อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 630 ติดอยู่ในโครงกระดูก
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
หานเซิ่นและควีนยังคงวิ่งไปที่โครงกระดูกตามแผนเดิม ขณะเดียวกันก็ได้แต่สวดภาวนาอย่าให้อีกาอย่างปรากฏตัวออกมา
แต่เมื่อพวกเขามาถึงโครงกระดูกมอนสเตอร์ พวกเขาก็ยังเห็นว่าลายังคงไล่ตามพวกเขาอยู่
แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังไม่ถอดใจ พวกเขารู้ว่ามอนสเตอร์ทั่วๆไปจะไม่กล้าเข้าใกล้มันในรัศมี 1000 เมตร พวกเขายังหวังว่าถ้าเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดก็อาจจะต้องลดรัศมีลงมาหน่อย บางที่หลังจากพวกเขาเข้าไปใกล้ในรัศมี 10 เมตร มันอาจจะเลิกตามก็ได้
หานเซิ่นและควีนกระโดดไปตามกระดูกซี่โครงของมอนสเตอร์ ขณะที่ลาอยู่ด้านนอก ถึงมันจะโกรธจัด แต่ดูเหมือนมันจะกลัวอะไรบางอย่าง
หานเซิ่นถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาหยุดพักบนโครงกระดูก และหันกลับไปมองลา ซึ่งกำลังทำหน้าตาเคร่งเครียด ดูเหมือนมันไม่กล้าจะเข้ามาใกล้
“สงสัยจริงๆว่ากระดูกพวกนี้เป็นของมอนสเตอร์อะไรกันแน่? ถึงขนาดข่มขวัญมอนสเตอร์ที่เหนือกว่าเลือดศักดิ์สิทธิได้”
“ยังไงก็ตาม พวกเราไม่ควรจะอยู่ที่นี่นานเกินไป หลังจากพักสักครู่แล้ว พวกเขาควรจะรีบไป” ควีนนั่งพักและจับตาดูลา
หานเซิ่นพยักหน้า เขารู้ว่าสามารถพักได้แค่แปปเดียว เนื่องจากทั้งหานเซิ่นและควีนใช้โหมดปลดล็อคยีนเป็นเวลานานเกินไป พวกเขาจึงต้องการเวลาฟื้นพลัง ไม่งั้นพวกเขาคงไม่เลือกที่จะหยุดอยู่ที่นี่
อีกอย่างพวกเขาก็ยังไม่แน่ใจด้วยว่าอีกาจะปรากฏตัวออกมารึเปล่า ด้วยความน่ากลัวของมัน ถ้ามันปรากฏตัวออกมาละก็ พวกเขาคงจะถูกปิดล้อมให้อยู่ตรงโครงกระดูกนี้ไปอีกนานเลย
หลังจากที่พวกเขานั่งพักกันได้ไม่นานนัก พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมา จากนั้นก็มีเงาของคนปรากฏตัวออกมา พวกเขาก็คือเฉินรันและลูกน้อง
เมื่อพวกเขาเห็นหานเซิ่นและควีน พวกเขาก็ดูจะช็อคเล็กน้อย ลาขี่เมฆสีแดงที่กำลังหงุดหงิด เมื่อมันเห็นพวกเฉินรัน มันก็ดูจะมีความสุขขึ้นมาทันที
โชคดีที่พวกเขาหลบหนีลาและมาถึงกระดูกซี่โครงได้ สีหน้าของหานเซิ่นและควีนก็เปลี่ยนไปทันที เมื่อพวกเขาเห็นว่าอีกายังคงไล่ตามพวกเฉินรันอยู่ หลังจากที่พวกเฉินรันมาถึงโครงกระดูก อีกาก็ขึ้นไปเกาะบนต้นไม้ใกล้ๆ และจ้องมองพวกเขาด้วยแววตาที่ดูเลือดเย็น
‘โถ่เอ้ย ถ้าเรารู้ว่าคนพวกนี้จะโผล่มา เราก็คงจะวิ่งหนีต่อไป’ หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ เขาไม่คิดว่าจะมาเจอพวกเฉินรันที่นี่ ตอนแรกเขาคิดว่าคนพวกนี้น่าจะถูกอีกาฆ่าไปตั้งนานแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงโครงกระดูกมอนสเตอร์
