อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 679 การต่อสู้ระหว่างมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
บางทีอาจจะเป็นเพราะงูฝูงนี้ที่กำลังตามเขาอยู่ก็ได้ ทำให้หานเซิ่นไม่เจอมอสเตอร์ตัวอื่นเลย ตอนนี้ป่าลูกพีชเต็มไปด้วยงูจำนวนนับไม่ถ้วน
หานเซิ่นไม่รู้ว่าเขามาไกลขนาดไหนแล้ว แต่ไม่ว่าเขาจะหนีไปไกลขนาดไหน เขาก็เห็นแค่งูและต้นไม้ ขณะที่เสียงคำรามของหมีดำก็ยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ
จากระยะไกล หานเซิ่นเห็นต้นไม้สั่นไหวอย่างรุนแรง กิ่งไม้กระจายเกลื่อนพื้นไปหมด ส่วนพื้นดินก็เป็นหลุมเป็นบ่อ
และในที่สุดเขาก็เห็นหมีดำ มันกำลังเฝ้าปากทางเข้าถ้ำอยู่ ตัวของมันเต็มไปด้วยเลือด มันส่งเสียงคำรามดังไปถึงท้องฟ้า ด้านหน้าของมันมีช้างโครงกระดูกอยู่
ช้างโครงกระดูกกำลังใช้งาและง่วงของมันโจมตีหมีดำอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าหมีดำไม่มีโอการที่จะเอาชนะช้างตัวนี้ได้เลย ตัวมันเต็มไปด้วยบาดแผล แต่กระนั้นมันก็ยังคงเฝ้าหน้าถ้ำไม่หนีไปไหน
“หรือว่าในถ้ำจะมีสมบัติอยู่? มอนสเตอร์ขั้นสุดยอด 2 ตัวกำลังต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสมบัติ?” หานเซิ่นเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อที่จะมองเข้าไปในถ้ำให้ชัดขึ้น
แต่สิ่งที่เขาเห็นมันไม่ใช่สมบัติ มันคือลูกหมีตัวเล็กๆที่อยู่ภายในถ้ำ ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้วว่าทำไมหมีดำที่ดูจะอ่อนแอกว่าช้างถึงได้ยืนกรานที่จะขวางทางช้างเอาไว้ มันต้องการปกป้องลูกของมัน
ช้างโครงกระดูกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ขณะที่ตัวของหมีดำก็เริ่มมีสีดำมืดขึ้นเรื่อยๆ พวกมันทั้งคู่ต่างก็เด่นในด้านพละกำลัง ฉากการต่อสู้ของพวกมันเป็นภาพที่น่าตกใจมาก ก้อนหินแหลกละเอียด ต้นไม้โค่น และทั่วทั้งบริเวณนี้สั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว
หมีดำมีขนาดตัวที่ใหญ่มาก หานเซิ่นคิดว่ามันน่ากลัวยิ่งกว่าหมียักษ์เหมันต์ซะอีก หมียักษ์เหมันต์มีพลังธาตุน้ำแข็ง แต่หมีดำตัวนี้มีพละกำลังที่มหาศาล ถึงหานเซิ่นจะมีเร็กซ์สไปค์เพลิงอัคคี แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะทำให้มันบาดเจ็บได้
น่าเสียดายที่หมีตัวนี้ต้องมาเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างช้างโครงกระดูก พวกมันต่างก็เป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ในเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายเด่นในด้านพละกำลัง เมื่อมีตัวใดตัวหนึ่งอ่อนแอกว่า อีกฝ่ายก็สามารถใช้กำลังกดดันตัวที่อ่อนแอกว่าได้
หมียักษ์สีดำถูกงาของช้างแทงเข้าที่ลำตัว แรงของช้างมหาศาลมากทำให้หมีดำถูกดันให้ถอยหลังไปติดหน้าผา หน้าผาเริ่มมีรอยร้าว งาของช้างแข็งแกร่งพอที่จะแทงทะลุร่างกายของหมีไปได้ มีเลือดไหลออกมาตามงาที่แทงเข้าไป
ปัง!
