อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 650 การค้นพบสุดช็อค
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
นี่เป็นโชคร้ายสำหรับหานเซิ่น เมื่อเขารู้สึกกลัวอะไรสักอย่าง เขาก็มักจะต้องเจอกับสิ่งนั้น ขณะที่หานเซิ่นกำลังปีนเขา เขาก็เห็นหวังอวี่ฮังกำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์อยู่ที่นั่นพอดี
เมื่อหวังอวี่ฮังเห็นหานเซิ่น เขาก็ดูจะประหลาดใจมาก เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขารีบจัดการมอนสเตอร์ที่เขากำลังต่อสู้อยู่ให้เสร็จ จากนั้นเขาก็วิ่งมาหาหานเซิ่นและถามอย่างตื่นเต้น “น้องหาน นายมาหาฉันหรอ?”
“ใช่ แน่นอน” หานเซิ่นไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง เขาเลยเออออไป เขารู้สึกว่าดวงเริ่มแย่ลงตั้งแต่มาพบกับหวังอวี่ฮัง
“น้องหาน นายได้ยินข่าววงในของสหพันธ์บ้างไหม? มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ฉันยังช็อคเลยหลังจากที่ได้ยิน” หวังอวี่ฮังลดเสียงลงราวกับว่าเขากำลังจะพูดเรื่องลับๆ
“มีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นหรอ อาเล็ก?” หานเซิ่นไม่ค่อยได้ให้ความสนใจเรื่องของสหพันธ์ดวงดาวเท่าไหร่ แต่เขาก็ถามไปตามมารยาท
“ตอนนี้มีแค่สมาชิกระดับสูงของสหพันธ์ และก็พวกอาวุโสตระกูลใหญ่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ได้รับการยืนยันแล้ว มันจะถูกประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา”
หวังอวี่ฮังหยุดชั่วครู่ เขาเอาปากมาใกล้ๆหูของหานเซิ่น “มีคนฆ่ามอนสเตอร์นั้นในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ได้”
“มอนสเตอร์อะไร?” หานเซิ่นสั่นไปทั้งตัว
“มอนสเตอร์ที่เหนือกว่าระดับเลือดศักดิ์สิทธิ เหมือนพวกเขาจะเรียกมันว่า ‘มอนสเตอร์ขั้นสุดยอด’ เรื่องนี่เป็นเรื่องที่ทำให้คนระดับสูงของสหพันธ์ช็อคมาก” หวังอวี่ฮังพูดด้วยเสียงเบาๆ
หลังจากที่หานเซิ่นได้ิยินเรื่องนั้น เขาก็รู้สึกโล่งอก เนื่องจากตอนนี้มนุษย์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ยอดฝีมือในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขารู้อยู่แล้วว่าสักวันเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น มันแค่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
“ใครเป็นคนฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ แล้วเขาทำได้ยังไง?” หานเซิ่นถามหวังอวี่ฮัง
“ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงที่ชื่อว่า จีชิงจากตระกูลจี นายน่าจะมีสักเป็นพี่เขยของเธอ แต่เธอก็ไม่ใช่ลูกสาวของจียัวเจินหรอกนะ สำหรับครอบครัวนายแล้ว เธอก็ถือว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับจีเหยียนหรัน แต่ดูเหมือนเธอจะมีพรสวรรค์สูงยิ่งกว่าจีเหยียนหรันซะอีก ตอนนี้พวกระดับสูงต่างเรียกเธอว่าความหวังใหม่”
หวังอวี่ฮังหยุดพูดชั่วครู่ตอนนี้รอยยิ้มเขาจากหายไป เขาพูดต่อ “แต่การที่เธอฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ก็ไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ของเธอหรืออิทธิพลของจียัวเจิน แต่เป็นเพราะได้ตระกูลหวัง หลินและเสวียช่วยด้วย พวกเขาจ้างยอดฝีมือถึง 300 คน ดูเหมือนยอดฝีมือพวกนั้นจะยังไม่ได้วิวัฒนาการ แต่พวกเขาเก็บจีโนพ้อยได้เต็มทุกคนแล้ว”
“แต่น่าเสียดายมากที่เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ได้ยากมาก สำหรับที่นี่การจะสู้กับมอนสเตอร์พวกนั้นได้คงจะต้องวิวัฒนาการเป็นผู้เป็นเลิศก่อน ซึ่งคนที่วิวัฒนาการเป็นผู้เป็นเลิศแล้ว พวกเขาก็มักจะออกจากที่นี่ทันที ไม่งั้นร่างกายของพวกเขาก็จะปนเปื้อน” หวังอวี่ฮังถอนหายใจ
หานเซิ่นดูจะสับสนมาก เขาถาม “ทำไมคนพวกนั้นถึงได้ยอมเสี่ยงชีวิตขนาดนั้น พวกเขาได้อะไรตอบแทน? แล้วทำไมจีชิงถึงได้ผลงานและชื่อเสียงไปคนเดียว?”
