อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 632 ขนอีกา
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
“นายไม่เป็นไรใช่ไหม?” ควีนมองดูบาดแผลบนหลังของหานเซิ่น ซึ่งดูค่อนข้างน่ากลัว มันเป็นแผลที่ยาวตั้งแต่ไหล่จนถึงเอว มันลึกจนถึงกระดูกสันหลังเลยทีเดียว
ที่คอของเขาก็มีแผลที่มีเลือดซึมออกมาเช่นกัน ถึงมันจะไม่ลึกมากก็ตาม แต่มันก็ดูน่ากลัว ถ้าอีกาฟันคอของเขาได้ลึกอีกสักนิด เขาก็น่าจะตายไปแล้ว
แม้บาดแผลจะดูน่ากลัว แต่ปริมาณเลือดที่ไหลออกมาก็เริ่มลดลงแล้ว กายหยกของเขาช่วยฟื้นฟูร่างกาย ขณะที่มนตรานอกรีตช่วยควบคุมการไหลเวียนของเลือด ถ้าไม่ใช่เพราะเขามี 2 วิชานี้ล่ะก็เขาน่าจะไม่รอด
“ไม่เป็นไร ผมยังไหวอยู่” หานเซิ่นกัดฟัน ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บปวดทรมานบริเวณหลังมาก เขารู้ว่ากระดูกสันหลังคงจะได้รับความเสียหาย โชคดีที่มันไม่ได้ร้ายแรงมาก ถ้าเขากระโดดไปข้างหน้าช้ากว่านั้นอีกนิด กระดูกสันหลังของเขาน่าจะขาดไปแล้ว
ควีนหยิบยาออกมาจากกระเป๋าเป้ของเธอ และใช้มันทำแผลให้หานเซิ่น ซึ่งมันทำให้หานเซิ่นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ระหว่างที่กำลังทำแผลอยู่นั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องของอีกาที่ถูกเถาวัลย์พันอยู่ ตอนนี้อีกาไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนก่อนหน้าอีกแล้ว ที่ส่วนปลายของเถาวัลย์จะมีหนามแหลมๆอยู่ และพวกมันก็แทงทะลุเข้าไปในตัวของอีกา เถาวัลย์ราวกับมีชีวิต เหมือนมันจะกระหายเลือดของอีกามาก ขณะที่มันดูดเลือดของอีกาเข้าไป เถาวัลย์ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เถาวัลย์แห้งๆเริ่มกลับมามีชีวิตเหมือนกับเกิดใหม่
กา!กา!
อีกาส่งเสียงร้องออกมา 2 ครั้ง ตอนนี้มันพยายามดิ้นร่นและบิดตัวไปมา จนขนของมันหลุดล่วงลงมาเหมือนกับหิมะตก ด้วยแรงอันมหาศาล ทำให้อีกาสามารถดิ้นหลุดจากเถาวัลย์ได้ จากนั้นมันก็รีบบินหนีขึ้นฟ้าไปด้วยความกลัว
หานเซิ่นช็อคเมื่อเห็นแบบนั้น เขาไม่คิดว่าอีกาจะแข็งแกร่งถึงขนาดดิ้นหลุดจากเถาวัลย์ได้
หลังจากที่อีกาหนีไปได้ เถาวัลย์ก็กลับมาพันรอบๆกระดูกเหมือนกับก่อนหน้านี้ เถาวัลย์ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงกลับมาเป็นสีเหลืองอีกครั้ง แต่ทว่า เถาวัลย์ก็มีใบสีเงินๆงอกออกมา
ผลน้ำเต้าในมือของหานเซิ่นยังคงเต้นอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้มันไม่ได้หยุดเต้นไปเหมือนกับที่ผ่านๆมา หานเซิ่นกำลังถือมันอยู่ เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่