หมีดำตบไปที่คอของช้าง ซึ่งทำให้มันถอยหลังไปนิดหน่อย แต่เห็นได้ชัดว่าการโจมตีของหมียังไม่ทรงพลังพอ มันแทบจะทำความเสียหายให้ช้างไม่ได้เลย
ตอนนี้ฝูงงูที่ตามหานเซิ่นมาได้หายไปหมดแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่ต้องการเข้ามายุ่งกับการต่อสู้นี้ งูสีชมพูเองก็หายไปด้วย หานเซิ่นไม่รู้ว่าทำไมงูสีชมพูถึงได้ไล่ต้อนให้เขามาที่นี่
“มันคงจะไม่ได้ไล่เรามาถึงที่นี่เพื่อให้ดูการต่อสู้หรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว ขณะที่เขากำลังคิดหาเหตุผล
แต่เมื่อเขามองดูหมีดำและลูกที่อยู่ภายในถ้ำ ตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา เห็นได้ชัดว่ายังไงหมีดำก็ไม่มีทางเอาชนะช้างตัวนี้ได้ ถ้ามันยังคงต่อสู้กันต่อไปแบบนี้ มันก็คงขึ้นอยู่กับเวลาว่ามันจะตายเมื่อไหร่ จะเป็นยังไงถ้าเขาฉวยโอกาสนี้ในการฆ่ามัน?
ถ้าหมีดำสามารถให้กำเนิดลูกออกมาได้ บางทีผลึกพลังชีวิตของมันก็คงจะเหมือนกับโกลเด้นโกรวเลอร์ ซึ่งมันอาจจะกินได้เลยก็ได้
เมื่อมีความคิดเช่นนี้ หานเซิ่นก็ตื่นเต้นขึ้นมา บางทีเทพีแห่งโชคชะตาคงจะอยู่ข้างเขาอีกแล้ว ด้วยโอกาสที่หาได้ยากแบบนี้ หานเซิ่นอาจจะไขความลับของผลึกพลังชีวิตได้
หานเซิ่นกำลังลังเลอยู่ว่าจะเข้าไปโจมตีตอนไหนดี แต่ทันใดนั้นอยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลัง หานเซิ่นรีบหันกลับไปด้วยความตกใจ เขาเห็นงูสีชมพูกำลังเลื้อยอยู่แถวกิ่งไม้ใกล้ตัวเขา
หานเซิ่นช็อค เขาไม่รู้ว่ามันเข้ามาใกล้เขาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาสัมผัสถึงตัวมันไม่ได้เลย มันไม่น่าจะเป็นไปได้สำหรับคนอย่างหานเซิ่นที่มีสัมผัสเหนือมนุษย์
งูสีชมพูอยู่ห่างจากหานเซิ่นประมาน 2 ฟุต เขาเลยไม่กล้าที่จะขยับ เพราะเขากลัวว่างูจะโจมตี ถ้าเขาขยับตัว
เร็กซ์สไปค์เพลิงอัคคีเป็นอาวุธที่ใหญ่เกินไปสำหรับจะนำมาใช้กับงูตัวแค่นี้ มันเป็นอาวุธที่เหมาะสำหรับล่ามอนสเตอร์ตัวใหญ่ๆ แต่เมื่อเจอกับงูตัวแค่นี้ เขาต้องการความแม่นยำและความรวดเร็วมากกว่า เร็กซ์สไปค์เพลิงอัคคีจะกลายเป็นอะไรที่เกะกะทันทีเมื่อต้องสู้กับงู
แต่ดูเหมือนงูสีชมพูไม่ได้มีความคิดที่จะโจมตีเขา งูมันจ้องมองหานเซิ่น จากนั้นมันก็เอาตัวของมันพันกิ่งไม้และก็หักมัน แล้วมันก็เลื้อยไปที่พื้นพร้อมกับกิ่งไม้ที่หัก จากนั้นมันก็ใช้กิ่งไม้เขียนอะไรบางอย่างบนพื้นดิน