“เธอเป็นคนที่พบมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดที่บาดเจ็บ และเธอก็เป็นคนที่โจมตีปิดชีวิตมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด ส่วนคนอื่นเป็นคนที่ตระกูลจีจ้างมาเพื่อช่วยเหลือเท่านั้น ซึ่งพวกเขาก็ได้รับค่าตอบแทนตามสัญญาที่ตกลงกันไว้”
หลังจากพูดจบหวังอวี่ฮังก็ลดเสียงลงอีกครั้ง เขาพูด “ด้วยเรื่องนี้ ดูทรงแล้วจียัวเจินมีโอกาสสูงมากที่จะได้เป็นประธานสหพันธ์ดวงดาวคนต่อไป คงไม่มีใครกล้ามีปัญหากับตระกูลจีที่ฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้อย่างแน่นอน หลังจากที่พวกเขาทำได้ครั้งหนึ่งแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาคงจะสามารถทำมันได้อีก”
หานเซิ่นพยักหน้า เขารู้ดีว่าการเริ่มทำอะไรใหม่เป็นเรื่องที่ยากมาก หลังจากที่ฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดตัวแรกอย่างยากลำบากได้ มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่าพวกเขาจะฆ่าตัวต่อไปได้เมื่อไหร่ แต่ยังไงพวกเขาก็คงจะทำได้ในอีกไม่นาน
“จีชิงได้วิญญาณอสูรขั้นสุดยอดรึเปล่า?”
“ใช่ ดูเหมือนจะเป็นชุดเกราะ นั่นก็เป็นเหตุผลที่จีชิงถูกเรียกว่าความหวังใหม่ ด้วยเกราะแบบนั้นก็อตแซงชัวรี่เขต 1 คงจะเหมือนสนามเด็กเล่นของจีชิง”
หวังอวี่ฮังมองตาหานเซิ่น เขาพูดต่อ “โอ้ใช่ ลืมไปเลย แล้วนายมาหาฉันด้วยเรื่องอะไร?”