เฉินรันและลูกน้องสีหน้าดุไม่ค่อยดี แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรที่รุนแรง พวกเขาเหลือเพียงแค่ 5 คน ซึ่งมันดีกว่าที่หานเซิ่นและควีนคาดการณ์เอาไว้มาก
ถ้าเขาพวกเขาถูกอีกาไล่ล่ามาตลอดทาง ไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่พวกเขาจะเหลือถึง 5 คน แสดงว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“คุณเฉิน ผมอยากรู้ว่าพวกคุณมาถึงที่นี่ได้ยังไง?” หานเซิ่นสงสัยจนต้องเอ่ยถาม
“อืมม จริงๆมันก็อธิบายยาก” เฉินรันถอนหายใจ เขาปฏิเสธที่จะอธิบาย
หานเซิ่นรู้ว่าคงไร้ประโยชน์ที่จะถามต่อไป ถ้าเฉินรันไม่อยากบอกว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ทุกคนนั่งอยู่ภายในกระดูกซี่โครง ซึ่งดูเหมือนกับกรง ขณะที่ลาขี่เมฆสีแดงได้แต่เดินวนอยู่รอบๆ
อีกาไม่ส่งเสียงเลยแม้แต่นิดเดียว มันยังคงเกาะอยู่บนกิ่งไม้ และเฝ้ามองดูพวกเขาอย่างเงียบๆ
“ยังดีที่พวกมันไม่คิดจะโจมตีเรา แต่ดูเหมือนพวกมันคงจะไม่ปล่อยพวกเราไปง่ายๆแน่ ดูเหมือนมันกำลังรอให้พวกเราออกไปอยู่ คุณเฉิน คุณพอจะมีความคิดอะไรดีๆบ้างไหม?” หานเซิ่นถาม
“มีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งขนาดนั้นอยู่ข้างนอกถึง 2 ตัว น้องชายคิดว่าฉันจะทำอะไรได้? รออยู่ที่นี่อีกสักพัก ดูไปก่อนว่าพวกมันจะเอายังไงต่อไป บางทีถ้าพวกมันเบื่อจะรอแล้ว มันอาจจะไปก็ได้” เฉินรันพูด
หานเซิ่นไม่ถามอะไรอีก เขาเดินไปนั่งข้างๆควีน ซึ่งตอนนี้เธอกำลังพักผ่อนอยู่ในสภาพหลับตาทำสมาธิ
การปลดล็อคยีนเป็นเวลายาวนานขนาดนั้นเกิดขีดจำกัดของควีน เธอไม่ใช่หานเซิ่นที่มีมนตรานอกรีตและตะวันหยก พลังของเธอไม่ได้เหลือล้นเหมือนกับเขา การที่เธอทนวิ่งจนมาถึงที่นี่ได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว
ตอนนี้พวกเขา 7 คนติดอยู่ในโครงกระดูก พวกเขารอทั้งวันทั้งคืน แต่พวกมอนสเตอร์ที่ก็ยังไม่ไปสักที ลาเดินไปเดินมาเกือบจะตลอดเวลา ขณะที่อีกาเกาะอยู่บนกิ่งไม้อย่างเงียบสงบ
หานเซิ่นไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี ทุกคนต่างก็รู้ว่าใครก็ตามที่ก้าวออกจากโครงกระดูกนี้จะต้องถูกฆ่าโดยมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดทั้ง 2 ตัว
ขณะกำลังนั่งผิงกระดูก อยู่ๆหานเซิ่นก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเต้นอยู่ในกระเป๋าเสื้อ เขาเกือบจะลืมไปสนิทเลยว่าเขาเก็บผลน้ำเต้าไว้ตรงนั้น
แต่เมื่อเขาเอามันออกมาจากกระเป๋าเสื้อ มันก็หยุดเต้น หานเซิ่นลองเอานิ้วจับและสำรวจมันดู แต่ก็ไม่พบว่ามีอะไรที่ผิดปรกติ