หานเซิ่นมองดูงูสีชมพูด้วยความประหลาดใจ เขาไม่รู้ว่ามันต้องการอะไร แต่ดูแล้วมันเป็นมอนสเตอร์ที่โดดเด่นในด้านสติปัญญาอย่างไม่ต้องสงสัย
หานเซิ่นมองดูงูสีชมใช้กิ่งไม้ขีดเขียนง่ายๆอยู่หลายขีด และในที่สุดมันก็รวมกันเป็นรูปของช้าง หานเซิ่นเข้าใจได้ทันทีว่ามันคงจะหมายถึงช้างโครงกระดูกแน่ แต่หานเซิ่นก็ยังไม่เข้าใจว่างูมันจะวาดรูปช้างทำไม ขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่ เขาก็เห็นงูมันวาดรูปตัว ‘X’ บนรูปช้าง
เมื่อเห็นรูปโคงกระดูกช้างถูกกากบาท หานเซิ่นก็เข้าใจได้ว่างูสีชมพูคงจะพยายามบอกให้หานเซิ่นกำจัดช้างตัวนี้
หานเซิ่นขมวดคิ้ว ในตอนแรกที่ถูกไล่ต้อนมา เขาก็คิดว่ามันอาจจะต้องการให้เขาฆ่ามอนสเตอร์ตัวที่ฆ่าได้ง่ายๆอย่างหมีดำ
เพราะยังไงหมีดำก็ได้รับบาดเจ็บหนัก มันอ่อนแอกว่าช้างแน่ๆอยู่แล้ว สิ่งที่เขาต้องทำก็คือหาจังหวะโจมตีปิดชีวิตของมันก็พอ
แต่การที่งูสีชมพูต้องการให้ฆ่าช้าง ทำให้หานเซิ่นประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นงานสุดหินจริงๆ
‘สัตว์ก็คือสัตว์แหละน่า ถึงมันจะดูฉลาด แต่มันก็ไม่รู้จักดูสถานการณ์เลย’ หานเซิ่นคิดว่างูสีชมพูยังไม่ฉลาดเท่าที่ควร เพราะมันดันเลือกช้างเป็นเป้าหมาย
แต่เมื่อเขาลองคิดเกี่ยวกับมันดีๆแล้ว เขาก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นแบบนั้น เขาเคยเห็นสติปัญญาของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดอย่างราชาหมาป่าและราชาเพกาซัสมาแล้ว งูตัวนี้ก็ไม่ต่างกัน เรื่องแค่นี้มันคงจะมองออกง่ายๆอยู่แล้ว มันต้องมีเหตุผลแน่ที่ต้องการให้จัดการช้างก่อน
หานเซิ่นจำได้ว่าตอนที่อยู่ใต้ต้นพีชยักษ์ งูสีชมพูและหมีดำก็เหมือนๆกัน พวกมันไม่สามารถโคจรพลังได้ พลังภายในของพวกมันดูพร่ามัว แต่ช้างโครงกระดูกและลูกหมีตัวเล็กๆสามารถโคจรพลังภายในได้
‘เรื่องนี้จะมีความเกี่ยวข้องกันไหมนะ? หรือมันจะเป็นสิ่งที่งูต้องการ’ ยิ่งหานเซิ่นคิด เขาก็ยิ่งช็อค
ถ้างูสีชมพูเล็งที่จะฆ่ามอนสเตอร์ที่สามารโคจรพลังได้ การที่มันต้องการจะจัดการช้างตัวนี้ก็เป็นเรื่องปรกติ
ส่วนหมีดำตัวนี้ก็บาดเจ็บหนักอยู่ ถ้าช้างถูกกำจัดไปแล้ว แม่หมีก็ไม่น่าจะมีแรงพอที่จะปกป้องลูกของมันได้ ซึ่งพวกลูกหมีก็จะต้องเป็นเหยื่อรายต่อไปของงู
เพราะยังไงป่านี้ก็เป็นอาณาเขตของงูตัวนี้อยู่แล้ว ด้วยกองทัพลูกสมุนของมัน มันสามารถรุมเล่นงานแม่หมีที่บาดเจ็บได้ไม่ยาก
‘งูตัวนี้มันร้ายจริงๆ!’ หานเซิ่นรู้สึกช็อค แต่เขาก็รู้สึกว่านี่อาจจะเป็นโอกาสของเขาด้วยเช่นกัน
คอมเม้นต์