขาเชื่อใจได้มากกว่า ซึ่งทรราชและคนอื่นๆไม่ใช่ในแบบที่เขาต้องการ
“ทำไม?” ควีนขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องมองหานเซิ่น
“จะให้ผมร่วมทีมกับคุณก็ได้ แต่ผมไม่อยากร่วมมือกับคนอื่นๆที่เหลือ”
หานเซิ่นต้องสารภาพความจริงออกไป เพราะในทีมนั้นหานเซิ่นคิดว่าคนที่พอมีหวังช่วยเขาฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้มีแค่ควีนคนเดียว
ถ้าจะให้ร่วมมือกับคนอื่นๆที่เหลือ เขาคิดว่าถ้าจับคู่กับควีนแล้วล่ากันแค่ 2 คนจะทำอะไรได้คล่องตัวและมีประสิทธิภาพสูงกว่า
ควีนจ้องมองหานเซิ่น ตอนนี้เธอกำลังคิดหนัก เธอไม่พูดอะไรราวกับว่าเธอพยายามอ่านใจของหานเซิ่นอยู่
“โอ้ใช่ พี่ผิงชิงบอกว่าเธอจะมาที่นี่ในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่พบเธอแล้ว ผมว่าจะออกไปล่าก่อน คงจะยังไม่เดินทางกลับทุ่งน้ำแข็งทันที” หานเซิ่นพูด
“นายคิดจะไปล่าที่ไหน?” ควีนถาม
“ภูเขาเวหา” หานเซิ่นตอบทันที ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปกปิด
เมื่อควีนได้ยินชื่อสถานที่ เธอก็ชะงักไปเลย หลังจากที่เธอคิดอยู่ชั่วครู่ เธอก็พูดกับหานเซิ่น “บางทีอาจจะมีมอนสเตอร์ที่เหนือกว่าเลือดศักดิ์สิทธิอยู่แถวนั้น นายควรจะรอให้ทุกคนมาถึงก่อน แล้วเราค่อยไปพร้อมกัน”
หานเซิ่นยอมรับคำแนะนำของเธอ เขาคิดว่ามันไม่ใช่ความคิดที่แย่อะไร ในตอนที่เขาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับที่นั่น เขาก็พบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพบมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด ถ้าควีนและทีมของเธออยากจะไปที่นั่นก็ไม่มีปัญหา ยิ่งมีคนไปมากเขาก็คิดว่าจะหนีได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีจำนวนคนที่ค่อยเบนความสนใจเยอะ
วันรุ่งขึ้นหวงฟูผิงชิงก็มาถึงตามที่เธอบอกเอาไว้ เมื่อเธอเห็นหานเซิ่นอยู่กับควีน เธอก็เบิกตากว้าง
“ทำไมคุณ 2 คนถึงอยู่ด้วยกันได้เนี่ย?” หวงฟูผิงชิงถาม
“ฉันอยากจะให้หานเซิ่นเข้าร่วมทีม” ควีนตอบ
“คุณพี่กำลังบอกว่าคุณอยากให้หานเซิ่นเข้าร่วมทีม?”
หวงฟูผิงชิงคิดว่าหูของเธอคงจะเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ การที่ควีนชวนคนเข้าทีมเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ
และที่สำคัญหานเซิ่นพึ่งจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ได้ประมาณ 1 ปี เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมควีนถึงอยากจะให้หานเซิ่นเข้าร่วมทีม
เธอรู้เกี่ยวกับทีมของควีนดี เธอรู้ว่าแต่ละคนในทีมล้วนแล้วแต่มีพรสวรรค์สูงมาก พวกเขาต่างก็ปลดล็อคยีนได้ตั้งแต่อยู่ในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 หานเซิ่นไม่น่าจะมีคุณสมบัติพอที่จะเข้าร่วมได้
“แต่เขาปฏิเสธ” ควีนพูด
นี่ทำให้หวงฟูผิงชิงยิ่งช็อคเข้าไปอีก เธอหมดคำพูด สิ่งที่เธอทำได้ก็แค่จ้องมองหานเซิ่น พร้อมกับเบิกตากว้าง
ควีนชวนหานเซิ่นร่วมทีม แต่หานเซิ่นปฏิเสธ นี่เหมือนกับเนื้อเรื่องในนิยาย พูดไปใครจะเชื่อ
ถ้าไม่ใช่ควีนที่เป็นคนพูดออกมา เธอจะไม่เชื่อเรื่องนี่เด็ดขาด
หานเซิ่นอยากจะหัวเราะออกมา แต่เขาต้องกั้นเอาไว้
“ควีนก็แค่ล้อเล่น ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเข้าร่วม แต่มีสมาชิกในบางคนทีมไม่อยากให้ผมเข้าร่วมก็แค่นั้น”
“ใคร?” หวงฟูผิงชิงคิดว่าคำพูดของหานเซิ่นยังน่าเชื่อมากกว่า แต่ใครกันถึงได้กล้าขัดใจควีน?
หานเซิ่นรีบเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้หวงฟูผิงชิงฟัง คนที่ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่อยากให้เขาเข้าร่วมก็คือ ทรราช
“ฉันรู้จักเขา คนคนนี้เป็นคนที่อวดดีมาก นอกจากคุณพี่แล้ว เขาไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา การที่เขาปฏิเสธนายก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”
หวงฟูผิงชิงเริ่มเข้าใจเรื่องราวมากขึ้น เธอพูดต่อ “แต่คนคนนี้ไม่ธรรมดา เขาคือสุดยอดในหมู่ผู้วิวัฒนาการ แถมเขายังปลดล็อคยีนได้แล้วด้วย นอกจากคุณพี่แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทีม”
หลังจากที่ฟังการพูดคุยระหว่างหานเซิ่นกับหวงฟูผิงชิงอยู่สักพัก อยู่ๆควีนก็พูดขึ้นมา “ถ้านายอยากจะเข้าร่วมทีม ฉันจะเสนอชื่อนายอีกครั้ง แต่ถ้านายปฏิเสธจะเข้าร่วม ฉันก็จะออกจากทีม และมาจับคู่กับนายแทน”
หลังจากที่ได้ยินประโยคนั้นของควีน หวงฟูผิงชิงก็เหมือนวิญญาณอสูรหลุดออกจากร่าง เธอเบิกตากว้าง ขณะจ้องมองควีนและหานเซิ่น
เธอคิดว่าสมองน้อยๆของเธอไม่อาจจะทำความเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขาได้ เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับควีนบ้าง มันถึงขั้นที่ทำให้เธอคิดว่านี่อาจจะเป็นควีนตัวปลอม
.
.
คอมเม้นต์