อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 663 ลูกม้าสีแดง
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
“เวรเอ้ย! เราน่าจะออกจากเขตแดนของหมาป่ามา แต่ดันมาเข้าเขตแดนของพวกม้าหรอเนี่ย?”
หานเซิ่นขมวดคิ้ว ขณะที่เขามองดูม้ามีปีก ซึ่งดูเหมือนเพกาซัสตรงเข้ามา เขาต้องการจะตบหน้าตัวอย่างแรงๆ ‘เรามาทำอะไรที่นี่ว่ะเนี่ย? เราควรจะเน้นหามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดที่อยู่ตัวเดียวต่อไป!”
“การพยายามฉกฉวยประโยชน์จากคนอื่นจะทำให้เราตายเปล่า” หานเซิ่นถอนหายใจ
โชคดีจุดที่เขาอยู่เป็นเขตแดนที่ไม่มีทั้งม้าและหมาป่าอยู่ ดูแล้วมันน่าจะเป็นเขตที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่กล้าก้าวล้ำเข้าไป พวกมันไม่ได้วิ่งมาถึงจุดที่เขาอยู่ ทำให้เขาสามารถใช้โอกาสนี้หยุดพักหายใจหายคอได้
หานเซิ่นไม่กล้าที่จะใช้ปีกบินอีก เพราะถ้าเขาใช้ปีกบินขึ้นไป เขาจะกลายเป็นเป้าสายตาและถูกเพกาซัสเล่นงานเอาได้ การอยู่บนท้องฟ้าจะทำให้เขาเสียเปรียบมอนสเตอร์บินได้อย่างเพกาซัสมาก
หานเซิ่นหมอบลงในทุ่งหญ้า จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆ จุดที่เขาอยู่ไม่มีอะไรเลยนอกจากทุ่งหญ้า อย่างน้อยรอบๆตัวเขาตอนนี้ก็ไม่มีทั้งเพกาซัสและหมาป่าแล้ว
หลังจากที่หานเซิ่นสังเกตแถวนี้ดีๆแล้ว เขาก็พบว่าหญ้าแถวนี้มันแตกต่างจากหญ้าจุดอื่น มันสั้นกว่าที่อื่นและก็มีสีเหลือง นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีอะไรที่พิเศษ บริเวณนี้ไม่มีทะเลสาบหรือบ่อน้ำ
จากสัมผัสอันทรงพลังของหานเซิ่น เขารู้ว่าทั้งม้าและหมาป่ายังไม่ได้ไปไหน พวกมันยังคงจ้องมองมาที่เขาจากระยะไกล แต่ยังไม่มีฝ่ายไหนกล้าเข้ามา ดังนั้นหานเซิ่นเลยตัดสินใจที่จะอยู่ตรงนี้ไปสักพัก เขาไม่คิดว่าหมาป่าและม้าจะยืนเฝ้าเขาอยู่แบบนี้นานนักหรอก
โชคดีที่หานเซิ่นนำเสบียงอาหารติดตัวมาด้วย เขาพกยาบำรุงมาด้วยหลายขวด อย่างน้อยๆเขาก็อาศัยอยู่ที่นี่ได้ประมาน 2 เดือน ถ้ามันจำเป็นจริงๆ
แต่ดูเหมือนหานเซิ่นจะมองโลกในแง่ดีเกินไป เพราะหลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ ทั้งม้าและหมาป่าก็ไม่มีฝ่ายไหนยอมถอยไปเลย พวกมันยังอยู่รอบๆทุ่งหญ้าที่หานเซิ่นอาศัยอยู่ พวกมันยังคงจ้องมองมาที่เขาจากระยะไกล
“จิ้งจอกสีเงิน นายต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ไม่งั้นนายจะรอให้ฉันตายก่อนถึงจะเคลื่อนไหวใช่ไหม?”
หานเซิ่นเอาจิ้งจอกมาวางตรงหน้า และพูดกับมัน “ไม่ห่วงหรอก! หมาป่ากับหมาจิ้งจอกก็คล้ายๆกันนั่นแหละ นายช่วยไปเจรจากับราชาหมาป่าแทนฉันหน่อยได้ไหม? บอกเขาว่านี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด โอเคนะ?”