ถ้ามันเป็นสิ่งที่คล้ายๆกับดอกบัวที่มีพวกแมลงออกมา หานเซิ่นก็อยากจะโยนมันทิ้งไปซะตอนนี้เลย แต่เขาเองก็ยังไม่มั่นใจ เขาไม่อยากจะทิ้งสิ่งที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นสมบัติล้ำค่า
นอกจากที่มันกำลังเต้นเหมือนกับชีพจรแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรที่ผิดปรกติ ขณะที่เขาใช้นิ้วลูบคลำมัน ตาของเขาก็มองไปที่ขนของอีกาที่ล่วงอยู่เต็มพื้นไปหมด
ขนก็เหมือนกับเป็นเกราะส่วนนอกสุดที่คอยป้องกันตัวมัน ถึงจำนวนที่ล่วงมาจะมีไม่มากเท่าไหร่ แต่ทว่าแต่ละเส้นมีความยาว 1 ฟุต หานเซิ่นหยิบมันขึ้นมา 1 เส้นด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
ขนสีดำนี้เป็นของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด มันจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน มันก็เป็นเหมือนกับอาวุธของอีกาที่ใช้ต่อสู้
ขนแต่ละเส้นเหมือนกับแผ่นเหล็ก แค่ถือมันก็ดูน่ากลัวแล้ว
“นี่เป็นของล้ำค่ามาก” หานเซิ่นบอกให้ควีนรวบรวมขนของอีกามา
หลังจากที่นับดูแล้วมีทั้งหมด 36 เส้น ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากอยู่ แต่ละเส้นมีขนาดเท่าๆกัน หานเซิ่นคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเอามันไปทำเป็นพัด
หลังของหานเซิ่นยังคงเจ็บอยู่ เขามองควีนและพูด “คุณช่วยทดสอบความแข็งของมันหน่อยได้ไหม?”
ควีนพยักหน้า เธอเรียกดาบวิญญาณอสูรออกมาและฟันไปที่ขนนกอย่างรุนแรง แต่มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
“นี่เป็นของดีจริงๆด้วย!” หานเซิ่นมีความสุขมาก ถ้าเขาเอามันไปดัดแปลงได้ละก็ เขาอาจจะได้หัวลูกธนูดีๆมาใช้ก็ได้ และถ้าใช้มันกับหน้าไม้นกยูงเนตรมรณะ เขาก็มีสิทธิที่จะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้
“พวกเราแบ่งกันคนละครึ่งเป็นไง?” หานเซิ่นแนะนำ
“ฉันเอาไปก็คงไม่มีประโยชน์ มันก็แค่ขนนก นายเอาไปทั้งหมดนั่นแหละ” ควีนส่งขนนกทั้งหมดให้หานเซิ่น
ก่อนหน้านี้ควีนก็สังเกตเห็นหน้าไม้ที่หานเซิ่นเอาออกมาใช้ตอนหนีมอนสเตอร์ ซึ่งเธอรู้สึกว่ามันเหมือนกับนกยูงเนตรมรณะ และยังตอนนี้ที่เห็นเขาอยากจะได้ขนนก มันยิ่งทำให้เธอสงสัยมากขึ้นว่ามันน่าจะเป็นวิญญาณอสูรของนกยูงเนตรมรณะ
แต่หานเซิ่นก็คงไม่มีวันยอมรับความจริงถึงเธอจะถามเขา ดังนั้นควีนเลยไม่เอ่ยถาม ถ้าหานเซิ่นจะเอาขนนกไปทำเป็นลูกธนู เขาก็จะมีเครื่องมือในการล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดที่มีประสิทธิภาพมาก ดังนั้นเธอคิดว่าการไม่พูดอะไรออกไปตอนนี้จะเป็นผลดีมากกว่า และเธอก็เลือกที่จะให้ขนนกทั้งหมดกับหานเซิ่น
หานเซิ่นมองควีนด้วยสีหน้าแปลกๆ เมื่อควีนบอกว่าจะให้ขนนกเขาทั้งหมด