‘เป็นพืชที่แปลกจริงๆ’ หานเซิ่นยังไม่เอามันเก็บใส่กระเป๋า เขาเลือกที่จะถือมันอยู่ในมือต่อไป อย่างน้อยเขาจะได้ตอบสนองทันถ้ามีอะไรผิดปรกติเกิดขึ้น
ลาขี่เมฆสีแดงและอีกาดูจะอดทนอย่างมาก ไม่ว่ายังไงพวกมันก็ไม่ยอมที่จะทิ้งเหยื่อไป หลังจากภายมา 3-4 วันแล้ว ความหิวก็เริ่มเล่นงานพวกเขา ตอนนี้พวกเขายังไม่ได้กินน้ำแม้แต่หยดเดียวตั้งแต่มาติดอยู่ในนี้ ซึ่งถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปพวกเขาก็มีโอกาสที่จะตายอยู่ที่นี่
“น้องหาน ดูเหมือนพวกมันจะไม่ยอมให้พวกเราออกไปได้ง่ายๆ พวกราคงจะต้องทำอะไรสักอย่าง” เฉินรันเดินเข้ามาหาหานเซิ่น เขาลดเสียงลงเพื่อพูดกับหานเซิ่น
“ถ้าคุณมีความคิดดีๆ ผมก็อยากจะฟัง” หานเซิ่นรู้ดีว่ายังไงเฉินรันก็ต้องเข้ามาพูดกับเขาอยู่แล้ว แค่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
“พวกเราต่างก็เป็นผู้วิวัฒนาการที่มีชื่อเสียง ถ้าถูกพบว่ามาตายอยู่ในที่นี่ล่ะก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าอับอาย”
หลังจากนั้นเฉินรันก็พูดต่อ “โครงกระดูกนี้มีความยาวหลายไมล์ ถ้าพวกเราแยกกันไปคนละด้าน พวกเราอาจจะมีโอกาสรอด นายคิดว่าไง?”
“สมมุติว่าพวกเราจะใช้แผนนั้น เราจะแบ่งทีมกันยังไง?” หานเซิ่นคิดว่าความคิดของเฉินรันดูมีเหตุผล
ลาขี่เมฆสีแดงอยู่ใกล้ๆกับส่วนหางของโครงกระดูก คนที่ต้องวิ่งไปจุดนั้นจะเสียเปรียบมาก มีโอกาสที่คนไปตรงนั้นจะถูกมอนสเตอร์ทั้ง 2 ตัวรุมโจมตี
“นี่คือแผนของฉัน และฉันก็ไม่ต้องการให้ทุกคนรับความเสี่ยง ทุกคนวิ่งไปด้านหน้า ส่วนฉันจะวิ่งไปที่ส่วนหางเอง”
เฉินรันถอนหายใจ จากนั้นเขาพูดต่อ “แต่ฉันมีเงือนไขอยู่อย่างหนึ่ง”
“โปรดบอกมาเลย” หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจที่เฉินรันจะเสียสละตัวเอง
“สวี่ตงจินและคนอื่นๆก็เหมือนเป็นพี่น้องของฉัน ฉันหวังว่านายจะพาพวกเขาไปด้วย ฉันคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี่ ฉันควรจะต้องไปเป็นตัวล่อ เพื่อทำให้ทุกคนมีเวลามากพอที่จะหนีไปจากที่นี่ได้” เฉินรันพูด
“คุณเฉิน…” สวี่ตงจินและคนอื่นๆพูดไม่ออก พวกเขาไม่คิดว่าเฉินรันจะเสียสละตัวเองขนาดนี้
“พวกนายไม่จำเป็นต้องพูดอะไร นี่คือการตัดสินใจของฉัน พวกนายติดตามฉันมาเป็นเวลานานแล้ว นี่อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันสามารถทำเพื่อทุกคนได้ แต่ฉันก็ไม่มั่นใจว่าจะยื้อเวลาได้นานแค่ไหน หวังว่าทุกคนจะรอดไปได้” เฉินรันยิ้ม
เฉินรันอยากจะให้สวี่ตงจินและคนอื่นๆไปกับหานเซิ่นและควีน ขณะที่เขาจะเป็นคนวิ่งออกไปที่ส่วนหางเอง
พวกเขานัดเวลากันเป็นอย่างดี เมื่อเวลานั้นมาถึง พวกเขาก็แยกกันวิ่งออกไปคนละทาง
คอมเม้นต์