หานเซิ่นพยายามผลักให้จิ้งจอกเดินไปทางฝั่งดินแดนของหมาป่า แต่จิ้งจอกก็ไม่ยอมไป มันนอนลงบนพื้นและก็กระพริบตาให้หานเซิ่น ทำให้หานเซิ่นรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังพูดกับก้อนหินไม่มีผิด ดังนั้นหานเซิ่นเลยตัดสินใจเดินวนไปวนมาแถวทุ่งหญ้า เพื่อจะหาทางหนีออกไปให้ได้ แต่เขาก็ยังไม่เจอวิธีหนีดีๆเลย
“ถ้าหนีไม่ได้ งั้นเราก็คงจะต้องลุยกับมันสักตั้ง! แต่ดูยังไงเราก็ไม่น่าจะฝ่าไปทางฝั่งม้าเพกาซัสได้แน่นอน พวกมันมีจำนวนมากกว่าหมาป่า และพวกมันยังบินได้อีกด้วย ดูยังไงมันก็อันตรายกว่า”
ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิด เขามองไปทางฝั่งหมาป่า และเห็นลมกำลังพัดผ่านหญ้า ซึ่งเผยให้เห็นพวกหมาป่าขนสีเทาที่กำลังซ่อนตัวอยู่ ตอนนี้เขาเองก็ไม่แน่ใจว่ามันดักซุ่มอยู่กี่ตัวกันแน่
ตอนนี้หานเซิ่นเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของพวกมันอยู่ เขากำลังรอโอกาสเหมาะๆที่จะฝ่าออกไป ถ้าเขาวิ่งฝ่าออกไปทางหมาป่า มันจะดีมากถ้าเกิดเขาหาตำแหน่งของราชาหมาป่าเจอ ถ้าไม่ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยๆเขาก็หนีออกจากจุดนี้ได้
ขณะที่หานเซิ่นกำลังรอโอกาสเหมาะๆอยู่ เขาก็เห็นพวกม้าดูจะแตกตื่น พวกมันดูไม่สงบเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา ภายในฝูงของมันมีลูกม้าตัวสีแดงปรากฏตัวออกมา พวกม้าตัวอื่นๆเปิดทางให้มันเดิน ไม่มีตัวไหนกล้าเข้าไปใกล้ๆมัน
“รึว่ามันจะเป็นลูกของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด?” เมื่อเห็นเช่นนั้นหานเซิ่นก็ประหลาดใจ ดูแล้วม้าสีแดงตัวนี้เพิ่งจะเกิดได้ไม่นาน ดูมันอยากรู้อยากเห็นมาก ขณะที่มันกำลังเดิน แม้แต่เพกาซัสเลือดศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่กล้าเข้าไปใกล้มัน
“ถ้าเราเข้าไปขโมยลูกม้า เราจะมีโอกาสหนีรอดจากฝูงของมันไหมนะ?”
ในหัวของหานเซิ่นเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมา เขาสงสัยว่าถ้าเขาเข้าไปชิงตัวลูกม้า และเอามีดจ่อคอของมันเพื่อใช้เป็นตัวประกันต่อรองกับราชาม้า มันจะได้ผลรึเปล่า
แต่หานเซิ่นก็ต้องโยนความคิดนั้นทิ้งไป เพราะยังไงอีกฝ่ายก็เป็นมอนสเตอร์ไม่ใช่มนุษย์ ถ้าพวกมันเห็นหานเซิ่น พวกมันก็คงจะเข้ามาฆ่าทันที โดยไม่ได้สนใจเรื่องต่อรอง
ที่สำคัญแม้ลูกม้าสีแดงจะยังตัวเล็กอยู่ แต่มันก็คือมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด ซึ่งหานเซิ่นก็ไม่แน่ใจว่าจะชิงตัวมันมาได้ง่ายๆ
ลูกม้าสีแดงดูจะอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกอย่าง มันมองมาที่หานเซิ่นและจิ้งจอกสีเงินด้วยความสนใจ
ลูกม้าสีแดงพยายามที่จะเดินเข้ามาในทุ่งหญ้าที่หานเซิ่นอยู่ทุกครั้งที่มีโอกาส แต่มันก็ทำไม่สำเร็จ เพราะราชาม้าจะหยุดมันเอาไว้ทุกครั้ง และมันก็จะถูกโยนกลับไป
แต่ก่อนที่ม้าสีแดงจะเดินไปทางอื่น มันก็หันมามองหานเซิ่นและทำหน้าเศร้าๆ