หานเซิ่นเชื่อว่าควีนจะต้องเห็นในตอนที่เขาเอาหน้าไม้ออกมาใช้แน่ แต่แค่เธอยังไม่พูดอะไรออกมาเท่านั้น แค่การที่เธอยอมมอบขนนกทั้งหมดให้เขา มันก็พอจะบอกได้แล้ว
“พวกเราต้องรีบออกไป อีกามันหนีไปแล้ว ถ้าลามันกลับมา เราก็จะหนียากขึ้นเพราะนายยังเจ็บหนักอยู่” หลังจากที่เธอพูด เธอก็พยุงหานเซิ่นขึ้นมา และก็ช่วยพาเขาเดินลงภูเขาไป
ตอนนี้หานเซิ่นอยู่บนหลังของควีน หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆ เมื่อผู้หญิงเป็นฝ่ายช่วยเขาแบบนี้
โชคดีที่ระหว่างทางไม่ได้มีอันตรายอะไร พวกเขาสามารถลงภูเขาไปได้โดยไม่เจออุปสรรคอะไร ควีนเรียกสัตว์ขี่ที่ดูเหมือนกับช้างออกมา จากนั้นเธอก็พาหานเซิ่นไปส่งที่เมืองที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อให้เขากลับไปรักษาตัวที่สหพันธ์ดวงดาว บาดแผลของเขาร้ายแรงพอสมควร การรักษาคงจะต้องใช้เวลาไม่น้อย การไปรักษาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่น่าจะได้ผลดีกว่า
แต่หลังจากกลับมาที่เมือง เขาก็ยังไม่ได้กลับไปที่สหพันธ์ดวงดาว เขาเลือกที่จะไปหาจิ้งจอกสีเงิน เพราะมันคือหมอที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา ดังนั้นเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลับไปที่สหพันธ์ดวงดาว
หานเซิ่นยังคงคิดเกี่ยวกับผลน้ำเต้า ดังนั้นเขาเลยยังไม่อยากรีบกลับสหพันธ์ดวงดาว เขาไม่ต้องการให้เรื่องนี้มันค้างคาใจ
เขาเดินไปหาจิ้งจอกสีเงิน หลังจากมันเห็นเขา มันก็มีช่วยเลียแผลให้เขาทันที ถึงเขาจะคุ้นชินกับความสามารถนี้ของมันอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกแปลกๆอยู่ดี บาดแผลของเขาค่อยๆหายหลังจากที่มันเลีย แม้แต่กระดูกที่เสียหายก็หายเป็นปรกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเห็นว่าหานเซิ่นไม่เป็นอะไร ควีนก็ออกจากห้องของเขาไป หลังจากที่เห็นควีนเดินออกไป หานเซิ่นก็เอาผลน้ำเต้าออกมาให้จิ้งจอกสีเงินดูทันที เขาจะได้รู้สักทีว่ามันเป็นของดีหรือไม่ดีกันแน่
หลังจากมองดูมันแล้ว จิ้งจอกสีเงินมีสีหน้าแปลกๆ มันยังคงสังเกตผลน้ำเต้าอย่างใกล้ชิด มันเดินวนไปรอบๆและสูดดมกลิ่น
หานเซิ่นเองก็มองผลน้ำเต้าอยู่เช่นเดียวกัน ระหว่างที่กำลังลุ้นปฏิกิริยาของจิ้งจอก อยู่ๆจิ้งจอกที่เดินไปรอบๆก็หยุด และเดินไปนอนบนพรมซะอย่างงั้น
“เฮ้! อย่างน้อยก็บอกหน่อยว่ามันดีหรือไม่ดี”
ดูจากพฤติกรรมของจิ้งจอกสีเงิน เขาไม่รู้เลยว่านี่มันเป็นของดีหรือไม่ดีกันแน่
แต่กระนั้นจิ้งจอกสีเงินก็ยังคงอยู่อย่างสบายใจบนพรม มันไม่สนใจคำสั่งของหานเซิ่น หานเซิ่นรู้ดีว่าจิ้งจอกไม่ใช่มนุษย์ มันคงไม่เข้าใจภาษาของเขาหรอก ดังนั้นเขาเลยหยุดพูดกับมัน
คอมเม้นต์