“ผมจะมาล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเบอร์เซิร์กบนภูเขานี้ ถ้าอาเล็กว่างก็มาด้วยกันก็ได้” หานเซิ่นพูด เขาไม่อยากจะปฏิเสธหวังอวี่ฮัง เพราะเขาอุตส่าห์เอาเรื่องลับๆแบบนี้มาเล่าให้ฟัง
“เยี่ยมเลย! การฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเบอร์เซิร์กเป็นงานอดิเรกของฉันเลย” หวังอวี่ฮังดีใจเหมือนกับเด็กๆ
พวกเขาทั้ง 2 คนเดินลุยเข้าไปในภูเขา หานเซิ่นปีนขึ้นเขาไปอย่างระมัดระวัง เขายังไม่ลืมว่าเขาเคยเจอมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดที่ดูเหมือนเต่าแถวๆนี้ ถ้าพวกมันยังอยู่แถวนี้ หานเซิ่นก็ต้องระวังตัวให้มาก เพราะพวกมันมีถึง 9 ตัว
ไม่นานนักหานเซิ่นก็มาถึงจุดที่เขาเคยพบกับมังกรเกล็ดแดง เขาค่อนข้างแปลกใจที่เขาเดินทางมาถึงที่นี่ได้ราบลื่นผิดปรกติ
มังกรเกล็ดแดงยังไม่ได้ทิ้งที่นี่ไป เขาเห็นด้วยสัมผัสที่ทรงพลังของเขาว่ามันกำลังพักผ่อนอยู่ภายในหุบเขา
มังกรเกล็ดแดงดูเหมือนจะแตกต่างไปจากที่เขาเห็นครั้งแรกนิดหน่อย ตอนนี้เกล็ดสีแดงๆของมันดูเหมือนกับคริสตัล เมื่อมองจากระยะไกล มันดูเหมือนกับรูปปั้นที่เกะสลักจากทับทิม มันดูสวยงามมาก
“เจ้านี่ไม่ใช่เล่นๆเลยนะ” หวังอวี่ฮังสูดลมหายใจเข้าลึก หลังจากที่เห็นมังกรเกล็ดแดง
หานเซิ่นหัวเราะ เขาหันมามองหวังอวี่ฮัง “อาเล็ก ผมขอให้คุณช่วยอะไรสักอย่าง ถ้าคุณทำได้ ผมอยากให้คุณไปดึงความสนใจมัน หลังจากที่ผมฆ่ามันได้แล้ว ผมจะให้เนื้อครึ่งหนึ่งกับคุณ”
“ตกลง!” หวังอวี่ฮังพยักหน้า เขาเรียกวิญญาณอสูรออกมาและก็วิ่งเข้าไปหามังกรเกล็ดแดง พร้อมกับส่งเสียงร้องลั่นไปตลอดทาง
เขาไม่ได้วิ่งเข้าไปใกล้มันมากนัก เขาหยุดในระยะที่พอเหมาะ จากนั้นเขาก็หาก้อนหินขว้างไปที่มอนสเตอร์ มังกรเกล็ดแดงดูจะหัวร้อนขึ้นมาทันที มันวิ่งตรงเข้าไปหาหวังอวี่ฮังด้วยความโกรธ
หวังอวี่ฮังวิ่งล่อให้มังกรเกล็ดแดงลงเขาไป หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรนกยูงเนตรมรณะออกมา จากนั้นเขาก็บรรจุขนอีกาที่เหลือทั้ง 7 เส้นลงไป
มังกรเกล็ดแดงเป็นมอนสเตอร์ที่ผิวหนังแข็งมาก แถมมันยังอยู่ในโหมดเบอร์เซิร์ก ดังนั้นผิวหนังของมันจึงแข็งกว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิทั่วๆไปมาก ถึงเขาจะใช้ขนอีกายิงก็ตาม แต่หานเซิ่นก็เกรงว่าอาจจะทำความเสียหายได้ไม่หนักหน่วงพอ
ดังนั้นหานเซิ่นเลยคิดว่าจะเล็งไปที่ดวงตาสีแดงของมัน เนื่องจากมังกรเกล็ดแดงไม่ใช่มอนสเตอร์ขั้นสุดยอด มันไม่เหมือนกับทีเร็กซ์ตัวก่อนหน้านี้ เขาเชื่อว่าสามารถยิงเข้าไปที่ตามันได้โดยตรง และอาจจะทะลุไปถึงสมอง
หานเซิ่นกำลังหาจุดเหมาะๆบนภูเขา ขณะที่เขากำลังรอให้หวังอวี่ฮังล่อมอนสเตอร์เข้ามาใกล้อีกสักนิด
ขณะที่มังกรเกล็ดแดงกำลังวิ่งวนไปวนมาอยู่แถวยอดเขา หวังอวี่ฮังก็ส่งเสียงร้องตะโกน
“วิ่ง!.” หวังอวี่ฮังกรีดร้อง เขาทำมือบอกให้หานเซิ่นรีบหนีไป ดูเหมือนจะมีสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้น
หัวใจของหานเซิ่นเริ่มเต้นรัว เขากำลังคิดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ‘เกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย? หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องร้ายๆขึ้นอีกนะ’
.
.
คอมเม้นต์