“น่าเสียดายจริงๆ ถ้าลูกม้าสีแดงวิ่งเข้ามาเอง เราก็น่าจะลักพาตัวมันได้!” หานเซิ่นรู้สึกเสียดายมาก
ในคืนนั้นหานเซิ่นนอนอยู่ในทุ่งหญ้า และมองขึ้นไปบนฟ้าในยามค่ำคืน เขากำลังนับดาวที่ส่องแสงระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า เขารู้สึกเบื่อมาก ดังนั้นเขาเลยเรียกเจ้าหญิงหยินและเจ้าหญิงหยางออกมานั่งเป็นเพื่อนคุย ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากทางฝั่งของฝูงม้า หานเซิ่นรีบหันไปดูทันที และเขาก็เห็นลูกม้าสีแดงแอบย่องเข้ามา ตาของมันจ้องมองมาที่เขาตลอดเวลา
หานเซิ่นมีความสุขมากที่ได้เห็นแบบนั้น แต่ดูเหมือนพวกม้าตัวอื่นๆเห็นมันเข้าแล้ว พวกมันพยายามจะส่งเสียงเกลี่ยกล่อมให้ลูกม้าสีแดงกลับไป แต่ไม่ว่าพวกมันจะทำยังไงลูกม้าสีแดงก็ไม่สนใจ ซึ่งม้าตัวอื่นๆก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปถูกลูกม้าสีแดงด้วย
ครั้งนี้ดูเหมือนราชาม้าจะไม่ได้อยู่แถวๆนั้น หานเซิ่นก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
ตอนนี้ลูกม้าสีแดงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น มันเดินเข้ามาทางหานเซิ่นอย่างต่อเนื่อง มันมองซ้ายมองขวาเกือบจะตลอดเวลา จนกระทั่งมันเข้ามาอยู่ในระยะที่ห่างจากหานเซิ่นประมาน 20 เมตร จากนั้นมันก็หยุดอยู่แค่นั้น มันยืนมองดูหานเซิ่นและจิ้งจอกสีเงิน
“มานี่ เด็กน้อย มานี่เร็ว” หานเซิ่นพูดขณะที่ยิ้มแปลกๆ เขายื่นมือออกไปเพื่อชักชวนให้ลูกม้าสีแดงเข้ามา แต่ทว่าลูกม้าสีแดงกลับเดินถอยหลังไป 2-3 ก้าว แววตาของมันดูจะระมัดระวังตัวมากขึ้น ดูมันจะไม่ไว้ใจหานเซิ่น หานเซิ่นรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นเพราะสีหน้าของเขาชัดเจนเกินไป ดังนั้นเขาเลยรีบทำสีหน้าปรกติ ตอนนี้เขาพยายามที่จะไม่ยิ้มออกมา เขาทำหน้าตาใสซื่อ เขาคิดว่าถ้าทำแบบนี้อาจจะล่อให้ลูกม้าเข้ามาหาได้ หานเซิ่นเอาอาหารออกมา และขว้างมันไปบนพื้นใกล้ๆ แต่ดูลูกม้าจะไม่สนใจ
“ม้ามันชอบกินแค่หญ้ารึไงนะ?” หานเซิ่นรู้สึกผิดหวัง เขาลองพยายามค้นดูในกระเป่า แต่ก็ไม่มีอะไรที่พอจะใช้การได้เลย เขาเลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพื่อล่อมันดี
แต่หลังจากที่ลูกม้ายืนมองดูหานเซิ่นอยู่สักพัก เหมือนว่ามันจะลดความระมัดระวังตัวลงไป มันเริ่มเดินเข้ามาใกล้ๆหานเซิ่นอย่างช้าๆ
ตอนนี้ฝูงม้าเริ่มแตกตื่นแล้ว พวกมันเห็นลูกม้าสีแดงกำลังเข้าไปใกล้หานเซิ่น พวกมันไม่กล้าที่จะทำอะไร สิ่งที่พวกมันทำได้ก็คือส่งเสียงร้องบ้าคลั่ง พวกมันพยายามจะทำให้ลูกม้าสีแดงเดินกลับมาที่ฝูง และพวกมันก็พยายามจะขู่หานเซิ่นด้วยเพื่อไม่ให้ทำร้ายลูกม้า
หานเซิ่นรู้สึกว่านี่มันดูแปลกๆ ตอนแรกเขาคิดว่าที่พวกม้าหรือพวกหมาป่าไม่ยอมเข้ามา นั่นเพราะพวกมันไม่อยากจะเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย แต่ในตอนนี้เมื่อลูกม้าเข้ามาถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมฝั่งหมาป่ายังไม่ยอมเคลื่อนไหวอีก พวกมันลังเลอะไรกันอยู่?
.
.
คอมเม้นต์